ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ผ้าขี้ริ้ว
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ม.ค. 2006, 9:30 am |
  |
คนที่ตายแล้ว วิญาญาณ ออกจากร่างลอยไปลอยมาปรากฏร่างให้ญาติพี่น้องเห็น อย่างนั้นหรือเปล่า ที่เรียกว่าวิญญาณขันธ์
ที่เสามีภาพแปลกๆ ขาวๆ
|
|
|
|
|
 |
copyma
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ม.ค. 2006, 10:13 am |
  |
มีชาวพุทธจำนวนไม่น้อย ที่มีความเข้าใจสับสนในทฤษฏีความเชื่อระหว่าง ดวงวิญญาณหรืออัตตาในปรัชญาอุปนิษัท กับ วิญญาณหรือจิตในทางพุทธศาสนา ปัญหาหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวพุทธก็คือการนำเอาความเชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิดหรือการเกิดใหม่เพื่อใช้กรรม มาเป็นเรื่องเดียวกันกับหลักอนัตตา
อย่างไรก็ตามทฤษฏีความเชื่อ เกี่ยวกับจิตวิญญาณ ในทางพุทธศาสนา อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดๆ เกี่ยวกับดวงวิญญาณที่ล่องลอยไปแสวงหาที่อยู่ใหม่ตามความเชื่อของชาวอุปนิษัท โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มศึกษาใหม่ๆ ดังนั้นชาวพุทธจึงควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งเสียก่อน เพราะในทางพุทธศาสนาไม่เชื่อว่ามีอัตตา หรือดวงวิญญาณถาวรใดๆ ที่จะลอยออกจากร่างกายคนตายไปแสวงหาร่างใหม่ เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายเป็นสังขตธรรม ไม่มีอยู่จริงไม่มีตัวตน ไม่มีสัตภาวะใดๆที่จะออกจากภพก่อนมาสู่ภพปัจจุบัน
อาจจะมีคำถามต่อไปว่าหากไม่มีดวงวิญญาณแล้ว อะไรเล่าที่จะไปเกิดอีกภพหนึ่ง คำตอบที่ควรจะได้รับของชาวพุทธก็คือจิตหรือวิญญาณต่างหากที่จะไปเกิดใหม่ดังในมหานิทานสูตรที่อ้างพุทธพจน์ว่า หากวิญญาณไม่ลงไปปฏิสนธิในครรภ์มารดา รูปและนาม ย่อมจะไม่เกิด นั่นแสดงว่าปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดคือ จิต และต้องไม่สับสนว่าจิตกับวิญญาณไม่ใช่สิ่งเดียวกันกับ ดวงวิญญาณและไม่เหมือนดวงวิญญาณในปรัชญาอุปนิษัทที่เชื่อว่าล่องลอยแสวงหาที่อยู่ใหม่ หลังความตายดังที่เคยมีพระภิกษุรูปหนึ่งเชื่อว่า จิต กับ ดวงวิญญาณเป็นสิ่งเดียวกัน ถูกพระพุทธเจ้าตำหนิว่าบิดเบือนหลักคำสอนของพระองค์ ดังนี้
ดูก่อนภิกษุ เหตุใดเธอจึงยังไม่เข้าใจในธรรมที่ตถาคตเคยแสดงย้ำอยู่เสมอว่า ไม่มีวิญญาณใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากปัจจัย หากปราศจากสิ่งปรุงแต่งแล้ว วิญญาณย่อมหามีไม่ตาม
หลักทางพุทธศาสนาแล้ว วิญญาณเป็นสิ่งที่เกิดดับอยู่ทุกชั่วขณะไม่เคยคงที่คงอยู่แม้แต่ชั่วอึดใจเดียว จึงทำให้เรารู้สึกว่า วิญญาณมีการลื่นไหลเป็นกระแส ทั้งนี้ก็ด้วยความรวดเร็วของการเกิดดับติดต่อกันไปอย่างไม่ขาดสาย ในขณะที่วิญญาณเดิมดับลงย่อมเกิดวิญญาณใหม่ขึ้นมาแทนศักยภาพของวิญญาณเดิมติดต่อกันไปเป็นลูกคลื่น ในทางพุทธศาสนานั้นถือว่าวิญญาณนั้นมีการเกิดดับอยู่ทุกขณะ ดังนั้นจึงถือว่าชีวิตของสรรพสิ่งทั้งหลายนี้มีอยู่เพียงชั่วขณะสั้นๆ ในช่วงของการเกิดดับของวิญญาณ ชาวพุทธเชื่อว่าการดับของวิญญาณเดิมจึงก่อให้เกิดวิญาณใหม่ติดตามมา วิญญาณที่สิ้นสุดลงในทางพุทธศาสนาเรียกว่าจุติวิญญาณและวิญญาณที่เกิดมาแทนที่เรียกว่า ปฏิสนธิวิญญาณ ทันทีที่จุติวิญญาณดับลงก็จะมีปฏิสนธิวิญญาณเกิดตามมาเป็นเช่นนี้ติดต่อกันไป
สิ่งที่จะทำความเข้าใจอีกประการหนึ่งคือ จุติวิญญาณไม่ใช่วิญญาณที่ล่องลอยไปหาที่เกิดใหม่อย่างที่เราเข้าใจตามความเชื่อของปรัชญาอุปนิษัทที่ทำให้เกิดความสับสนจนทำให้ทฤษฏีวิญญาณของพุทธศาสนาเกิดความไขว้เขว เพราะความเป็นจริงมันเป็นเพียงการปรุงแต่งทางความคิด ทำให้มีความรู้สึกว่าจุติวิญญาณนั้นเองคือตัวที่ก่อให้เกิดชีวิตใหม่ซึ้งในความเป็นจริงจุติวิญญาณและปฏิสนธิวิญญาณ แม้นจะไม่ใช่สิ่งเดียวกันแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่แตกต่างกัน เพราะวิญญาณมีการลื่นไหลติดต่อไปตามกระแส มันจึงไม่ใช่สิ่งที่เหมือนกันและไม่ใช่สิ่งที่แตกต่างกัน
...............................................................................
ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์โดยทั่วไป เมื่อตายหรือละสังขารจากอัตภาพนั้นๆ แล้ว หากมีปัจจัยที่จะต้องเกิดก็ต้องไปเกิดในภพใดภพหนึ่งในกำเนิดทั้ง ๔ คือ(ตายแล้วเกิดทันที)
๑. ชลาพุชะ เกิดในครรภ์ เช่น คนหรือสัตว์บางประเภท
๒. อัณฑชะ เกิดในไข่ เช่น ไก่ นก เป็ด เป็นต้น
๓. สังเสทชะ เกิดในของสกปรก เช่น หนอนบางชนิด
๔. โอปปาติกะ เกิดโดยผุดขึ้นเป็นตัวตนเลย เช่น เทวดา สัตว์นรก เปรต อสุรกาย หรือ พรหม เป็นต้น
(ที่เห็นขาว ๆ ในภาพอาจจะตรงกับข้อที่ ๔)
......................................................................
|
|
|
|
|
 |
copyma
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ม.ค. 2006, 10:23 am |
  |
|
|
 |
pongsakorn28287
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 23 พ.ย. 2004
ตอบ: 42
ที่อยู่ (จังหวัด): จ.เชียงใหม่
|
ตอบเมื่อ:
27 ม.ค. 2006, 11:44 am |
  |
อยากถามว่าแล้ววิญญาณอยู่ภพภูมไหน? |
|
|
|
   |
 |
copyma
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ม.ค. 2006, 12:53 pm |
  |
ชาติหน้ามีจริงหรือไม่นั้น คำตอบก็คือ ตราบใดถ้ายังมีกิเลสและทำกรรม อยู่ คือ กรรมที่เป็นส่วนบุญ และกรรมที่เป็นส่วนบาป เมื่อยังทำกรรมเพราะอำนาจของกิเลส ก็ต้องเกิดอีกแน่นอน การเกิดใหม่นั่นแหละคือชาติหน้าของเรา ชาติหน้าที่จะไปเกิดมีทั้งหมดถึง ๓๑ ภูมิ ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป http://www.buddhism-online.org/Section06A_03.htm
...........................................................................................................
๓๑ ภูมิ http://www.buddhism-online.org/ContentSect06A.htm
......................................................................................................
|
|
|
|
|
 |
copyma
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 ม.ค. 2006, 9:25 am |
  |
ภพภูมิ หมายถึง สถานที่เกิดของคนสัตว์ทั้งหลาย หลังจากที่ตายจากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งมีทั้ง สุคติภูมิ และทุคติภูมิ สุคติภูมิ คือ ที่อยู่ของสัตว์ที่มีความสุขมากกว่าความทุกข์ เป็นภูมิที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของบุญ หรือ บุญนำเกิด เช่น มนุษยภูมิ หรือ เทวภูมิ ส่วน ทุคติภูมิ เป็นภูมิที่อยู่ของสัตว์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ความทรมาน ต้องอดอยากหิวโหยอยู่ตลอดเวลา ด้วยอำนาจของบาปที่ได้กระทำไว้ ดังนั้นบุญ-บาป จึงเป็นตัวผลักดันให้ต้องโคจรไปเกิดยังภพภูมิดังกล่าว http://www.buddhism-online.org/Section06A_05.htm |
|
|
|
|
 |
|