Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนกับวัด อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
มานพ ธงชัยตระกูล
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ค.2006, 2:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

....คนสมัยนี้ทำไมไม่สนใจจะเข้าวัดกันซักเท่าไหร่ ศาสนาเป็นสิ่งขัดเกลาจิตใจให้กับผู้คน แต่ผู้คนที่เข้าไปที่วัด ทำไม ต้องหวังให้พระดูดวง ต้องไปนั่งให้พระเสริมดวงชะตาให้ ถึงจะเป็นที่พอใจ จริงๆแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าเข้าวัดทำบุญ แต่ทำไมถึงต้องไปเกี่ยวกับเรื่องดวง โชคชะตาด้วย เข้าวัดไปทำบุญด้วยใจที่บริสุทธิ์ไม่ได้หรือ อยากให้คนไทยหันมาสนใจวัด ให้เยอะๆครับ
 
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ค.2006, 6:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ อย่าไปตั้งข้อสงสัย แบบนี้เลย เพราะไม่ว่าจะตอบแบบไหน ก้อหาข้อสรุป ไม่ได้อ่ะนะ
ขำ เขาเชื่อแบบไหน เขาก้อทำแบบนั้นอะล่ะ

ดอกไม้
 

_________________
อย่าดับความอยากด้วยการสนอง จงดับโดยวางเฉย
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
อธิชาตินันท์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 19 พ.ค. 2006
ตอบ: 24
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ค.2006, 10:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นด้วยกับคุณมานพครับ
เป็นเพราะคนสมัยนี้ไม่เข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา
ศาสนามีทั้งเปลือกและแก่น
แต่คนสมัยนี้หลายคนมักติดอยู่กับเปลือก
การดูดวงมีผลดีในแง่ของจิตวิทยาท่านั้น
แต่ถ้าเราทำกรรมไม่ดี
เราก็ต้องได้รับผลกรรมอันนั้น
ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะมาหมกมุ่นเรื่องดวง
ขอเพียงให้เรามั่นใจในกรรมดีของเราก็พอ
เพราะถ้าเราทำเหตุให้ดี ผลก็จะดีเอง

วิธีที่จะทำให้คนเข้าวัดเยอะๆควรจะปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ
ในระบบการศึกษาครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 21 พ.ค.2006, 1:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณมานพ

สังคมปัจจุบันเป็นอย่างนี้จริงๆ เหมือนระเบียบ วินัยเป็นแค่สิ่งที่เขียนไว้เรียนมาเพื่อทราบเท่านั้น แต่ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องเคร่งครัด หน้าที่ของพระสงฆ์คือเผยแพร่หลักธรรมคำสอนตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าท่านทรงวางแนวทางไว้ ถึงแม้คนเข้าวัดจะมีวัตถุประสงค์หลากหลาย หากแต่ผู้นำแนวทางไม่ไขว้เขวไปทางพิธีกรรม ไม่ติดในวัตถุ เครื่องลางปลุกเสก ไม่หวังในลาภสักการะต่างๆแล้ว ย่อมเป็นผู้นำชี้ทางให้แก่สาธุชนได้เป็นอย่างดี

ลองพิจารณาดูซิว่า สรุปแล้วพระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องอะไร พิธีกรรมมาจากไหน วัตถุ เครื่องลาง การปลุกเสก สักยันต์ลายเต็มตัว ลงนะ ลงกระหม่อม แล้วมานั่งเอาตำราปะไว้ว่าเคารพในองค์บรมศาสดาทำได้อย่างไร อะไรคือแก่นแท้ในศาสนาพุทธ หากนำทางได้ถูกต้องย่อมไม่ไขว้เขว เว้นแต่เดินเป๋ตามๆกันมา

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา
ธรรมจักร
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ทิพ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 พ.ค.2006, 10:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
อยู่ที่ ผู้ปกครอง พาเข้าวัด ดีกว่าไปเดิน ห้างแอร์ เย็น
ฝึกไว้ตั้งแต่เล็ก เล็ก เราพาลูก สวดมนต์ ทุกวันก่อนนอน
ปิดเทอม ลูกไปบวช 7 วัน ดีใจมาก เค้าอยาก บวชเอง อายุ 8 ขวบ
เป็นภาพที่ น่ารักมากมาก คะ
บุญนี้ ขอถึงแด่ชาวเวป ที่อ่าน เจอ ทุก ท่าน คะ
 
ชช.
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2006, 6:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมว่าวัดที่ท่านผู้ตั้งกระทู้กล่าวถึงคงมิได้หมายถึงวัดที่สามารถเข้าถึงได้ถึงคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ผมอ่านกระทู้แล้วเข้าใจเอาว่า ท่านคงหมายถึงวัดที่ผู้คนสามารถเอาทรัพย์ไปแลกเอาบุญหรือไถ่บาปได้ ถ้าผมเข้าใจถูกต้อง ผมก็เป็นคนหนึ่งหรือครอบครัวหนึ่งที่ห่างวัดในความหมายของท่านครับ และเห็นด้วย

แต่ถ้าท่านหมายถึงการศรัทธาในพระธรรมหรือคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ผมว่าคงไม่ใช่ครับ เท่าที่ได้ทราบหรือรับรู้ได้ มีคนมากมายที่ยังคงศึกษาแลศรัทธาในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ครับ ดังเช่นผมที่พยามศึกษาอยู่(ที่บ้าน)ครับ และพยายามถ่ายทอดความศรัทธานี้ให้แก่ทายาทอย่างเงียบๆ ท่านอื่นๆ อีกหลายท่านก็เช่นกัน

การทำจิตให้สงบนั้น ในบางครั้งสังคมรอบข้างก็ไม่เข้าใจและเหมาเอาว่า งมงาย เพี้ยนหรือบ้าก็มีครับ นี่คงป็นเหตุให้การเข้าวัดอาจทำให้ความรู้สึกของบุคคลทั่วไปนั้นรู้สึกขัดๆ และนี่คงทำให้กระทู่ที่ท่านเสนอนั้นสมเหตุสมผล

อีกอย่าง การรับบริจาคทรัพย์ และการหากลอุบายให้มีการเร่งบริจาคทรัพย์ก็เป็นสาเหตุนึงด้วยเหมือนกันครับ
 
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 24 พ.ค.2006, 12:27 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เคยมีเหตุจำเป็นต้องติดต่อกับ "วัดบ้าน" อยู่หลายวัน
ทุกคนในครอบครัวหดหู่ใจทุกครั้งที่ต้องไปวัดนั้น
เหตุแท้จริงเป็นเรื่องเงินๆทองๆ และความไม่มีสมณสารูป แหละ

ปกติถ้าบัวเบลอจะไปวัด ก็จะไปวัดป่า หรือไม่ก็เป็นวัดสาขาค่ะ

การได้ไปวัดที่มีแนวทางตรงตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นการเพิ่มพูนศรัทธา ส่งเสริมกำลังใจในการปฏิบัติ บางทีติดขัดมีปัญหาอะไร
ก็เป็นโอกาสได้ถามครูบาอาจารย์ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยอุ้มชูสืบสานพระศาสนาน่ะค่ะ

การพาเด็กๆไปวัด จะช่วยให้เขาซึมซับวัฒนธรรมชาวพุทธไว้บ้างไม่มากก็น้อย
ทุกวันนี้ เด็กไทยแทบจะกลายเป็นฝรั่งกันหมดแล้ว
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 มิ.ย.2006, 7:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทธศาสนาเปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่เกิดมา สองพันห้าร้อยกว่าปีแล้ว ก็ย่อมมีกาฝากเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา ในมหาสาโรปมสูตร "พระไตรปิฏกฉบับสำหรับประชาชน หน้า90
1. ลาภสักการะชื่อเสียง เปรียบเหมือนกิ่งและใบไม้
2. ความสมบูรณ์ด้วยศีล เปรียบเหมือนสะเก็ดไม้
3. ความสมบูรณ์ด้วยสมาธิ เปรียบเหมือนเปลือกไม้
4. ฌาณทัสสนะ(ความเห็นด้วยปัญญา) เปรียบเหมือนกระพี้ไม้
5. อกุปปา เจโตวิมุติ(ความหลุดพ้นแห่งใจที่ไม่กลับกำเริบ)เปรียบเหมือนแก่นไม้
จะว่าไปแล้วทุกส่วนของต้นไม้ย่อมมีประโยชน์ พิธีกรรมทางศาสนาก็เป็นความงดงามของศาสนา ต้องมีกิ่งและใบเพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโต มีสะเก็ดไม้เปลือกไม้ไว้คอยป้องกันเนื้อไม้ แต่ใครจะมีความสามารถมองเห็นและนำแก่นไม้ มาใช้ประโยชน์ได้ ไม้หลงติดอยู่กับใบไม้ซึ่งมักจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา ถึงจะให้ร่มเงาความร่มเย็นได้ก็ไม่นานนัก แต่ถ้าสามารถนำแก่นไม้มา
ใช้ประโยชน์ย่อมดีกว่ากันมากนัก แต่ถึงจะหลงติดอยู่กับใบไม้ ก็ยังดีกว่าไปหลงติดกับกาฝากแล้วแยกไม่ออกว่าอันไหนคือใบจริง อันไหนคือกาฝาก อย่าลืมหลักสำคัญ ละบาปทั้งปวง ยังกุศลให้ถึงพร้อม ทำจิตให้บริสุทธิ ขอความสมบูรณ์ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา จงมีแด่ทุกท่าน
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง