ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
คุณฝุ่น
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2006, 11:10 am |
  |
เคยได้ยินมาว่า ทุกข์ทางใจเกิดตอนที่เราเผลอ..
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ท่านผู้ใดอธิบายได้ กรุณาหน่อยนะคะ  |
|
|
|
|
 |
ภูเขาไฟ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2006, 12:29 pm |
  |
ความทุกข์จริงๆ มันเกิดขึ้นตลอดเวลาค่ะ ไม่ใช่แค่ตอนเผลอเท่านั้นค่ะ เพียงแต่คุณไม่รู้ว่านั้นคือความทุกข์ ค่ะ
"เคยได้ยินมาว่า ทุกข์ทางใจเกิดตอนที่เราเผลอ.. " ตรงนี้ ที่คุณได้ยินมา แสดงว่า เขา(คนที่พูด)ได้ผ่านกานเรียนรู้ การฝึกจิตมาแล้วค่ะ เขาถึงพูดมาแบบนี้ เพราะอะไร? เพราะคนที่เขาฝึกจิต จะมีสติรู้ตลอดเวลา แต่พอ เขาเผลอ ตัวกิเลสจะเข้ามาทันที พอเขารู้ตัว เขาจะใช้คำว่า "เผลอ" ซึ่งหมายถึง สติรู้ ได้เผลอไปสะแล้ว ความทุกข์จาก ตรงนี้ จึงเกิดค่ะ
ป.ล แต่พอรุ้ตัวว่าเผลอ ก็ดึงสติรุ้กลับมาใหม่ได้ค่ะ
 |
|
|
|
|
 |
I am
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2006, 12:32 pm |
  |
จิตเราเหมือนน้ำ ชอบไหลลงไปทางต่ำเสมอ
(ชอบคิดไปในทางที่เป็นอกุศล ที่ทำลายตัวเองและผู้อื่น ไม่ชอบที่จะคิดไปในทางกุศล)
เมื่อเราขาดสติหรือเผลอ จึงคิดแต่ในสิ่งที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ |
|
|
|
|
 |
neoman
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64
|
ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2006, 7:24 pm |
  |
..ใช่แล้วครับ ...
ธรรมชาติของจิต เขาชอบไหลไปเรื่อย การมีสติดูจิตอยู่ตลอดเวลาจึงไม่ใช่ของง่าย
แต่ถ้าใครทำได้มาก ก็จะได้ประโยชน์มาก และความทุกข์ก็จะเกิดได้ยาก
แต่ถ้าเผลอ หรือไม่รู้วิธีก็จะเศร้าหมองได้ตลอดเวลา คิดซ้ำๆ ซากๆ คิดแล้วคิดอีก อยู่นั่นแหละ
วนเวียน เหมือนอยู่ในวงกต คนบางคนแม้จะมีความรู้ทางโลกสูง ก็ยังถึงกับฆ่าตัวตายอยู่บ่อยๆ
เพราะฉะนั้น การฝึกสติ จึงมีความจำเป็นมากสำหรับมนุษย์ทุกคน ใครฝึกสติเก่ง คนนั้นก็ได้เปรียบ
จะใช้ชีวิตด้วยความสุขุม และเป็นสุขมากกว่าครับ... |
|
_________________ ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์. |
|
   |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2006, 10:16 pm |
  |
.....เฝ้าดูรู้ความทุกข์ คือ ความทุกข์ ไม่ใช่ทุกข์ไปกับการเฝ้าดูเฝ้ารู้.....
ธรรมะสวัสดี
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
นักวิชาเกิน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2006, 11:58 pm |
  |
เพราะเราเคยชินกับการปล่อยให้การรับรู้ความจริงทุกอย่างถูกจับจดหยุดอยู่ที่เพียงความคิดสมองเท่านั้นไม่เคยปล่อยให้มันผ่านไปถึงจิตเพื่อให้เกิดการเรียนรู้โดยจิตจริงจริงจนรู้แจ้งแม่นยำเกิดเป็นปัญญาตามธรรมชาติ ทั้งที่จิตเราเกิดมาก่อนสมองแต่เรากลับเรียกสิ่งที่สมองจดจำได้เพียงอย่างเดียวเช่น ต้นไม้ คน อาหาร เป็นภาษาแทนรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัส แต่เรากลับไม่สามารถเรียกอะไรที่จิตเราผ่านมาให้ตัวเองเข้าใจได้อย่างละเอียดชัดเจนเลยไม่ว่า ดีใจ ปิติ โกรธในตัวเรา เราพูดแทนการเหมารวมแทนเวทนาที่หลากหลายความรู้สึกที่ก่อเกิดขึ้นกับจิตในช่วงเวลาเดียวกันเท่านั้น ยังไม่เด่นชัดพอที่จะให้จิตเราสามารถระลึกย้อนกลับถึงความรู้สึกเดิมที่ชัดเจนอย่างรูปภาพหรือเสียงที่สมองเราจำได้แล้วยังใช้มือวาดเป็นรูปร่างหรือใช้ปากทำเสียงให้ใกล้เคียงได้ ทั้งทั้งที่จิตของเราก็อยู่ใกล้ชิดกับความรู้สึกเรามาตลอดตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันมากกว่าสมองของเราเสียอีกและยิ่งไปกว่านั้นความคิดของเราไม่เคยถูกปลูกฝังให้เข้าใจว่าจิตเรามีอยู่จริงให้มากไปกว่าจินตนาการ มีเพียงสมองเท่านั้นเพราะเป็นสิ่งเดียวที่วิทยาศาสตร์ยอมรับเพราะสามารถจับต้องเพื่อศึกษาได้
ดังนั้นเมื่อไรก็ตามเราหลุดพ้นจากความเคยชิน(อีกอาการหนึ่งของจิตที่ผลักดันความคิดคนส่วนใหญ่)สามารถทำความรู้สึกถึงการมีอยู่ของจิตเราเองได้มากขึ้นจนสติมีกำลังเมื่อนั้นจิตก็จะได้เรียนรู้สัมผัสกับทุกสิ่งทุกอย่างไปตามธรรมชาติรวมไปถึงความสุขความทุกข์ที่เกิดขึ้นในความคิดจิตก็จะไม่เป็นทุกข์ไปตามความคิดอีกต่อไป
เอ! แล้วทำไมเราต้องเขียนเสียยาวกำลังเขียนด้วยความรู้สึกอะไรหว่า หากทำให้ใครเสียเวลาอ่านขออภัยครับ  |
|
|
|
|
 |
กรัชกาย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 มี.ค.2006, 8:38 am |
  |
โจรมันปล้นตอนที่เจ้าของบ้านเผลอ
ไม่อยากให้โจรปล้นเราก็ต้องไม่เผลอ คือเจริญสติรู้ตัวไว้เท่าที่จะทำได้ |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 มี.ค.2006, 1:48 pm |
  |
|
|
 |
ฝุ่นเอง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 มี.ค.2006, 1:51 pm |
  |
ขอบคุณทุกท่าน ที่ กรุณาเข้ามาตอบกระทู้
ได้ความกระจ่างขึ้นเยอะเชียวค่ะ
ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ
 |
|
|
|
|
 |
ผิน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 มี.ค.2006, 12:03 am |
  |
ต่างจากผมแฮะ ผมนี่ทั้งที่มีสติอยู่นี่แหละทุกข์มันก็โผล่มาให้รู้อยู่อย่างนั้น (ทุกข์ทางใจที่บีบคั้น)
แต่ก้ยังดี ดีกว่าไม่มีอะไรเป็นที่ระลึกรู้ ถึงทุกข์ก็จะรู้  |
|
|
|
|
 |
neoman
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64
|
ตอบเมื่อ:
31 มี.ค.2006, 8:58 pm |
  |
ยกตัวอย่าง เช่น เวลาคุณเกิดความโกรธ .....
ให้คุณรีบตั้งสติ ดู "ความรู้สึกที่กำลังโกรธ" แต่ไม่ใช่ดูว่าใครมาทำให้เราโกรธ และเรากำลังโกรธเรื่องอะไร
ให้ดูแต่เฉพาะความรู้สึกโกรธ ที่กำลังมีอยู่ในจิต ..คุณจะเห็น(ด้วยสติ) ว่าจิตคุณกำลังร้อนรุ่มไปหมดในอก
ให้ใช้สติดูอาการร้อนในอกนั้น ไปเรื่อยๆ (แต่ห้ามคิดถึงคนที่ทำให้เราโกรธเด็ดขาด)......
ดูซิว่า... มันมีลักษณะอย่างไร..?
สักครู่เดียว เราจะเห็นอาการร้อนในอกนั้นค่อยๆ แผ่วลง .....อาการโกรธจะบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
และหายไปในที่สุด.... เย้... เราชนะแย้ววว
ตัง เม...ๆ ๆ |
|
_________________ ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์. |
|
   |
 |
neoman
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64
|
ตอบเมื่อ:
31 มี.ค.2006, 8:59 pm |
  |
ยกตัวอย่าง เช่น เวลาคุณเกิดความโกรธ .....
ให้คุณรีบตั้งสติ ดู "ความรู้สึกที่กำลังโกรธ" แต่ไม่ใช่ดูว่าใครมาทำให้เราโกรธ และเรากำลังโกรธเรื่องอะไร
ให้ดูแต่เฉพาะความรู้สึกโกรธ ที่กำลังมีอยู่ในจิต ..คุณจะเห็น(ด้วยสติ) ว่าจิตคุณกำลังร้อนรุ่มไปหมดในอก
ให้ใช้สติดูอาการร้อนในอกนั้น ไปเรื่อยๆ (แต่ห้ามคิดถึงคนที่ทำให้เราโกรธเด็ดขาด)......
ดูซิว่า... มันมีลักษณะอย่างไร..?
สักครู่เดียว เราจะเห็นอาการร้อนในอกนั้นค่อยๆ แผ่วลง .....อาการโกรธจะบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
และหายไปในที่สุด.... เย้... เราชนะแย้ววว
ตัง เม...ๆ ๆ |
|
_________________ ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์. |
|
   |
 |
|