Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ปัญญาในพระพุทธศาสนา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
I am
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2006, 9:21 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปัญญาในพระพุทธศาสนา

ท่านแบ่งเป็น ๓ คือ

๑. ปริยัติปัญญา หมายถึงการเรียนรู้จากโรงเรียน การเรียนรู้จากการศึกษา การสนทนา กาพูด รวมถึงอายตนะด้วย เช่น เรียนวิชานั้น วิชาช่างด้านนั้นด้านนี้ เรียนเรื่องศีล ๕ เรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา จำได้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนให้ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส อย่างนี้เป็นต้น (อย่างนี้อนุโลมเข้าเป็นสัญญาก็ได้)

๒. ปฏิบัติปัญญา การนำเอาความรู้นั้นมาประพฤติปฏิบัติ เช่น นำวิชาช่างด้านนั้นๆ มาทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ตามที่ได้เล่าเรียนมา นำเอาศีล ๕ มาปฏิบัติทางกาย ทางวาจาทางใจ ปฏิบัติในศีล ปฏิบัติในสมาธิ เป็นปัญญาที่เกิดจากการประพฤติปฏิบัติขึ้นมาโดยลำดับ

๓. ปฏิเวธปัญญา หมายถึงปฏิบัติจนถึงที่สุด จนสามารถชำระจิตใจได้ ซึ่งเราเรียกว่า ได้มรรค ได้ผล ได้นิพพาน ท่านก็เรียกรวบยอดว่า ปฏิเวธปัญญา เป็นปัญญาที่แท้จริงคือความรู้แจ้งแทงตลอด ละได้ เว้นได้ หยุดได้ ปล่อยได้ ปัญญานี้แหละคือปัญญาที่เราต้องการ
ตัวอย่าง

๑. เรื่องพระโปฐิลเถระ เป็นผู้ทรงพระไตรปิฎกในศาสนาของพระพุทธเจ้า บอกธรรมแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูป แต่ท่านก็ไม่บรรลุธรรม คือความรู้ที่ยังละไม่ได้ตัดไม่ได้ ท่านก็ได้แต่เพียง (สัญญา) ปริยัติปัญญา

จนพระพุทธเจ้าตรัสเรียกท่านว่า “คุณใบลานเปล่า” อยู่เนื่องๆ ทำให้ท่านเกิดสังเวชและได้ปัญญาคือ ตัดได้ ปล่อยได้ นำมาซึ่ง ปฏิบัติปัญญา และปฏิเวธปัญญาของท่านในที่สุด

๒. เรื่องพระพาหิยะ “พาหิยะเธอจงอย่าสนใจในรูป” เพียงเท่านี้ท่านก็ได้ปัญญา ที่ละได้ ตัดได้ ปล่อยได้ จนเป็นเอกทัคคะด้านตรัสรู้เร็วพลัน

๓. เรื่องของท่านองคุลีมาล “เราหยุดแล้วแต่เธอยังไม่หยุด” เท่านั้นแหละท่านก็เกิดปัญญา ทิ้งดาบ กราบพระบาทองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอบวชจนบรรลุอรหันต์ผล

๔. เรื่องที่พ่อพาลูกไปยิงนก ลูกถามว่า “นกตัวนี้มันทำอะไรให้พ่อ พ่อจึงยิงมัน” เท่านั้นผู้เป็นพ่อก็เกิดปัญญาคือ หยุดได้ เว้นได้ หยุดยิงนกตั้งแต่นั้นมาจนตลอดชีวิต

ซึ่งก็พอสรุปได้ว่า ความรู้ที่เกิดจากสัญญาต่างจากความรู้ที่เกิดจากปัญญาอย่างไร ?

ถ้าถามว่า ปัญญาที่เราต้องการนี้เกิดขึ้นตามที่เราต้องการหรือไม่ ?
ก็ตอบว่า ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ ต้องปฏิบัติถึงขั้นถึงตอน หรืออบรมถึงขั้นถึงตอน ถ้าไม่ถึงขั้นถึงตอนก็ไม่ได้ อันที่จริงก็เกิดจากการอบรมมาเรื่อยๆ นั้นแหละ ทำมาเรื่อยๆ จะทำในอดีตนานเท่าใดก็ตาม หรือในปัจจุบันก็ตาม ถ้าถึงขั้นถึงตอนแล้วถ้าได้คำแนะนำ ชี้แนะก็จะได้ปัญญาทันที อย่างเรื่องที่ยกตัวอย่างมา

เอวัง
สาธุ
 
ต้นหญ้า
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2006, 10:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



R2869-30.jpg


สาธุค่ะท่าน I am
 
I am
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2006, 3:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สวัสดีครับ คุณต้นหญ้าและทุกๆ ท่าน
 
บัวใต้
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2006, 11:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



Image1.jpg


สาธุ

อนุโมทนา...สาธุค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ i am , คุณต้นหญ้า และทุกๆท่าน

แลบลิ้น
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2006, 6:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
 

_________________
"อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ"
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง