Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
" ฝึกสมาธิจะทำให้เป็นบ้าได้เหรอ ครับ "
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ผู้น้อย
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 05 ก.พ.2006, 5:00 pm
" ฝึกสมาธิจะทำให้เป็นบ้าได้เหรอ ครับ "
มีคนเคยบอกว่า การฝึกสมาธิจะทำให้เป็น บ้าได้ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า จะรบกวนขอคำแนะนำ หน่อยนะครับ
แล้วแบบนี้จะนั่งสมาธิคนเดียวได้ไหมครับ
โดยคุณ : ผู้น้อย เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2549, 13:52 น.
เขม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 05 ก.พ.2006, 5:03 pm
-" ฝึกสมาธิจะทำให้เป็นบ้าได้เหรอครับ "
-เป็นคำถามที่ดีมาก ๆ เลย
ในเว็บหรือนอกเว็บ ก็มีผู้ถามปัญหาดังกล่าวนี้เหมือนกัน น่าจะถามกันต่อไปอีกในอนาคต
-กลับเข้าประเด็นที่คุณข้องใจต่อ "ฝึกสมาธิทำให้เป็นบ้าได้เหรอ.."
-คุณเคยได้ยินคำพูดที่ว่า เด็กคนนี้ หรือผู้นี้มีสมาธิสั้นไหม ?
นั่นแปลว่า สมาธิ มีอยู่แล้วในเด็กคนนั้น หรือ ในบุคคลนั้น แต่ไม่ยาวคือไม่แน่วแน่มั่นคงได้นานเท่านั้นเอง
คุณเองก็มีสมาธิอยู่เช่นกัน อยากรู้ว่าสั้นหรือยาวลองอ่านหนังสือดูสิ ให้สังเกตดู ถ้าคุณควบคุมให้จิตใจอยู่กับหนังสือได้นานๆ แปลว่ามีสมาธิยาว....เข้าใจนะครับ
-สมาธิมี 2 คือ สัมมาสมาธิ (ความตั้งมั่นชอบ หรือถูกต้อง) กับ มิจฉาสมาธิ (ความตั้งมั่นผิดหรือไม่ถูกต้อง)
แปลว่า สมาธิมีทั้งถูกและผิด
-สมาธิเป็นเจตสิก เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของจิตใจ ซึ่งเกิดพร้อมกันดับพร้อมกัน (มันละเอียดและเร็วจนแยกไม่ออกถ้าไม่เรียน ไม่ต้องใส่ใจตรงนี้ก็ได้บอกไว้เฉยๆ
ปูพื้นความรู้เรื่องสมาธิให้คุณ)
นั่นก็แปลว่า จิตกับเจตสิก เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และดับไปพร้อม ๆ กันทุกลมหายใจเข้า-ออก
(อุทาหรณ์...คิดว่ารัก...เกิดขึ้นปุ๊บ หน้าที่ของมันคือรักเธอเป็นต้น แป๊บหนึ่ง แล้วก็ดับไป) เป็นอันจบกระบวนการทางความคิดครั้งหนึ่ง ฯลฯ
ความคิดเรื่องใหม่ เกิดขึ้นทำหน้าของมัน ฯลฯ...แล้วก็ดับไป) ปรมัตถธรรมหรือวงจรแห่งชีวิต จะเป็นไปอย่างนี้จนสิ้นลมหายใจ
-ความคิดอื่น ๆ ซึ่งมีอีก 108 พันประการก็ทำงานอย่างนี้เอง
-กลับเข้าหลักการปฏิบัติต่อเพื่อให้ตรงจุดประสงค์ของกระทู้
-การฝึกจิตเพื่อให้เกิดสมาธินั้นทำไม่ยาก เพราะส่วนหนึ่งสมาธิมันอยู่แล้วดังกล่าว เพียงแค่เราบริกรรมภาวนาอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งให้ติดต่อต่อเนื่อง
ไม่นานนักสมาธิก็เกิดแล้ว มันอยู่ที่เราว่าทำจริงไหม
จึงตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า สมาธิไม่ทำให้คนเป็นบ้า แต่...มีแต่นะครับ....
-อ่านข้ออุปมาก่อน เพื่อความเข้าใจง่าย
-นายโมหา เป็นคนกลัวผีมากๆ มืดๆ...เขาไม่กล้าแม้แต่จะออกนอกบ้านไปไหนๆ
คืนวันหนึ่ง เขาเดินกลับบ้านตามลำพัง ซึ่งต้องผ่านป่าช้าผีดิบ ซึ่งมีผู้เล่าว่าผีดุเที่ยวหลอกหลอนผู้คนจับไข้หัวโกร๋นมานักต่อนักแล้ว ปรื๋ออ ปรื๋ออ
นายโมหา เดินไปคิดวาดหน้าผีไปว่ามีลักษณะท่าทางแบบนั้นแบบนี้ซึ่งก็ชวนให้ขนพองสยองเกล้าทั้งสิ้น เดินๆ ได้ยินเสียงแกร๊กข้างหลังจึงหันไปดู
เห็นเงาตะคุ่มๆ ยืนดำทะมึนเหมือนผีที่ตนคิดเลยตกใจกลัวขนหัวตั้งเด่....
ไม่ทันพิจารณา ร้องเสียงหลง ผีหลอกๆ ช่วยด้วย ผีหลอกช่วยด้วย วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
สวนทางกับนายปัญญาซึ่งเดินผ่านมาพอดี จับแขนนายโมหาไว้ ไต่ถามก็ได้ความดังกล่าว...
นายปัญญารู้ว่า นายโหาต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ จึงพูดว่า ไปๆ พาฉันไปดูถีว่าเป็นอะไร ไปกับฉันไม่ต้องกลัวฉันมีคาถาดีกันผีได้ 100 % พากันไป
แลเห็นตอไม้ท่ามกลางแห่งความมืด จึงพูดว่า นายโมหาเอ๋ย นี่มันตอไม้นี่ ที่เห็นรูปร่างเหมือนผีเพราะแกจินตนาการเอาเอง ฯลฯ
อุปมาที่ 1
อีกตัวอย่างหนึ่ง
อีกคืนหนึ่ง นายกอ.เดินผ่านยุ้งข้าวข้างบ้าน ซึ่งตนเห็นงูใหญ่เลี้อยผ่านไปเมื่อตอนกลางวัน เดินไปใจก็คิดเห็นแต่งูตัวนั้น หวาดๆว่า จะไปเหยียบมันเข้าแล้วจะขบกัดเอา
ก้าวท้าวเดินเสียงกรุ๊บ มีอะไรขบเข้าที่ซ่น เสียวแปร๊บเอามือคลำดูเลือดๆ ตายละหว่า งูกัดกรูเข้าให้แล้ว
-หมดแรงเดินไม่ไหวทรุดนั่งอยู่ตรงนั้นเอง
ร้องตะโกนให้คนทางบ้านเอาไฟมาส่องดูสิว่างูอะไร
ส่องดูๆ เห็นกะลามะพร้าวซึ่งแตกเป็นวง ตนเหยียบจึงงับให้
เมื่อรู้ความจริงอย่างนี้แล้ว ลุกเดินขึ้นเรือนไป.
อุปมา 2 ข้อนี้ฉันใด
ข้ออุปไมยก็ฉันนั้น ฝึกสมาธิไม่ทำให้บ้า
-แต่ว่า ความไม่รู้ในสภาวะธรรมซึ่งเกิดจากการทำสมาธิหรือการฝึกจิตนั่นแหละทำให้เราวิปลาศหรือเพี้ยนได้
ฉะนั้นผู้ฝึกจิตหรือจะเรียกว่าทำกรรมฐานอะไรก็ได้แล้วแต่จะเรียก จึงต้องมีผู้รู้ในเรื่องนี้คอยแก้อารมณ์ให้ในขณะนั้นๆ
-คุณได้คำตอบแล้วน่ะครับ ถ้าว่า ตรงไหนไม่กระจ่างถามได้อีก
เขียนสะยาวไปหน่อย แต่ก็จำเป็น อธิบายธรรมะซึ่งเป็นนามธรรมมองเห็นยาก จึงต้องมีข้ออุปมาอุปไมยสิ่งที่เป็นรูปธรรม
อนึ่ง. ความรู้ความเข้าใจธรรมะหรือสภาวะธรรม อันเกิดจากการฝึกจิตแบบนี้ ต่างจากความรู้โดยการอ่านหนังสือ.
..................................................................................................................................
ความคิดเห็น
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 05 ก.พ.2006, 11:45 pm
เห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบน
ครับ สภาพจริงที่สัมผัสได้หรือปรากฏระหว่างการปฏิบัติ จะเป็นอะไรก็ตาม จะให้คุณให้โทษอยู่ที่กำลังใจของผู้ปฏิบัติเองเหมือนนีโอ
ในเรื่องเมตริกโดยเฉพาะตอนพระเอกโดนยิงเปี๊ยบเลยครับ บางคนได้เห็นซากศพบ้างได้รับกลิ่นฉุนบ้างได้ยินเสียงรบกวนบ้างขนลุกบ้างตัวหมุนตัวใหญ่หรือไม่รู้สึกตัวบ้างหากแต่จิตมีกำลังมั่นคงไม่หวั่นไหวสิ่งเหล่านั้นยังอาจจะทำให้กำลังสมาธิดิ่งลึกลงไปเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นอีกก็เป็นได้ไม่มีวันทำให้ผู้ปฏิบัติเสียหายแน่นอน ในขณะผู้ที่ได้เห็นพระพุทธรูปเปล่งใส เห็นดอกบัว เห็นแก้วใสสวยงาม แต่จิตขาดกำลังก็จะเพลิดเพลินหลงชื่นชมติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้นไม่ไปไหน กลับทำให้สมาธิไม่ก้าวหน้าหรือตกต่ำลงไปได้อีกก็เป็นได้ ดังนั้นกำลังใจผู้ปฏิบัติจึงสำคัญ หากเป็นคนไม่หวั่นไหวไม่คิดว่าจะมีอะไรที่จะทำให้เป็นคนเสียสติได้เลย ในทางตรงข้ามหากเป็นคนอ่อนไหวง่ายหรือจิตอ่อนไม่ต้องนั่งสมาธิก็เป็นผู้เสียสติหรือเป็นบ้าได้ครับเช่นเวลาที่ชีวิตในทางโลกไปกระทบเหตการณ์สะเทือนใจแรงแรงเข้า หรือโดนคนไม่หวังดีหลอกลวงเป็นต้น ผู้ที่มีลักษณะดังกล่าวจึงอาจต้องมีผู้คอยเพิ่มกำลังใจยามปฏิบัติ ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าความเข้าใจถูกต้องแค่ไหนเพราะเป็นความเข้าใจส่วนตัว
เขม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2006, 5:24 pm
นำข้อเขียนซึ่งบ่งถึงความรู้สึกของผู้ปฏิบัติแต่ละท่านมาให้อ่านกัน
ลองอ่านดูแล้วพิจารณาให้รอบคอบ
.................................
(ได้กลิ่นตอนนั่งสมาธิค่ะ)
เนื้อความ : (raweewan) อ้างอิง |
ตอนนั่งสมาธิบางครั้งจะได้กลิ่นหอม บางครั้งจะได้กลิ่นธูป บางครั้งก็ได้กลิ่นเหม็น ขอคำอธิบายจากผู้รู้ด้วยนะคะ
จากคุณ : raweewan [ ตอบ: 04 ก.พ. 49 09:32 ] แนะนำตัวล่าสุด 04 ก.พ. 49 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 1 | ฝากข้อความ
.......................................
(นั่งสมาธิ)
เนื้อความ : (ณัฐรวีร์) อ้างอิง |
อยากทราบว่าการนั่งสมาธิในแต่ละครั้ง ถ้านั่งไปนาน แล้วเราเห็นเหมือนมีนิมิตเข้ามาหาสมาธิแสดงว่าเป็นอย่างไรบ้างคะช่วยอธิบายหน่อยค่ะ
จากคุณ : ณัฐรวีร์ [ ตอบ: 04 ก.พ. 49 16:39 ] แนะนำตัวล่าสุด 04 ก.พ. 49 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 2 | ฝากข้อความ |
................................
(เพิ่งปฏิบัติเข้าใจถูกต้องไหมค่ะ)
เนื้อความ : (ภัสสร) อ้างอิง |
อยากทราบว่าเวลาอารมณ์อกุศลต่างๆเกิดขึ้นอาจารย์ให้กำหนดจนกว่าจะหายแต่นานมากๆไม่หาย
ต้องคิดหาเหตุผลข้อธรรมะต่างๆมาพิจารณาให้หายไปส่วนมากจะหายเพราะการคิดธรรมะไม่หายเพราะกำหนดอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่หรือไม่
ต้องคิดแต่กำหนดอย่างเดียวจนกว่าจะหายไปเองคะ
จากคุณ : ภัสสร [ ตอบ: 01 ก.พ. 49 23:10 ] แนะนำตัวล่าสุด 07 พ.ย. 48 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 7 | ฝากข้อความ
..................................
(นั่งสมาธิตัวแข็งแล้วกังวลทำยังไงต่อดี)
เนื้อความ : (ภัสสร) อ้างอิง |
คือตอนนี้พยายามฝึกสติปัฏฐานสี่อยู่กำหนดอิริยาบถย่อยบ่อยๆแต่ไม่ต่อเนื่องเพราะเริ่มฝึกก็เผลอเสีย 70% (แหะๆ)
แต่มีปัญหาตอนนั่งสมาธิพอกำหนดพองยุบไปได้ระยะหนึ่งร่างกายเริ่มหนักและแข็งๆก็กำหนดว่าหนักหนอแข็งหนอแล้วจิตมันก็คิดขึ้นมา
สงสัยว่าสมาธิมากเกินสติหรือเปล่าก็เลยพยายามกำหนดใหญ่เลยแต่ก็ยังไม่หายและก็สงสัยแบบนี้สลับไปมาใจมักจะชอบพะวงว่า
อย่าให้สมาธิมากเกินสติเลยวนเวียนอยู่แต่เตือนตัวเองแบบนี้ผิดหรือเปล่าคะควรจะแก้อย่างไรดีเพราะร่างกายจะแข็งทุกรอบที่นั่งสมาธิน่ะค่ะ..
พอดีอ่านกระทู้ท่านอื่นที่ฝึกอยู่และมีความก้าวหน้าว่าในระหว่างวันตอนไม่ได้นั่งสมาธิท่านจะดึงจิตมาที่พองยุบทุกครั้งที่เผลอดิฉันไม่เข้าใจ(โง่จริงๆ)
ว่าการกำหนดคือการอยู่กับปัจจุบันแล้วถ้าปัจจุบันของดิฉันมันมีแต่คิดบ้างทำงานบ้างสุขบ้างทุกข์บ้างใจไม่เคยมากำหนดพองยุบเลยในระหว่างวันถือว่าทำถูกหรือผิดคะ
(สงสัยมากๆ)และจริงๆแล้วระหว่างวันเมื่อไม่ได้นั่งสมาธิควรจะดึงจิตมาที่พองยุบเพื่อหางานให้จิตทำใช่หรือไม่คะ
จากคุณ : ภัสสร [ ตอบ: 03 ก.พ. 49 12:14 ] แนะนำตัวล่าสุด 07 พ.ย. 48 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 7 | ฝากข้อความ |
...................................
เมื่อ: 03 ก.พ.2006, 3:52 pm
--------------------------------
(หูทิพย์จริงหรือหลอก)
เนื้อความ : (น้องในธรรม)
อ้างอิง
มีเพื่อนชาวต่างชาติในปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน
แล้วเริ่มพูดกับตัวเอง เขาบอกว่าเป็นเสียงของธรรมะ
ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป
อยากจะสละโน่นนี่ อยากทำงานช่วยคนอื่น
ใครพอมีคำแนะนำบ้างคะ ว่าเขาปกติดีไหม
เพราะตอนนี้เริ่มเก็บตัว ไม่ไปทำงาน ไม่ค่อยติดต่อกับใคร
มีทางแก้อย่างไงบ้าง เพราะเขาพูดกับเสียงนั้นบ่อยมาก
จะรู้ได้อย่างไงว่าเป็นเสียงเทพหรือเสียงมาร
จากคุณ : น้องในธรรม [ ตอบ: 03 ก.พ. 49 14:01 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 4 | ฝากข้อความ |
.........................................
กระทู้นี้แสดงความเห็นกระทู้ข้างบน
........................................
ความคิดเห็นที่ 10 : (:-D) อ้างอิง |
ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า มาให้ข้อมูลที่เคยพบมาเท่านั้น
แต่ไม่ขอตัดสินในเรื่องของเพื่อนของคุณ
มีคนบางคนที่ปฏิบัติธรรมแล้ว สมาธิดีมาก
เกิดได้ยินเสียงแบบนี้
แรก ๆ จะแม่นมาก
แต่พอสนใจมัน และคิดว่าตนเองมีญาณวิเศษ
(ก็มันแม่นจริง ๆ นี่คะ)
ก็จะค่อย ๆ มีสิ่งที่เพี้ยนไป
เริ่มรับรู้อะไรที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงกับความจริง
ถ้ารู้สึกตัว ก็จะหาทางแก้ไขได้ทัน
ก็จะไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
เป็นแค่หลงไปกับสิ่งที่รู้เห็นชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
แต่บางคนก็จะไปแบบกู่ไม่กลับ
มีอาการทางจิตตามมา
ซึ่งกรณีหลังนี้ ไม่แน่ใจว่า
เป็นเพราะเขามีอาการทางจิตบางอย่างซ่อนอยู่ก่อนหน้าแล้วหรือเปล่า
ทั้ง ๆ ที่เห็นเขาดูปกติดีทุกอย่าง
แต่ปฏิบัติ ๆ ไป ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดผิดพลาดอย่างไร
จึงเกิดอาการจิตหลอน ได้ยิน และเห็นภาพหลอน
ว่าได้บรรลุธรรม มีเทวดามาคุย มาฟังธรรม ฯลฯ
ซึ่งถ้าปล่อยนานไป ก็จะแก้ได้ยาก ต้องไปหาหมอและรักษาจริง ๆ จัง ๆ ไปเลย
แต่คนเหล่านี้ จะมีอาการผิดไปจากปกติแบบเห็นได้ชัดพอควรเลย
กรณีเพื่อนของคุณนั้น
ก็พิจารณาดูนะคะ ว่าเป็นหูทิพย์จริง หรือว่าจะมีอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่
ถ้าจะให้ปลอดภัยจริง ๆ
ทางที่ดีก็อย่าไปสนใจกับเรื่องแบบนั้นดีกว่า
มันชวนให้หลงได้ง่าย
ขอยกตัวอย่างที่ได้ฟังมาจากเจ้าตัว
และที่เห็นเองกับตา มาให้ฟังสองเรื่องนะคะ
มีคุณแม่ชีที่ดิฉันรู้จัก เคยได้ยินอะไร ๆ ที่ตรงและรู้อะไรที่แม่น
รู้ใจคนอื่น ได้ยินเสียงคนพูดทั้ง ๆ ที่อยู่ที่อื่น
ตรวจสอบดู ก็จริงตามนั้น
จิตใจก็รู้สึกเป็นสุข เกิดความเมตตาเปี่ยมล้น
สงสารผู้คน อยากบอกอยากสอน อยากช่วย
คิดว่าตัวเองบรรลุธรรมไปแล้วอย่างน้อยก็ขั้นสาม (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
กว่าจะรู้ตัวว่าหลงไป ก็นานพอสมควร
ยังดีที่มีปัญญาไหวทันขึ้นมา
สังเกตเห็นในวันหนึ่งว่า ตนเองยังมีความโกรธอยู่ ยังเสียใจอยู่
จึงรู้ว่าขั้นสามที่คิดว่าได้แล้วนั้น
เป็นเรื่องคิดไปเอง
รวมทั้งต่อมา ได้ยินอะไรที่เพื้ยนไป ไม่จริงบ่อยเข้า
ก็เลยหาวิธีแก้ไขตนเองได้ทัน
ส่วนอีกท่านหนึ่ง เคยบวชเป็นพระ
ไฟแรงมาก ก่อนบวชได้มาถือศีล เป็นผ้าขาวอยู่ระยะหนึ่งก่อนแล้ว
บวชได้ไม่นานก็ออกธุดงค์ไป
ทั้ง ๆ ที่ท่านอาจารย์ก็ห้ามปรามว่าอย่าเพิ่งเลย
แต่ท่านก็ไม่ฟัง รู้สึกว่าตนเองอินทรีย์แก่กล้าพอแล้ว
หายไประยะหนึ่ง ก็กลับมาด้วยอาการที่หนักพอสมควร
คือกลับมาด้วยความรู้สึกว่าตนเองเป็นพระอรหันต์
เที่ยวด่าว่าผู้อื่น และพูดกับดินฟ้าอากาศเป็นเรื่องเป็นราว
บอกว่าคุยกับเทวดา บอกว่าเห็นเทวดา
รายนี้ ต้องหลอกให้กินยานอนหลับ แล้วนำส่งโรงพยาบาล
ให้สึก แล้วรักษาอยู่นานพอควร อาการจึงดีขึ้น
แต่หมอห้ามไม่ให้ภาวนา
พอมาเริ่มภาวนาใหม่อีก ก็เริ่มมีอาการแย่ลง
จึงต้องระมัดระวังมากค่ะ
จะเป็นเสียงเทพ เสียงมาร หรือเสียงจากอะไร
ทางที่ดี สนใจแต่ในกายและจิตของตนเองจะปลอดภัยที่สุดนะคะ
จากคุณ : :-D [ ตอบ: 05 ก.พ. 49 23:24 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 35 | ฝากข้อความ |
.....................
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th