Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ???แก้ปัญหาได้ทุกประการ ...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 11 มี.ค.2006, 11:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จิตเป็นธรรมชาติที่คิดอ่านอารมณ์
ถ้าคิดไปตามอารมณ์ของตน ตามใจตน
ตามอารมณ์ของเรา จะไร้ผล
ท่านจะเอาดีไม่ได้ ต้องฝืนใจ
การเจริญกรรมฐานต้องการฝืนจิตไม่ให้มีพิษ
เพราะจิตเปรียบเหมือนน้ำย่อมไหลไปสู่ที่ต่ำ
ถ้าเราไม่มีทำนบกั้นน้ำด้วยศีล
คือสติสัมปชัญญะแล้ว
จิตใจของท่านจะเหลวแหลกแตกลาญไปสู่ที่ต่ำ
เป็นการถูกใจ ไม่มีการถูกต้อง

ท่านทั้งหลายเอ๋ย นานาจิตตัง จิตไม่เหมือนกันเลย
เพราะต่างถิ่นต่างฐานต่างฐานะ
พ่อแม่ก็ไม่เหมือนกัน
พี่น้องท้องเดียวนิสัยก็ไม่ตรงกัน
ไม่ใช่ว่าคนมีความรู้ดีจะเป็นคนดีนะ
อยู่ที่นิสัยดีหรือไม่ดี ต่างหาก

ถ้านิสัยดีจะมีปัญญา จะรู้มากรู้น้อยไม่สำคัญ อยู่ที่นิสัย
นิสัยแปลว่าแบบอย่าง เรามาฝึกแบบ มีตัวอย่างที่ดีของตัวเอง
เราจะได้รู้ว่าอ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็นอยู่ตรงไหน
ในแง่คิด ในแง่มุมมอง ในแง่เหลียวซ้ายแลขวา
ในแง่หันมุมกลับ นี่แหละท่านถึงจะได้รู้ว่า
ท่านมีปัญญา รอบรู้ในกองการสังขาร

ถ้าท่านมานั่งเจริญกรรมฐาน บำเพ็ญจิตภาวนาแล้ว
ท่านจะยังไม่ทราบว่าท่านมีปัญญา
ต้องไปประสบการณ์ด้วยตนเอง
ถ้าจะรู้ว่าปัญญาแก้ปัญหาได้ตรงไหน

ถ้าไปประสบการณ์อุบัติเหตุหรือประสบทุกข์ขึ้นมา
ปัญญาที่สะสมไว้จะออกมาแก้อย่างโน้นอย่างนี้
ทำอย่างนี้ทำอย่างนั้น ท่านถึงจะรู้ตัวว่าท่านมีปัญญา
แก้ปัญหาได้ อย่างนี้ถึงจะถูกต้อง
ไม่ใช่ปัญญาในหนังสือ ปัญญาที่เรียนเป็นดอกเตอร์
หรือตำราที่เรียนมาจากครูบาอาจารย์
เป็นตำราเหตุผล ๒ ประการ

๑. พระพุทธเจ้าบังคับให้เรียนหนังสือ
ให้มีวิชาใส่ตัวเองก่อน และบังคับต่อไปคือ
๒. มีวิชาต้องใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง
เรียกว่าปฏิบัติธรรม มีกิจกรรมส่งเสริมวิชาการให้สูงขึ้น
ไม่ใช่ว่ามีความรู้เท่าทันเหมือนกันหมด เรียนทันกันหมด
แต่ความดีไม่เท่ากันมันจึงลักหลั่นกัน
คนเราจึงนานาจิตตัง จิตนิสัยไม่เหมือนกัน

เราคนเดียวก็ไม่เหมือนกัน
ตั้งแต่เช้ามาอารมณ์เสีย ตอนบ่ายอารมณ์ดี
เดี๋ยวสับสนอลหม่านในตัวเองไม่ใช่หรือ
ตัวเองก็มีทั้งดีทั้งชั่ว อย่าไปตีความผิด
เราทุกคนพร้อมด้วยอาตมาก็มีทั้งดีทั้งชั่ว
แต่ปัญหามีอยู่อันหนึ่งคือ
ต้องกำจัดความชั่วออกจากตัวให้ได้
ต้องพยายามอย่างยิ่ง

เอาอะไรมากำจัด เอาศีลมากำจัด
ศีลแปลว่าปรกติ ปรกติอยู่ตรงไหน
อยู่ที่เจริญกรรมฐาน กำหนดจิตให้มีสติทุกอิริยาบถ
จะยืนเดินนั่งนอน เหลียวซ้ายแลขวา คู้เหยียด เหยียดขา
มีสติหน่อยได้ไหม คู้หนอ เหยียดหนอ เป็นต้น
มีสติสัมปชัญญะ นั่นแหละรู้ตัว รู้ทั่ว
มันจะออกมาบอกเราว่านี่ซิเป็นปรกติ
มีมารยาทตลอดรายการ จะทำอะไรก็มีระบบ มีระเบียบ
เพียบด้วยวินัย ถูกแบบ ถูกบท หมดจดทุกประการ
จะเป็นแม่บ้านการเรือนเคหศาสตร์ก็ตาม
จะมีระบบไปหมด นี่คือศีลใช่หรือไม่
ถ้าโยมขาดสติสัมปชัญญะ
จะเป็นพ่อบ้านก็เป็นพ่อบ้านที่ไม่ดี
จะเป็นแม่บ้านก็เป็นแม่บ้านที่ไม่ดี
ฉุยแฉกแตกลาญ มันอยู่ตรงนี้

การเจริญกุศลภาวนา ต้องการบำเพ็ญศีล
ต้องการเอาศีลมาไว้ในใจ
คือมีสติประจำจิตประจำใจของตน
และมีความรู้ตัวเป็นสัมปชัญญะปัพพะเป็นตัวเหตุผล
ทำให้คนสร้างกุศลจิต

ตัวสำรวมจิตคือตัวสติ
สำรวมเข้าไว้ระลึกเสมอว่าเราทำอะไรอยู่ ณ บัดนี้
ขณะทำปัจจุบันเป็นตัวสัมปชัญญะเรียกว่าตัวรู้
มาผนวกบวกกันเรียกว่าตัวปัญญา
รอบรู้ในกองการสังขาร
โยมจะได้อ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น
เป็นปัญญา รอบรู้ในเหตุผล แก้ปัญหาได้ทุกประการ

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้

คัดลอกจาก:
http://www.jarun.org/v5/index.html

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
I am
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 มี.ค.2006, 8:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนาครับ คุณลูกโป่ง สาธุ... สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง