Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ขอความกรุณาช่วยตอบคำถามให้คุณ natti และท่านอื่นๆ ที่เคยทำแท้
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2006, 5:40 pm
ลูกโป่งเคย POST กระทู้ กรรมออนไลน์ จากการทำแท้ง
http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=d_kam&No=260
มีผู้ที่เคยทำผิดพลาดและอยากทราบเรื่องต่างๆ ดังข้อมูลด้านล่างค่ะ
ขอความกรุณาช่วยแนะนำด้วยนะคะ...ขอบพระคุณมากค่ะ
ลูกโป่ง
****************
***คุณ :b30
อยากทราบว่ามีทางแก้ไม๊ รู้สึกเสียใจมากที่ทำลงไป แต่หาทางออกไม่ได้จริงๆ แล้วก็รู้สึกผิดตลอดเวลา เสียใจมากๆ ที่พลาดไป ทุกครั้งที่ทำบุญก็จะนึกถึงเค้า และอุทิศส่วนกุศลให้เค้าตลอด ใครช่วยบอกหน่อยได้ไม๊คะ ว่าเราควรทำยังไง ให้จากหนักเป็นเบา ช่วยหาทางออกให้ด้วยเถอะนะคะ
***คุณ คนบาป
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ทำบาปเรื่องนี้ ซึ่งทำบาปมา 2 ครั้งแล้ว ซึ่งตัวเองไม่ต้องการให้เป็นอย่างนี้เลย...แต่เป็นที่เราชิงสุกก่อนห่ามจึงต้องรับผลกรรม แฟนก็ไม่ยอมรับ ไม่ต้องการที่จะมี...เลยต้องตัดสินปัญหาด้วยการทำแท้ง ซึ่งดิฉันก็ทราบว่ามันบาปมาก แต่ก็บอกกับตัวเองไว้เสมอว่า ถ้าเวรกรรมตามทันก็ยอมรับ ในเมื่อเราผิดเอง...ชีวิตใคร ๆ ก็รัก...ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสก็จะทำบุญ ใส่บาตรไปให้วิญญาณที่ล่วงลับ ชีวิตตอนนี้ก็มีแต่เรื่องทุกข์ใจตลอด ขอชี้ทางธรรมให้ด้วยนะค่ะ...
***คุณ natti
ในความคิดจากประสบการณ์ของเราตอนนั้น คิดไปได้หลายอย่าง คือหนึ่ง เราไม่มีปัญญาเลี้ยงเขา คิดไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าเราเองก็เพิ่งจบ ปวส. ใหม่ ๆ กำลังเรียนต่อขั้นปริญญาตรี แฟนก็เพิ่งเข้าทำงานและยังไม่แน่ว่า งานจะมั่นคงสักแค่ไหน ไม่อยากให้ลูกเกิดมาต้องพลอยลำบากไปกับเราด้วย ทุกอย่างยังไม่พร้อม
สองคือ สมัยเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว อย่างเรานี้ เขาเรียกว่าชิงสุกก่อนห่าม นึกถึงพ่อแม่เราด้วย คิดว่าเขาคงรับไม่ได้เพราะที่บ้านพ่อมีหน้ามีตาในสังคมเช่นกัน
สาม นึกถึงเรื่องความถูกต้อง ศีลธรรม
ยอมรับนะว่า ตอนนั้น ความจำเป็นมันอยู่เหนือศีลธรรม ถามว่าเสียใจไหม ? เสียใจสิ กลับบ้านมา เราแต่งกลอนไว้บทหนึ่ง ขึ้นต้นไว้เป็นวันเดือนปีไว้เลย เรียกตัวเราสองคนว่า หญิงชั่วชายเลว ในบทกลอนนั้น มันอาจจะสะใจตัวเองลึก ๆ นะ
ถามว่า แล้วทำอย่างไรตอนนั้น ? ก็ทำบุญบ้าง สังฆทานบ้าง บริจาคบ้าง แล้วแต่จะทำได้กับคนและสัตว์ ก็พยายามทำดีตลอด
ปัจจุบันแต่งงานแล้วกับสามีต่างชาติที่ไม่ใช่แฟนคนนั้น แต่เราก็ยังโทรถามสารทุกข์สุกดิบแฟนเก่าอยู่ ที่เลิกกันไม่ได้โกรธเคืองอะไร เขาเป็นคนดี แต่เรารับไม่ได้เองต่างหาก จึงเดินจากไปเฉย ๆ
อยู่กับสามีต่างชาตินี้มา 15 ปีย่างเข้าปีที่ 16 แล้ว ใช้เวลาดูใจกันถึง 4 ปีก่อนแต่ง ก็เรียกว่าเกือบ 20 ปีนับแต่รู้จักกันมา โชคดีอีกเช่นเคยสามีต่างชาตินี้เป็นคนดีมาก มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 10 ขวบแล้ว เราจะพาเขาไปเมืองไทยทุกปี พาลูกทำบุญไปทั่ว ไม่เจาะจง
เล่าให้ลูกสาวฟังถึงพี่เขาคนที่เราไม่ตั้งใจให้เกิด ลูกสาวตัวน้อยนี้ก็ทำบุญให้กับพี่เขาเรื่อยมา ตัวเราเองก็ไม่เคยลืมนะจนกระทั่งบัตนี้ บาปมันอยู่ที่ใจเราตลอด แต่ครอบครัวเราก็มีความสุขความสบายกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่มีปัญหาเรื่องเงินเรื่องทอง ลูกสาวก็อยู่ในโอวาท ก็นับว่าโชคยังดีอยู่
ส่วนครอบครัวของแฟนเก่า เขาแต่งงานแล้วกับผู้หญิงที่เคยมีสามีและมีลูกติด 1 คนลูกอยู่กับพ่อเด็ก ส่วนตัวแฟนเก่ากับภรรยาเขานั้นมีลูกด้วยกัน 3 คนผู้หญิงล้วน ตัวเรากับสามีกลับไปไทย เคยนัดเขาสองคนมาทานข้าวด้วยกันตอนนั้นเขาเพิ่งท้องลูกคนแรก ตอนแรกที่เขาได้กับภรรยาคนนี้ เธอขี้หึงมาก เธอฉีกรูปเก่า ๆ ของคนเขียนทิ้งหมด
จนมาได้เจอกันที่ร้านอาหารนั่นแหละ เราได้บอกเธอว่า เราแต่งงานแล้ว สามีเราอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องหึง เพราะเราเป็นคนเดินจากมาเอง และเราไม่คิดที่จะกลับมาเหมือนเดิมอีก ที่นัดมาทานข้าวกันเพราะต้องการให้รู้ว่า เราบริสุทธิ์ใจ เรารักกันเหมือนพี่น้องเหมือนเพือนได้นี่ ทำไมต้องทะเลาะกันด้วยเล่า ? เราสอนเขาไปเยอะเหมือนกัน แต่สอนให้เขาคิด
ตอนนั้นที่ท้องถามเขาว่า หมอนัดเดือนอะไร ? เขาว่า มกรา เราบอกว่า โอ้ เดือนเดียวกับเรา แต่อย่าให้ตรงกันแล้วกัน
เชื่อไหม ว่าตอนนั้นที่พูดออกไปคิดในใจว่า อุ๊ย เป็นเด็กผู้หญิงหรือเปล่า ? ถ้าเด็กคนนี้เกิดวันเดียวกับเรานะ แสดงว่า เด็กนี่ เขาเป็นลูกเราคนเก่ามาเกิดแน่ เนี่ย มันบ้าไปได้ถึงขนาดนี้
จนกระทั่งสิ้นเดือนมกรา เราโทรไปถามแฟนเก่า เขาบอกว่าได้ลูกสาว เกิดวันที่ ....เรานี้ตัวชาคาโทรศัพท์ เราถามแฟนเก่าว่า จำได้ไหมว่า เราเกิดวันที่เท่าไหร่ เขาบอกว่า.... (บอกพลาดไปวันหนี่ง) เราบอกเขาว่า ที่ไหนกันล่ะ วันเดียวกับลูกสาวพี่นั่นแหละ ตัวแฟนเก่าเขาร้อง เฮ้ย จริงอ่ะ
ตอนนี้เด็กคนนี้อายุ 13 ปีแล้ว เราคิดว่า เขารอมาเกิดไม่กับพ่อเก่า ก็แม่เก่า คือแม่เก่าไม่ให้เกิด ก็เกิดกับแม่ใหม่แต่พ่อคนเดิม
เมื่อปีใหม่โทรไปอวยพรปีใหม่ แฟนเก่าเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้เขาทนอยู่เพื่อลูก ภรรยามีแฟนใหม่คนเขารู้ไปทั่วองค์กร (เขาสองคนทำงานที่เดียวกัน แต่คนละสาขา) เขานั้นจะดิ้นไปไหนไม่ได้ เพราะทุกอย่างเป็นชื่อภรรยาหมด และ ภรรยาให้ตัวเขากู้เงินองค์กรมาต้องรับใช้หนี้เพราะใช้ชื่อกู้
เราก็ได้แต่ปลอบและถามเขาว่า ทำไมไม่คุยกัน ยกโทษให้ผู้หญิงเขาไม่ได้หรือ? เขาว่า เขาไม่ได้คุยกันมาสองปีกว่าแล้ว ลูกเขาก็ดูแลคอยรับส่งเองที่โรงเรียน แม้แต่งานบ้าน ก็น่าเห็นใจนะ จะเรียกว่ากรรมได้ไหมเนี่ย ?
เราบอกเขาว่า ก็ทำบุญทำทานบ้างสิ เขาว่า จะเอาที่ไหนทำ ? เราว่า ทำได้ทุกที่แหละ มีน้อยทำน้อย มีมากทำมาก ไม่ต้องถึงกับให้ตัวเองเดือดร้อน แต่ว่าทำเพราะจิตใจที่อยากให้ อยากทำ อยู่ที่ความตั้งใจมากกว่า มีเวลาว่างก็สวดมนต์บ้าง เข้าวัดบ้าง ให้พาลูกไปด้วย เขาก็รับคำนะ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะปฏิบัติได้หรือเปล่า
ภรรยาและเขาสองคนนั้น รายได้ค่อนข้างมากทีเดียว เดือนหนึ่งสองคนสามีภรรยาก็ตกห้าหกหมื่นบาท แต่ที่เขาไม่พอเพราะว่าตัวเขาเองมีหนี้สิ้นสิ้นเดือนหักลบเหลือ 2000 บาท ทีเป็นเงินเดือนภรรยาเขานั้นเขาไม่มีสิทธิ์แตะ หลังจากวางหูโทรศัพท์ก็คิดว่าจะส่งเงินให้เขาเหมือนกัน เพราะไม่อยากให้เขาต้องโกงองค์กร เขาเล่าว่า เขามีเงินใช้วันต่อวัน(โกงองค์กร) ได้มากบ้างน้อยบ้าง ก็เอาเงินนี้มาเติมน้ำมันรถ ซื้อของใช้ส่วนตัวบ้าง เช่นเสื้อผ้า หรือว่า อาหาร
เราบอกเขาว่า ไปโกงเขาสักวันจะถูกไล่ออก(คือเขาบ่นให้ฟังว่า ถ้าเขามีเงินตอนนี้เขาจะพาลูกสามคนไปอยู่ที่อื่น) สู้ลาออกตอนนี้ไม่ดีกว่าเหรอ? แต่เขาว่า ลาออกแล้วจะทำอะไร อายุขนาดนี้แล้ว ? ดีเหมือนกันอยากให้ถูกไล่ออกมากกว่าลาออก เฮ้อ ชีวิตคนมันแปลกนะ เราก็ได้แต่ปลง ช่วยอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้
ทำไมแค่เรื่องทำแท้งแค่นี้ มันเป็นเวรกรรมของเราสองคนจริง เราเสพสุขด้วยกัน เรามีความเห็นเหมือนกันในตอนนั้น เราไปทำแท้งเขาก็ไปด้วย แต่ชีวิตเราสองคนต่างกันราวกับฟ้าดิน
ใช่การทำบุญทำทานหรือเปล่าหนอ? ถ้าใช่ แล้วเด็กลูกเขาคนโตนั่น จะใช่ลูกเราที่เราเคยไปทำแท้งมาเกิดใหม่หรือเปล่าหนอ? แล้วถ้าเด็กมาเกิดแล้ว ทำไมพ่อเขาจึงยังไม่พ้นจากความลำบากอีกล่ะ ? ใครรู้ช่วยตอบหน่อยได้ไหม จะรอฟังความเห็น เพราะยังคิดไม่ตกว่าจะช่วยเขาและลูกได้อย่างไรดี
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2006, 5:55 pm
ลูกโป่งขอขอบพระคุณ...คุณ admin ที่ช่วยแนะนำกระทู้ที่ POST กระทู้โดยคุณ TU
ทำแท้งบาปมากมั้ยหนอ
โดย พระอาจารย์สุโข กตปุญโญ
http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=d_book&No=605
ธรรมะสวัสดีค่ะ
copyma
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 28 ม.ค. 2006, 3:37 pm
"ทำแท้ง" พุทธศาสนาวินิจฉัยว่าสมควร หรือไม่สมควรอย่างไร ?
ถ้าจะให้ตอบก็คงจะต้องตอบตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก ซึ่งวินิจฉัยว่า การทำแท้งเท่ากับการฆ่ามนุษย์คนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะพุทธศาสนาถือหลักว่าการปฏิสนธิว่าคือจุดเริ่มต้นของการเกิดเป็นมนุษย์ คือมีจิตใจของมนุษย์เกิดขึ้นอยู่ในเซลล์ชีวิตเล็ก ๆ ที่ปฏิสนธินั้นแล้ว และ ภาวะแห่งความเป็นมนุษย์นี้จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อตายลง
อนึ่ง ในทางพุทธศาสนาท่านถือว่าการฆ่ามนุษย์นั้นบาปหนักกว่าการฆ่าสัตว์ดิรัจฉาน เพราะภาวะของมนุษย์ท่านถือว่าเป็นชีวิตอันประเสริฐที่ต่างจากสัตว์ดิรัจฉานทั่วไป เหตุผลคือชีวิตมนุษย์เป็นชีวิตที่มีโอกาสสามารถพัฒนาตนให้เจริญงอกงามได้อย่างไม่มีขอบเขตจำกัด ยกตัวอย่างเช่น คนธรรมดาอย่างเจ้าชายสิทธัตถะยังสามารถพัฒนาตนจนอุบัติเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เป็นต้น ดังนั้นการฆ่ามนุษย์แม้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จึงเท่ากับการตัดโอกาสของชีวิตที่จะได้พัฒนาตนต่อไป
ในเมื่อพุทธศาสนามองว่าบุตรในครรภ์แม้วันแรกก็ถือว่าเป็นมนุษย์แล้วเช่นนี้ ในการตัดสินใจว่าการทำแท้ง สมควรหรือไม่สมควร จึงเป็นเรื่องที่ต้องวินิจฉัยเป็น กรณี ๆ ไป ไม่มีคำตอบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือต้องใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป แต่สิ่งควรจะต้องตระหนักรู้ไว้อยู่ตลอดเวลาในการที่จะตัดสินใจว่าควรหรือไม่ควรทำแท้ง คือ ชีวิตเล็ก ๆ ในครรภ์นั้นได้มีภาวะของความเป็นมนุษย์เกิดขึ้นแล้ว หาใช่แค่เซลล์เล็ก ๆ หรือก้อนเนื้อก้อนเล็ก ๆ อย่างที่เคยเข้าใจแต่อย่างใด
http://www.budpage.com/abort.shtml
sffd
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 28 ม.ค. 2006, 3:47 pm
หวัดดี
ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้นะครับ และขอจงสร้างกุสลที่ถูกต้องตามหลักธรรมของพระพุทธองค์ต่อไป เพื่อเป็นการสร้างมหากุสลแก่ตัวคุณเองครับ
ในเรื่องการทำแท้ง พูดสั้นๆ คือเป็นการสร้างอกุสล ให้แก่ตัวคุณเอง คงไม่ต้องบอกถึงรายละเอียดตรงนั้น ซึ่งอกุสลตรงนี้ที่คุณทำไว้มันก็ไปเก็บไว้ใจตของคุณ เพื่อที่จะไปสร้างรูปร่าง ภพ ชาติ ต่างๆ ไว้ให้ในอนาคต แต่การที่เราได้กระทำลงไปแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิด แต่เราก็ต้องแก้ไขตัวเราใหม่ ผมขอแนะนำให้คุณ เจริญธรรมของพระพุทธองค์ พระธรรมะของพระเจ้าเป็นธรรมที่บริสุทธิ์ ซึ่งเวลาพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมให้กับบุคคลในสมัยนั้นสามรถบรรลุธรรมได้ แล้วเราได้นำธรรมของพระพุทธองค์มาแสดง มาเจริญ จะเป็นมหากุสลแก่ตัวเราขนาดไหน และยังเป็นการประกาศธรรมของพระพุทธองค์อีกด้วย เป็นการรักาพระธรรมของพระพุทธองค์ไว้ ก็ขอให้คุณมีกำลังใจสร้างมหากุสลที่ถูกต้องตรงตามพระพุทธศาสนา เพื่อตัวของคุณเอง สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ
copyma
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 ม.ค. 2006, 7:03 am
กำลังใจมาจากหลายๆคน แต่กำลังใจที่ดีที่สุดคือ กำลังใจที่เราสร้างขึ้นเอง
สาธุ
กล้าทำแต่กลัวผลลัพธ์
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 ม.ค. 2006, 3:31 pm
ใช้สิทธิการมีแฟนไปแล้ว ใช้เสรีภาพสนุกรื่นรมย์ไปแล้ว
ต่อไป มีหน้าที่ และรับผิดชอบสิ่งที่ตามมา
เลือกทำแท้งไปแล้ว กรรมสำเร็จแล้ว ก็รอวิบากกรรมให้ผล
อดทน เมื่อวิบากกรรมให้ผล ทุกข์ก็เป็นแค่ทุกข์ของเรา เกลียดกลัวไปไย มันอาจติดตามข้ามภพชาติ ก็เป็นทุกข์ของเราคนเดียว เป็นบาปเพราะก่อทุกข์กายใจแก่เรานี่เอง
การงานอาจไม่ก้าวหน้า ชีวิตล้มเหลว ฯลฯ ก็ต้องยอมรับ หากเป็นผลจากวิบากกรรมนี้
เหตุปัจจัย ทำหนักให้เป็นเบา ทาน ศีล ภาวนา คือทำบุญให้ถึงพร้อม หมั่นทำสมาธิ อุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร บุญหนักบุญใหญ่ ก็อาจช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้าง นำยาพิษ 1 ช้อนชา ไปละลายในมหาสมุทร
เป็นมนุษย์ ต้องกล้าเผชิญหน้ากับกรรมวิบากด้วย หาใช่โวยวาย อ้อนวอนให้เทพเจ้าช่วยเหลือ เพราะขณะก่อกรรมเราสนุกคนเดียว มิใช่หรือ
pongsakorn28287
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 23 พ.ย. 2004
ตอบ: 42
ที่อยู่ (จังหวัด): จ.เชียงใหม่
ตอบเมื่อ: 01 ก.พ.2006, 11:36 am
สงสารทั้งแม่และลูก
แม่ก็ต้องรับกรรม
ลูกก็ต้องตาย
วัฏฏสงสาร
นำมาซึ่งความทุกข์เป็นอันมาก
pongsakorn28287
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 23 พ.ย. 2004
ตอบ: 42
ที่อยู่ (จังหวัด): จ.เชียงใหม่
ตอบเมื่อ: 01 ก.พ.2006, 11:39 am
ปฏิกิริยาเคมีทุกปฏิกิริยาย่อมมีผลของมัน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th