Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 นพมงคล : ๙ แนวทางสร้างความเจริญแก่ชีวิต รับปีใหม่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ต้นข้าว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ม.ค. 2006, 11:11 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อถึงช่วงเทศกาลปีใหม่แต่ละปี นอกจากของขวัญที่คนส่วนใหญ่ต้องซื้อหาให้ญาติสนิทมิตรสหายแล้ว หลายคนก็มักจะทำหรือหาสิ่งที่เป็นมงคลไว้ประดับตัว ประดับบ้าน หรือที่ทำงาน ด้วยหวังว่า “มงคล” ที่ทำหรือที่หามาไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ การนำต้นไม้มงคล



หรืออัญมณีประจำราศีมาใช้ จะช่วยเสริมเติมชีวิตของตนในปีใหม่ให้มีแต่ความสุข ความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป คำว่า “มงคล” ก็คือเหตุ หรือสิ่งที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งสิริหรือความเจริญมาสู่ผู้ปฏิบัติ ขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันมิให้สิ่งที่เลวร้ายมากล้ำกราย หรือจะเรียกง่ายๆว่า เหตุแห่งความเจริญทั้งหลาย ก็ได้ สิ่งที่ถือว่าเป็นมงคลนั้นมีหลายอย่างทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม บางอย่างก็เป็นแนวทางหรือหลักปฏิบัติ บางอย่างก็เป็นวัตถุสิ่งของ ยกตัวอย่างเช่น



มงคล ๓๘ ประการ เป็นหลักธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่าผู้ใดที่ปฏิบัติตาม ผู้นั้นจะพบแต่ความเจริญก้าวหน้า และชีวิตจะไม่พบความพ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง เช่น ไม่คบคนพาล บูชาคนที่ควร ส่วนฮวงจุ้ย เป็นภูมิโหราศาสตร์ของจีนในการวางตำแหน่งแห่งที่ของสถานที่สำคัญ อาคาร บ้านเรือน แม้แต่สิ่งของเครื่องใช้ ให้เกิดความเป็นมงคลแก่ผู้ใช้สถานที่ เพื่อให้กิจการรุ่งเรืองหรือให้ผู้พำนักอาศัยเกิดความร่มเย็นเป็นสุข เช่น ไม่วางโต๊ะทำงานให้ตรงกับประตูใหญ่หรือประตูในห้องนั้นๆ เพราะเชื่อว่าจะเป็นเหตุให้เกิดอุปสรรคต่างๆ





ต้นไม้มงคลก็คือ ต้นไม้ที่มีชื่อเรียกและมีความหมายเป็นมงคล เช่น ชัยพฤกษ์ หมายถึง มีชัยชนะในสิ่งทั้งปวง ซึ่งไม้นี้เชื่อและใช้กันมาแต่โบราณ อย่างพิธีลงเสาหลักเมือง ก็ต้องใช้เสาแก่นชัยพฤกษ์ ไม้สัก สื่อความหมายถึงศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์ศรี ให้ความรู้สึกถึงความมีอำนาจ บารมี สีมงคล เช่น ชาวตะวันตกเชื่อว่า สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเปลวไฟ เป็นตัวแทนของอำนาจ ความมั่งคั่ง ดังนั้น ผู้ปกครองทั้งหลายในสมัยโบราณ จึงนิยมแต่งเสื้อผ้าด้วยสีแดง อัญมณีมงคล ก็มาจากความเชื่อที่ว่าจะทำให้ผู้สวมใส่มีโชคลาภ มีเสน่ห์ หรือป้องกันภัยได้ เช่น เพชรเป็นตัวแทนของความรอบรู้และปัญญา เชื่อว่าจะทำให้ผู้ครอบครองมีอานุภาพ ทับทิม ทำให้ผู้สวมใส่สมบูรณ์ด้วยลาภยศ มั่งมีศรีสุข เป็นต้น



ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของสิ่งที่เชื่อว่าจะนำ “มงคล” มาสู่ผู้ปฏิบัติ และเชื่อว่าหลายคนก็อาจจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลายๆสิ่งรวมกัน ดังนั้น ในโอกาสปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ทางกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงอยากจะขอนำเสนอ นพมงคลหรือ แนวทาง ๙ ประการ ที่ได้นำหลายๆมงคลมาผสมผสานเข้าด้วยกัน และเชื่อว่าถ้าท่านนำไปปฏิบัติแล้ว จะเป็นพลังเสริมชีวิตของท่านและครอบครัวให้มีความสุข ความเจริญก้าวหน้าขึ้น คือ





๑.ใจมงคล ทุกอย่างในชีวิตของคนเรานั้น “ใจ”นับเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางทั้งที่ดีและไม่ดีได้ ดังนั้น การเริ่มมงคลใดๆ จึงควรเริ่มที่ “ใจ”ก่อนเป็นอันดับแรก นั่นคือ การทำจิตใจดีให้มีขึ้นทุกๆวัน วิธีง่ายๆคือ ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาก็ไม่คิดเรื่องร้ายๆไปล่วงหน้า เช่น ไม่คิดว่าเราจะถูกนายด่าไปก่อนเพราะเมื่อวานทำผิด การคิดล่วงหน้าเช่นนั้นจะทำให้จิตใจเราขุ่นมัว ไม่แจ่มใส ถึงทำผิดจริงก็ต้องคิดว่าแก้ไขได้ ไม่บริโภคความโกรธเป็นอาหารเช้า คือ ไม่คิดจับผิดหรือโมโหโทโสนับแต่ลุกจากเตียง เช่น เช้ามาก็ไม่โมโหลูกที่ตื่นสาย ไม่ยัวะภริยาที่ทำไข่ลวกเป็นไข่ต้ม ไม่ฉุนรถเมล์ที่ไม่จอดรับ ฯลฯ แต่ให้เริ่มต้นทุกเช้าด้วยการ “คิดแต่เรื่องดีๆ” จะทำให้หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นพลังบวกที่จะดึงดูดให้คนอยากเข้าใกล้ กลายเป็นคนมีเสน่ห์ เป็นมงคลข้อแรก



๒.วาจามงคล คือ การพูดจาดี ซึ่ง “ดี” ในที่นี้หมายรวมถึง เนื้อหา ถ้อยคำ น้ำเสียงที่ใช้เจรจาพาทีกับผู้อื่น ทั้งคนใกล้ชิดที่เป็นญาติสนิทมิตรสหาย ผู้ร่วมงาน รวมถึงคนไม่รู้จักที่เราต้องโอภาปราศรัยด้วย พูดง่ายๆว่าให้ใช้ “วาจาภาษาดอกไม้” กับทุกๆคนทุกๆระดับ และควรเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมชวนดมด้วย เช่น ชมเขาว่า “วันนี้ คุณแต่งตัวสวยจังค่ะ เหมือนสมัยคุณแม่ฉันยังสาว” เช่นนี้ คงเป็นดอกอุตพิด ที่กลิ่นเหมือนอุจจาระ ทำให้คนฟังคิดแช่งชักหักกระดูก ด่า เราในใจว่าอย่าพูดเสียเลยดีกว่า ดังนั้น วาจามงคล จึงควรเป็นคำพูดที่สุภาพ ไพเราะ และถ้อยคำเป็นประโยชน์ ไม่เพ้อเจ้อ เหลวไหล หรือส่อเสียด xxxดัน คนพูดดี ไปไหนก็มีแต่คนต้อนรับ เป็นมงคลข้อสองที่เราควรปฏิบัติ



๓.กายมงคล คือ การแต่งกายให้เหมาะสม ถูกกาละเทศะ จะทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นในตนเอง และไม่ถูกตำหนิติเตียน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นมงคลข้อที่สาม เพราะการไม่ถูกใครว่า ย่อมเป็นสิ่งดีที่เป็นมงคลแก่เราตลอดวัน และหากจะใส่เสื้อผ้าตามหลักโหราศาสตร์เพื่อเสริมความมั่นใจหรือสร้างกำลังใจให้ตัวเองเพิ่มขึ้น ก็ย่อมได้ แต่ก็ต้องดูให้เหมาะด้วย เช่น ไม่ใส่สีม่วงไปในงานแต่งงานที่เจ้าภาพเขาถือว่าเป็นสีแม่ม่าย แม้ว่าจะเป็นสีที่เขาบอกว่า เป็นสีแห่งโชคลาภของเราวันนั้นก็ตาม



๔.ครอบครัวมงคล คือ การสร้างความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวของเรา เพราะครอบครัวเป็นพื้นฐานแรกที่จะช่วยสร้าง “สมาชิกมงคล”ให้แก่ชุมชนและประเทศชาติ นั่นก็คือ ผู้ที่เป็นพ่อแม่ ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตัวให้ถูกต้อง เหมาะสม ไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูกๆ ไม่เมามัวเรื่องเพศ มีผัวน้อย เมียน้อยให้ลูกทุกข์ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันก็สอนลูกในทางที่ถูกที่ควร ฯลฯ อันจะนำมาซึ่งความสุขในบ้าน และเป็นมงคลที่จะเป็นพลังสำคัญในการต่อสู้กับชีวิตภายนอก



๕.บ้านมงคล หมายถึง การจัดบ้านเรือนของเราให้สะอาดสะอ้าน ไม่รกเป็นรังหนู ถ้าหากในรอบปีที่ผ่านมา เราอาจวางสิ่งของ เสื้อผ้า ฯลฯ สุมจนเป็นกองขยะตามจุดต่างๆในห้องนอน ห้องทำงาน ห้องครัว หรือห้องรับแขก ก่อนปีใหม่หรือวันใดวันหนึ่งควรหาทางสะสาง และจัดเก็บบ้านให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย เพราะบ้านเรือนที่โล่งสะอาด เรียบร้อย ก็เป็นการจัดฮวงจุ้ยที่ช่วยเสริมให้ผู้อยู่อาศัยให้เกิดความปลอดโปร่ง สบายใจ ไม่อึดอัด หงุดหงิด เพราะหาของไม่เจอ หรือเดินไปไหนในบ้านก็เตะโน่น ชนนี่ เหมือนมีอุปสรรคขัดขวางตลอดเวลา บ้านที่สะอาด มีระเบียบเรียบร้อย จึงเป็นมงคลข้อที่ห้า



๖.เพื่อนมงคล คือ การคบหาเพื่อนที่ดีไว้เป็นสหาย เพราะเพื่อนที่ดีย่อมมีผลต่อความเจริญก้าวหน้าของชีวิต ส่วนเพื่อนที่ไม่ดี มีแต่พาเราไปสู่หนทางแห่งความหายนะ เช่น เพื่อนปอกลอก คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว คบเราเพราะมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง เพื่อนหัวประจบ ก็จะเออออไปกับเราทุกอย่างไม่ว่าจะทำดีทำชั่ว แต่ลับหลังกลับนินทา และที่ร้ายที่สุดคือเพื่อนชวนฉิบหาย คือ ชวนให้เราดื่มเหล้า เมายาอี มั่วเซ็กส์ และเล่นการพนัน เหล่านี้คบแล้วก็พาเราไปสู่ทางเสื่อมเสียทั้งสิ้น ส่วนเพื่อนแท้ คือ มิตรที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข แนะนำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ เมื่อเราทุกข์ก็ทุกข์ด้วย และหาทางช่วยเหลือ เมื่อสุขก็พลอยยินดี ไม่ริษยาเรา เป็นต้น การมีมิตรดีจึงเป็นมงคลอีกข้อ



๗.ที่ทำงานมงคล ก็ใช้หลักเช่นเดียวกับบ้านมงคล นั่นคือ ต้องให้สถานที่ทำงานของเราสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบเรียบร้อย ถ้าทำทั้งหมดไม่ได้ อย่างน้อยที่สุด โต๊ะทำงานของเราก็ให้สะอาด สวยงาม ไม่รกหรือมีของกองสุมจนหาที่ว่างไม่ได้ และแม้แต่เราเองก็ไม่อยากนั่ง ไม่ว่าโต๊ะทำงานหรือที่ทำงานของเราก็เป็นดังกระจกสะท้อนถึงลักษณะของผู้ที่ทำงานอยู่ในสถานที่นั้นๆ ดังนั้น ที่ทำงานหรือโต๊ะทำงานจึงเป็นอีกมงคลหนึ่ง ที่จะก่อให้เกิด “First Impression” ต่อหน่วยงานหรือตัวเราเองได้



๘.อาหารมงคล คือ อาหารที่กินแล้วมีประโยชน์ต่อตัวเรา และไม่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เช่น ทองหยิบทองหยอด แม้จะชื่อดี แต่อาจจะทำให้เราเป็นเบาหวาน หรือเป็นโรคอ้วนได้ ดังนั้น เราจึงควรงดหรือกินแต่น้อยพอประมาณ แล้วไปกินผลไม้ชื่อมงคลอื่นแทน เช่น ส้มเช้ง ทับทิม กล้วยหอม เป็นต้น



๙.กรรมมงคล กรรม ก็คือ การกระทำ หมายถึงให้เราพยายามทำสิ่งที่ดีๆให้ได้ทุกวัน หรือวันละเล็กละน้อย ถือว่าเป็นการสะสมบุญกุศลที่เป็นอีกมงคล ซึ่งจะส่งผลให้เรามีความสุขกาย สบายใจ เช่น ไหว้พระระลึกถึงพระรัตนตรัยก่อนออกจากบ้านทุกวัน งดกินเนื้อสัตว์ทุกวันเกิดในสัปดาห์ อ่านนิทานลงเทปให้เด็กตาบอด ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำทุกอย่างให้ถูกต้องทั้งทางกฎหมายและศีลธรรม เป็นต้น



นพมงคลทั้งหมดนี้ หวังว่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตในปีใหม่ หรือปีจอ ๒๕๔๙ ให้เจริญก้าวหน้า สมหวัง และเป็นพลังที่ช่วยกันสร้างสรรค์ “ชาติไทย”เราให้น่าอยู่ต่อไป





อมรรัตน์ เทพกำปนาท

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=24637
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง