Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ธรรมะที่ไปนิพพานง่ายสุดหลวงพ่อฤาษีไปนิพพานมาเอามาบอกกล่าว อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พุทธภูมิยินดีบริการ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 มี.ค.2006, 9:17 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ธรรมบรรณนาการกรรมฐานที่ไปนิพพานง่ายที่สุด


กรรมฐานที่ไปนิพพานง่ายที่สุดคือพุทธานุสติกรรมฐาน เพราะพุทธานุสติคือการนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ นี่ถูกต้อง
ทีนี้เวลาการเจริญพุทธานุสติกรรมฐานนี่ทำงัยดี นั่งจับคำภาวนาหายใจเข้าพุทธหายใจออกโธหรือว่าถ้าเรานึกถึงความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างใดอย่างหนึ่งให้มันซึ้งใจแล้วเราจะภาวนาอย่างไรต่อไปก็ได้ ถามว่าผิดไหมมันต้องไม่ผิดถ้าไม่ภาวนาพุทโธแต่นึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยความเคารพก็ถือว่าเป้นพุทธานุสติเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นดูพระพุทธรูปก็ได้หลับตามันฟุ้งซ่านก็ลืมตาดู อันนี้ถูกต้องจริง ๆ การเจริยพระกรรมฐานไม่จำเป็นต้องหลับตาเสมอไป ถ้าหลับตาแล้วอารมณ์มันฟุ้งซ่านก็ลืมตา ลืมตาดูพระพุทธรูป ถ้าเวลานั้นใจเราจับที่พระพุทธรูปตาเราดูอยู่ จิตไม่คิดถึงอารมณ์อื่น เวลานั้นก็เป็นสมาธิในพุทธานุสติกรรมฐาน สมมติว่าถ้าหากพระพุทธรูปสีเหลืองเป็นปีตกสิณควบพุทธานุสติถ้ารู้ลมหายใจเข้าออกด้วยเป็นอานาปานุสติ กำไรมาก ถ้าคนที่เขาฉลาดในพุทธานุสตินี่กำไรมากๆ ถ้าเราได้กสิณเพียงกองเดียวอีกเก้ากองไม่ยากหรอก เพราะเปลี่ยนแต่สีอารมณ์คงเดิม ถ้าถามว่าทำไมพุทธานุสติทำไมไปนิพพานง่ายที่สุดก้ต้องขอตอบว่า "บุคคลใดก็ตามเจริญพุทธานุสติระลึกถึงเราตถาคตอยู่ บุคคลนั้นชื่อว่าจับชายสังฆาติของเราตถาคตอยู่แม้จะไม่เกิดทันเรา ตรงกันข้ามถ้าบุคคลใดอยู่ไกล้เรา แต่ไม่เคยเจริญพุทธานุสติ ตถาคตว่าบุคคลผุ้นั้นไม่เคยพบเราตถาคต"
"ดุก่อนวักลิผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต ผุ้ใดเห้นตถาคตผู้นั้นเห็นธรรม" ถ้าเราคิดถึงพระพุทธเจ้าเราก็อยุ่กับพรพุทธเจ้าตอนนี้พระพุทธเจ้าท่านเข้านิพพาน แล้วเราคิดถึงพระองค์ท่านเราจะไปอยู่ไหนละ
ขอถวายธรรมบรรณาการบูชาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อันมีหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นที่สุด พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ขอให้พระพุทธศาสนาของพระสมณโคดมบรมครู จงถึง 5000ปีด้วยเทอญ


หลักในการเป็นผู้ให้ธรรมทาน

การให้ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง เพราะเราได้ให้สิ่งที่
มีค่าสูงสุด การทำให้คนเป็นคนดีได้เป็นสิ่งที่ประเสริฐ
เป็นการให้ระยะยาวข้ามภพข้ามชาติ เพราะคนทำชั่วจะ
ต้องไปเกิดในอบายภูมิ เป็นระยะเวลานานแสนนาน
หลายล้านล้านปี กว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์มีโอกาสที่จะทำ
ความดีสร้างบุญกุศลได้อีกครั้งหนึ่ง เราให้ธรรมทานถือ
เป็นการให้โอกาสที่ดีแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่สิ่งเหล่านี้
คนจะมองไม่เห็น หรือเห็นได้ยาก แต่เมื่อบุญเขาถึง บุญ
เขามีมากจิตก็จะเปิดรับธรรมะไว้ได้ ก็จะรู้ได้ว่าสิ่งที่เราให้
เป็นสิ่งที่มีค่าแต่ถ้าเขายังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ให้เราถือว่า
เราได้มอบสิ่งที่ดีให้แก่เขาไปแล้ว ถ้าเราจะทำความดีเพื่อ
ให้คนอื่นมองว่าเราดี ถ้าเรายังยึดยังงี้ถือว่าเรายังไม่เข้า
ถึงธรรมะที่แท้จริง ธรรมะเป็นของละเอียดอ่อนคนที่มีจิต
ใจบริสุทธิ์ และเป็นผู้มีบุญจะสามารถเข้าถึงได้ ผมได้
พิจารณารวบรวมไว้เป็น หลักในการเป็นผู้ให้ธรรมทานส่วน
จะเป็นประโยชน์หรือไม่ก็แล้วแต่พิจารณาครับ

1.ให้ด้วยความเมตตาพูดออกมาตามความรู้สึกที่ดี จาก
ความจริงใจของเราเป็นหลัก ให้ดูจิตผู้ฟังจากคำพูดโต้ตอบ
ของเขาว่าเขามีความเข้าใจระดับไหน เขายังเป็นเด็กอยู่
เราเอาแกงเผ็ดไปให้บอกว่าอร่อยเขาคงรับไม่ได้ เขายังไม่
ได้เข้าใจอะไรมาก เราไปถึงก็บอกให้วิปัสสนาเลย หรือ
สอนหัวข้อธรรมที่ยาก เช่น สำหรับผู้ที่เริ่มต้นไปบอกว่า
ผิดศีลตกนรก เขาจะเข้าใจยากจะให้เขาเชื่อยิ่งยาก ควรที่
จะบอกว่าเรารักษาศีล ศีลจะรักษาเรา เช่น เราไม่ฆ่าเขา
ญาติพี่น้องผู้ตายก็จะไม่ตามฆ่าเรา เป็นการมองง่ายๆ แบบ
ทางโลก เป็นต้น

2.ให้ดูว่าเขาขาดตรงไหนก็เติมตรงนั้น แต่อย่าได้บอกว่า
เขาขาดเป็นอันขาด เพราะถ้าพูดออกไปว่าเขาขาด เขาก็จะ
ไม่ฟังแล้ว จิตคนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ให้พูดไปเลย เขา
มีปัญญาเขาจะรู้ได้เอง

3. ไม่ว่าของเราดี มันจะแสดงว่าของเขาไม่ดี คนก็จะไม่ฟัง
แล้ว ยิ่งว่าของเขาไม่ดี จะยิ่งไปกันใหญ่เลย ของเราเป็น
อย่างไรว่าไปเลย

4. ให้เข้าใจในความคิดที่ดีของเขา เข้าใจในความเชื่อของ
เขา ที่ฝังลึกมานาน เข้าใจปัญญาในทางโลกของเขาเพราะ
คนส่วนมากยังยึดติดกับความสุขในปัจจุบัน ความดีในสาย
ตาของเขาก็มีส่วนหนึ่ง เพราะยังไม่ได้ศึกษาคำสอนของ
พระพุทธองค์อย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไร

5. อย่าคิดว่าตนเองถูก ผู้ฟังคิดว่าผิดก็โต้แย้งได้ เปิด
โอกาสให้เขาโต้แย้ง จะไม่เป็นการบังคับ เพราะยิ่งบังคับ
คนจะยิ่งต่อต้าน เราเป็นเพียงผู้นำเสนอ ส่วนการเรียนรู้เป็น
เรื่องของผู้ฟัง และให้คิดเสมอว่าวันนี้เขายังไม่ได้ วันข้าง
หน้าเขาจะได้เอง

6. อย่าได้หวังว่าเราพูดเพียงครั้งเดียว จะทำให้เขาซาบซึ้ง
ได้ อย่าได้คาดหวัง ก็ให้ใช้ความอดทนและความพยายาม
เหมือนขุดบ่อน้ำลึกไป 4 เมตร ยังไม่พบตาน้ำ มือก็แตก
เหนื่อยก็เหนื่อย เลยเลิกล้ม แต่ความเป็นจริง ขุดไปอีกนิด
หนึ่งก็จะเจอตาน้ำแล้ว ยังงี้ก็น่าเสียดาย

7. อย่าไปพูดจุดด้อยของเขา จุดดีของเขาพูดได้ แต่ไม่ใช่
ยอจนเกินความจริง ผู้ฟังจะมองออกว่าไม่จริงใจ เราสอน
อะไรก็จะไม่รับ

8. ผู้ฟัง ฟังแล้วไม่รู้สึกทุกข์ ฟังแล้วสบายใจ เขาก็อยากจะ
ฟัง ทำให้เราก็มีโอกาสได้พูด เช่น มีแต่พูดตำหนิติเตียนสิ่ง
ที่เขารัก อย่างนี้ผู้ฟังจะเป็นทุกข์

9. เราต้องพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นหลัก ผู้ฟังจะ
รู้สึกชอบและเป็นมิตรกับเรา เมื่อชอบแล้วเราพูดอะไรก็จะ
ฟัง

10. ให้เป็นผู้สอนที่ดี ไม่ใช่ผู้ว่าที่ดี เพราะถ้าไปว่าผู้ฟังจะ
ขุ่นข้องหมองใจ พูดไปจะไม่ฟังแล้ว เพราะธรรมชาติของ
มนุษย์ไม่อยากให้ใครว่าจิตไม่เป็นสุข อย่างบางครั้งผู้พูด
เป็นผู้มีอำนาจ เช่น บิดามารดาว่าไปสอนไป แต่ลูกก็จะ
เถียงไม่เชื่อฟัง

11.เราผู้ให้ธรรมทานไม่มีญานหยั่งรู้วาระจิตผู้ใด ก็ขอให้
ฟังเขาให้มาก ผิดถูกอย่างไรก็เปิดโอกาสให้เขาได้พูด ตัว
เขาจะสบายใจ รู้สึกตัวว่ามีความสำคัญ พอถึงคราวเราพูด
เขาก็จะได้ฟังเรา และตัวเราเองก็จะรู้ว่าเขามีความเข้าใจ
เพียงใด มีข้อพกพร่องอะไร เราจะได้สอนถูก บางครั้งเรา
คิดจะสอนเขา แต่ความเป็นจริงเขากลับสอนเรา ก็ดีเสีย
อีกได้ประโยชน์

11. ความคาดหวังของเราให้ตัดไป เพราะจะทำให้ เราจิต
ตกไม่รู้ตัว ของเราจะดีเพียงใด เขาไม่เชื่อก็ได้ เขาพูดโต้
แย้งยังไงก็ได้ จิตเราต้องพร้อมรับ ถ้าเราขุ่นข้องหมองใจ
แสดงว่าเราเอาตัวยังไม่รอดเลย เราต้องฝึกจิตใจ ของเรา
ไปด้วย
พระพุทธองค์เปรียบคนเหมือนบัว 4 เหล่า จะมีทั้ง
ผู้ที่สอนได้และสอนไม่ได้ เวลาเรามีค่า อย่าไปเสียเวลา
กับ ผู้ที่สอนไม่ได้เลย ผู้ที่สอนได้รอเราอยู่อีกมากมาย
เราไม่มีญานหยั่งรู้จิตใจคน ให้พิจารณาให้ดีให้ดูข้อ 6
ประกอบด้วย ถ้าเขาไม่เชื่อเราอย่าได้คับข้องใจ ให้วาง
อุเบกขา แม้จะเป็นคนใกล้ชิดก็ตาม คิดเสียว่าบุญเขายัง
ไม่พอ หรือยังมาไม่ถึง วันข้างหน้าเขาจะได้เอง

ผมขอ
อนุโมทนาบุญกับผู้ให้ธรรมทานทุกท่านครับ สาธุๆๆๆ

ที่มา เอ็มไทย
การสร้างบารมี 100 อย่าง
ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่


วิถีแห่งการทำบุญปฏิบัติธรรมและการประพฤติตนโดยชอบธรรม อันจะนำชีวิตไปสู่เส้นทางแห่งบุญถึง 100 ข้อต่อไปนี้เป็นวิถีบุญจากจีนที่เป็นที่ศรัทธาและยึดมั่นกันมาก แนวปฏิบัติส่วนใหญ่ก็เหมือนกับที่คนไทยเรานับถือกันด้วยเพราะเป็นแก่นของธรรมเนียมพุทธเหมือนกันแม้จะต่างนิกายกันเท่านั้น


1. บริจาคเงินทำบุญงานศพ
2. เก็บทรัพย์สินคืนแก่เจ้าของที่เขาทำตกไว้
3. ช่วยคนตกทุกข์ได้ยากด้วยเงิน
4. ติดไฟฟ้าหน้าบ้านให้ความสว่างแก่คนสัญจรไปมา
5. ขายสินค้าเงินเชื่อให้คนยากจน
6. ซ่อม สร้างสะพานหรือถนน
7. สละทรัพย์ที่จะได้ให้สังคม
8. สร้างพระพุทธรูป
9. เกื้อxxxลส่งเสริมคนดี
10. ดูแลเยี่ยมเยียนพ่อแม่ทุกเช้าค่ำ
11. ช่วยห้ามคนเล่นการพนัน
12. ถือคุณธรรมยิ่งกว่าเงินทองชื่อเสียง
13. ให้ยืมเงินแล้วไม่ทวงคืน
14. เลี้ยงลูกด้วยความรักและเมตตา
15. เป็นคนมีสัมมาคารวะต่อผู้หญ่
16. เคารพรักและปรนนิบัติผู้เป็นนายอย่างดี
17. เป็นคนอ่อนโยนและสุภาพกับทุกคน
18. ให้ความช่วยเหลือพี่น้องที่ตกทุกข์ได้ยาก
19. อธิษฐานให้คุณพระคุ้มครองพ่อแม่
20. เคารพและให้เกียรติสามีหรือภรรยาของตน
21. บริจาคอาหารให้คนยากไร้อนาถา
22. บริจาคเสื้อผ้าให้คนยากไร้อนาถา
23. ตักเตือนพี่น้องมิให้ทำชั่วทำบาป
24. พิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่าย
25. ดูแลรักษาพยาบาลลูกเมียของตน
26. ปล่อยชีวิตสัตว์ที่จะถูกฆ่า ถูกทำร้าย
27. ถือคนจนคนอนาถาว่าเท่าเทียมกับเรา
28. ไม่ติดสุรา ไม่เล่นการพนัน
29. ห้ามเพื่อนมิให้ไปเที่ยวซ่องโสเภณี
30. อยู่ในโอวาทของพ่อแม่
31. บริการให้ความสะดวกแก่ผู้อื่น
32. แนะนำคนอื่นให้งดกินเนื้อวัวและเนื้อสุนัข
33. ไม่แก่งแย่งสมบัติกับพี่น้อง
34. พูดจาไพเราะ ถ่อมตน
35. เคารพนับถือพ่อแม่
36. ไม่ลบหลู่หรือเปิดเผยปมด้อยของผู้อื่น
37. บริจาคข้าวสาร
38. พูดธรรมะหรือสิ่งดีๆให้ผู้อื่นรับฟัง
39. ทำความดีให้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระxxxลให้พ่อแม่ภูมิใจ
40. ช่วยให้คู่สามีภรรยาไม่เลิกกัน
41. เคารพยกย่องศาสนาอื่น
42. บริจาคยารักษาโรค
43. ให้ทานด้วยที่อยู่อาศัย
44. เห็นใจคนที่อ่อนแอหรือมีปมด้อย
45. เป็นพี่น้องที่สามัคคีปรองดองกัน
46. หมั่นสวดมนต์ภาวนาหน้าหิ้งบูชา
47. ช่วยดับไฟที่ไหม้บ้านเรือผู้อื่น ช่วยดับไฟป่า
48. ตักเตือนคนมิให้ดื่มสุราจนเมามาย
49. สำนึกขอบคุณในพระคุณของธรรมชาติ
50. ร่วมสร้างโรงธรรม
51. สรรเสริญเทพยาฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง
52. กินเจ
53. ร่วมเขียนหนังสือธรรมมะ
54. กตัญญู ไม่ลืมพระคุณคน
55. รักษาคนป่วยให้หาย
56. ช่วยงานโรงธรรมหรืองานวัด
57. ช่วยกวาดถนน กวาดใบไม้บนทางสาธารณะ
58. รู้จักให้อภัยผู้อื่น
59. ถือศีลปฏิบัติธรรม
60. ยอมรับในความเป็นจริง
61. ช่วยทารกในครรภ์
62. ลงโทษคนผิดอย่างยุติธรรม
63. ช่วยคนที่ตกอยู่ในอันตราย
64. ไม่รับสินบน ปฏิเสธอามิสสินจ้าง
65. สงเคราะห์เกื้อxxxลคนยากไร้อนาถา
66. ให้อภัย ไม่เอาผิดคนที่ถูกสงสัยแต่ไม่มีหลักฐาน
67. ช่วยสร้างรัง ให้ที่อยู่ที่ทำรังแก่นก
68. ไกล่เกลี่ยพี่น้องที่ทะเลาะวิวาทกัน
69. ช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทน
70. ไม่คิดโกงตราชั่ง
71. บริจาคที่ดิน
72. ไม่คิดแย่งชิงตำแหน่งผู้อื่น
73. มีคู่ครองคนเดียวตลอดชีวิต
74. บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน
75. อาสาช่วยเก็บศพ
76. สงเคราะห์เด็กกำพร้าเด็กอนาถา
77. คิดทำแต่ความดี
78. ถอนฟ้องคดีเพื่อยอมประนีประนอมกัน
79. เชื่อว่าเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง
80. งดมีเพศสัมพันธ์ในวันทำบุญทำกุศลต่างๆ
81. รวยแต่ไม่เย่อหยิ่ง
82. นับถือชื่นชมคนที่ทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ
83. คิดอยากสร้างวัด สร้างศาลเจ้า
84. แม้จนก็ยินดีช่วยเหลือคนจน
85. คิดอดกลั้นในความใคร่
86. กำจัดคนชั่วคนเลว ไม่ละเลยเมินเฉย
87. หน้าตาไม่งาม แต่จิตใจดีงาม
88. ไปร่วมงานศพญาติมิตร
89. ยกย่องในความดีของผู้อื่น
90. มีความละอายต่อความชั่วและความบาปต่างๆ
91. ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวในการทำบุญ
92. คารวะครูบาอาจารย์ด้วยความเคารพ
93. พึงพอใจในวิถีชีวิตของตน ไม่คิดจะทำลายชีวิตตนเอง
94. ช่วยให้ผู้อื่นได้สมรัก ได้แต่งงานกัน
95. ช่วยป่าวประกาศความดีของผู้อื่น
96. สอนเด็กให้รู้หนังสือ
97. มีสัจจะกับมิตรสหายและพี่น้อง
98. ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรม เคารพกฎหมายบ้านเมือง
99. เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมว่ามีจริง
100. สละชีพเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน

ที่มา เอ็มไทย
 
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 31 มี.ค.2006, 10:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ

ขอบคุณค่ะที่นำสิ่งดีดีมาแบ่งปันกัน

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง