Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
อยากรู้ว่า ทำไม
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
งานศพ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 04 มี.ค.2006, 3:56 pm
อยากทราบว่า ทำไมเมื่อคนเราตายแล้ว ต้องเอาไปวัด ต้องให้พระมาสวด ต้องให้คนเมางานสวดศพ ต้องมีการทำบุญกรวดน้ำ คนตายแล้วจะรับรู้ถึงทั้งหมดที่เกิดขื้นไหม ทั้งหมดที่เกิดขื้นเกี่ยวกับคนตาย เป็นแค่พิธีที่ต้องทำตามกันไปงั้นเอง หรือทำแล้วคนตายจะได้รับจริง
neoman
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64
ตอบเมื่อ: 04 มี.ค.2006, 7:44 pm
คนตายมีโอกาสได้รับกุศลที่ทำในงานศพ แล้วญาติอุทิศไปให้จริงครับ....
แต่... ไม่แน่เสมอไป (ไม่ทุกราย) แล้วแต่ว่าคนตายจะไปอยู่ในภพภูมิไหน ....
คนเรา ตายปุ๊บ ก็เกิดปั๊บ... ส่วนจะไปเกิดในภพไหน ก็แล้วแต่วิบากกรรม
ถ้าคนตายไม่ไปเกิดในนรก ไม่ไปเกิดเป็นเดรัจฉาน ไม่ไปเกิดเป็นคน ไม่ไปเกิดเป็นเทวดา ซะก่อนก็มีสิทธิ์รับรู้
และได้อนุโมทนาบุญที่ญาติทำไปให้ ก็จะได้รับบุญนั้นครับ
ขอเชิญอ่านเรื่องตัวอย่างได้จากที่นี่ครับ....
http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=8421
_________________
ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์.
neoman
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64
ตอบเมื่อ: 04 มี.ค.2006, 7:50 pm
ลิงค์ข้างบน เป็นเรื่องของวิญญาณหนูพิมพวดี บอกนายแพทย์อาจินต์ว่าจะไปรับกุศลที่ศาลาเก็บศพ เขาจะอุทิศกุศลให้คืนนี้... ไปอ่านดูครับ
ส่วนการที่ให้พระมาสวดศพนั้น ผมสอบถามพระอาจารย์ของผม ท่านบอกว่าความจริงแล้วพระท่านสวดให้คนเป็นฟัง เพราะบทสวดนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุญ กรรม วิบากกรรมที่ทำทางกาย ทางจิตอะไรพวกนี้แหละครับ
_________________
ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์.
เขม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 05 มี.ค.2006, 8:06 am
--------------------------------------------------------------------------------
อยากทราบว่า ทำไมเมื่อคนเราตายแล้ว ต้องเอาไปวัด ต้องให้พระมาสวด ต้องให้คนเมางานสวดศพ ต้องมีการทำบุญกรวดน้ำ คนตายแล้วจะรับรู้ถึงทั้งหมดที่เกิดขื้นไหม ทั้งหมดที่เกิดขื้นเกี่ยวกับคนตาย เป็นแค่พิธีที่ต้องทำตามกันไปงั้นเอง หรือทำแล้วคนตายจะได้รับจริง
.....................
อยู่ที่ประเพณีท้องถิ่นด้วย หรืออยู่ที่ความเชื่อถือของกลุ่มชนนั้น ๆ ด้วย เช่น
ศพฝรั่ง ไม่ได้เอามาสวดที่วัด ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ๆ ก็ไม่ได้มาสวดที่วัด เป็นต้น
แต่ผู้ที่นับถือพุทธศาสนาในประเทศไทยก็เอาสวดกันที่วัด เพราะเราเชื่อถือกันว่า วัดเป็นแหล่งบุญ
แต่ก็อีกนั่นแหละครับ ชาวพุทธด้วยกันนี่แหละแต่มีความเชื่อที่แตกออกไปในเมืองไทยนี่แหละครับ เกิดมีคนในกลุ่มของตนตายขึ้นมาก็ไม่ได้นำมาสวด เอาไปเปลื้องผ้าเผาไฟเลย อย่างสำนักไม่โสกไง แถวบึงกุ่มไงคับ
เห็นมั้ยครับ มันอยู่ที่ความเชื่อของคนจริงๆ
แต่ชาวพุทธส่วนมากก็เป็นอย่างที่เราเห็น ๆ คือมีคนในบ้านของตนเสียชีวิต ก็นำไปสวดทีวัด เจ้าภาพทำด้วยความเชื่อความเลื่อมใส แล้วก็อุทิศส่วนกุศลนั้นให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว (ตามหลักคำสอนทีว่า เมื่อพ่อแม่ เป็นต้น ล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศไปให้ท่าน)
แต่เนื้อหาในการสวดพระอภิธรรมเป็นการพูดถึง กุศลธรรมอกุศลธรรม เป็นต้น เพื่อให้คนเป็นได้มรณานุสติ
งานศพ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 06 มี.ค.2006, 2:53 pm
ขอบคุณทุกท่านที่กรูณา ตอบให้ความรู้ ที่ตั้งคำถามอย่างนี้ก็เพราะ มีความคิดว่าเมื่อตัวเองตาย จะบริจาคให้นักเรียนแพทย์ทันที ไม่ต้องลำบากใครให้หาวัด ไม่ต้องลำบากใครให้มางานศพ และไม่ต้องการให้ใครมาสิ้นเปลืองเงิน แม้จะเป็นเงินตัวเองก็คิดว่าบริจาคให้คนเป็นเลยดีกว่าจะมาเสียเงินให้กับตัวเองที่ตายไปแล้ว แต่ถืงตอนนี้ ก็ยังกลัวๆและยังไม่แน่ใจ ขอความกระจ่างอีกสักหน่อย
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 07 มี.ค.2006, 2:16 pm
งานศพ พิมพ์ว่า:
อยากทราบว่า ทำไมเมื่อคนเราตายแล้ว ต้องเอาไปวัด ต้องให้พระมาสวด ต้องให้คนเมางานสวดศพ ต้องมีการทำบุญกรวดน้ำ คนตายแล้วจะรับรู้ถึงทั้งหมดที่เกิดขื้นไหม ทั้งหมดที่เกิดขื้นเกี่ยวกับคนตาย เป็นแค่พิธีที่ต้องทำตามกันไปงั้นเอง หรือทำแล้วคนตายจะได้รับจริง
ขึ้นอยู่กับขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละศาสนาดังที่ทุกท่านกล่าว หากแต่ว่าถ้าคุณคิดจะบริจาคซากร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่หลังจากหมดลมหายใจไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลที่ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้ ทำให้ทราบได้ว่าคุณไม่ยึดติดแม้เพียงพิธีกรรม หรือหลงยึดในความมี ความเป็นขณะดำรงชีวิตความเป็นมนุษย์ ตายซะก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ เตรียมจิตให้ดีว่าหากโครงร่างต้องไปแขวนเพื่อให้เป็นอาจารย์ใหญ่ จะไม่ไปรบกวนขอส่วนบุญ ส่วนกุศลให้เป็นที่วุ่นวายแก่คนที่ไม่รู้
แยกกายแยกจิตให้ได้เสียก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ มันจะได้ไม่ต้องไปทรมานในภพวิญญาณอีก ไม่ต้องไปรบกวนใครอีก เป็นครูต้องเป็นได้แม้สิ้นลมหายใจ คนที่เป็นนักศึกษาก็เช่นเดียวกัน โครงครูไม่ว่าโครงไหนใช่ว่าจะไม่ทรมานหากเตรียมตัวกันมาไม่ดี ก็ขอให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ทุกวันด้วยจิตเมตตาอันบริสุทธิ์ก็จะเป็นการดี ไม่ต้องมัวรอว่าพระต้องเดินเข้ามาบิณฑบาตรในมหาวิทยาลัยถึงจะทำ สวดมนต์ไหว้พระ ปฏิบัติสมาธิ แผ่จิตอันเป็นกุศลให้โครงครูทุกรูป ทุกนาม ทุกท่าน ทำให้เป็นปกติ สม่ำเสมอ เท่านี้ท่านก็จะสงบพ้นจากทรมานในขณะยังต้องแขวนเป็นโครงครูอยู่
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา
neoman
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64
ตอบเมื่อ: 10 มี.ค.2006, 12:34 pm
โอ... สาธุ...เลย
ที่จะบริจาคร่างกาย
เมื่อเราตาย เวลาญาติจัดงานศพให้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ศพจริงๆ ครับ ไม่ต้องตั้งโลงศพก็ได้ (เพราะศพให้แพทย์ไปแล้ว)
แต่ให้จัดงานทำบุญอุทิศกุศลธรรมดา ก็ใช้ได้ครับ เพราะจิตวิญญาณของเราจะไม่อยู่กับศพ และถ้าเราไปเกิดในภพที่สามารถรับบุญได้ เราก็จะสามารถรับกุศลที่ญาติอุทิศไปให้ได้เองครับ
แต่ถ้าไม่จัดงานใดๆ เลยก็ได้เช่นกัน แค่ญาติเราตักบาตร แล้วอุทิศกุศลไปให้ ก็ได้เช่นเดียวกัน
ดีแล้ว ไม่เป็นการยุ่งยากซะอีก
แต่ถ้าไม่มีญาติ ไม่มีใครทำบุญไปให้เลย เราก็ต้องอาศัยบุญที่เราทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่นี่แหละ ไม่ต้องอาศัยบุญใครคอยกรวดน้ำไปให้ เกิดเขาลืม เราจะได้ไม่ต้องอด
_________________
ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์.
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th