Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 รวมพล...คนพระไตรปิฏก อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ณรงค์เดช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 พ.ย.2005, 7:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ทราบพอจะมีใครยินดีบ้าง? คืออยากจะทราบมีใครบ้างที่

1) ชอบ ซาบซึ้ง รัก ศรัทธาในพระไตรปิฏกซึ่งเป็นแหล่งหลักสำคัญที่สุดที่ได้บรรทึกคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทีถูกถ่ายทอดสืบต่อกันมาโดยความพยายามไม่ให้ผิดเพี้ยนมาตลอดหลายพันปี ทำให้เรายังคงศึกษาคำสอนแท้ๆจากยอดครูของครูทั้งหลาย ครูของมนุษย์และเทวดา,พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

2) ได้อ่านบ้างแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกอะไร เข้าใจบ้าง งงบ้าง น่าเบื่อบ้าง แต่ก็ยังจะอ่านต่อ

3) รู้สึกสนใจ แต่ยังไม่ได้อ่าน เพราะไม่มีเวลาหรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ หรือได้อ่านไปน้อยมาก แต่ก็สนใจอยู่

4) อื่นๆ คือ... (แจ้งมาได้ครับ)

ที่อยากรู้ก็เพราะบางสาเหตุเช่น

ก) มีเยอะแค่ไหน เพราะมีความรู้สึกว่ามีน้อยมากเหลือเกิน

ข) จะได้รู้จักกันไว้ ดังนั้นถ้าสามารถให้email address ด้วยก็ดี แต่ไม่อยากให้ก็ไม่เป็นไรหรอก ของผมก็ได้ให้ใว้แล้วติดต่อมาได้

ค) เพราะเห็นเขาPromote หนังสือบางเล่มกันเหลือเกิน(ดี ไม่ดี ก็ไม่รู้หรอกนะ) แต่เห็นพระไตรปิฏกด้อยค่าไปเลย กลายเป็นทำให้คนเข้าใจว่า คำสอนของพุทธนั้นล้าสมัย ไม่ร่วมสมัย เข้าใจเป็นว่าคำสอนของพุทธยาก สูงส่งไป อย่าไปแตะ เพราะเป็นของสูง เข้าใจยาก มีการดัดแปลงคำสอนของพุทธ(ด้วยเจตนาดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่)

ง) เผื่อจะนัดแนะเจอกัน เผื่อจะทำอะไรขึ้นมาได้ เสียสละเวลาคนเล็กละน้อย เดือนละชั่วโมง 2ชั่วโมง 10ชั่วโมง 20 30 ...ชั่วโมง ก็แล้วแต่ความสมัครใจ เดี๋ยวนี้งานมันรัดตัวกันทั้งนั้นนี่นะ!! ผมก็ด้วยเหมือนกัน

จ) ...



"พระไตรปิฏก"ที่ผมพูดถึงนี่จริงๆคือเน้นถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า คือถ้าอ่านจากที่อื่นเล่มอื่นแต่คือเอามาจากพระไตรปิฏกก็ถือว่าได้ครับ

อ้อ!เกือบลืม ผมอยู่ในข้อที่1 ครับ

 
max
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 พ.ย.2005, 8:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สวัสดีครับก่อนที่ผมจะมาพบพระไตรปิฏกในโลก online ผมได้ศึกษาพระธรรมจากหนังสือหลายๆครูบาอาจารย์หลายแนวทางก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นในทางโลกและทางธรรมแต่หลังจากได้มาพบพระไตรปิฏกในโลก online ทำให้ผมมีความมั่งใจขึ้นไปอีกว่าแนวทางไหนถูกต้องและตรงทางมากที่สุดครับ

 
ณรงค์เดช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 พ.ย.2005, 2:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จากความคิดเห็นที่ : 1 ก็เห็นด้วยครับ การมีพระไตรปิฏกกำกับด้วยมาเสริมด้วยก็คงเป็นอย่างที่คุณMaxว่า

แล้วสนใจแบบOffline บ้างไหมครับ มาเจอตัวกันจริงๆ สัมผัสชีวิตจิตใจกันและกันจริงๆ สัมผัสอารมณ์ความรู้สึกยิ่งขึ้นไปอีก ผมว่าน่าจะได้ธรรมยิ่งขึ้นไปอีกว่าไหม?



คือได้ไปเห็นที่อเมริกาเมืองแม่เมืองต้นแบบ ผู้นำแห่งวัตถุนิยม ทุนนิยม เงินนิยม แต่ปรากฏว่ามีคนสนในใจในจิตวิญญาณอยู่ไม่น้อยเลย (ผมก็เลยไม่แปลกใจที่มีคนคิดว่าศาสนาพุทธจะไปโตที่อเมริกา เขามีการจ้างคนหลายๆคนเป็นหลายๆหมื่นบาทต่อเดือน มานั่งสมาธิเพื่อจะเช็คเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เขาทำกันจริงจัง นี่แค่ตัวอย่างครับ)

เขามีมานั่งอ่านBible ที่บ้านสมาชิก หมุนเวียนเปลี่ยนบ้านกัน นั่งคุย นั่งแสดงความคิดเห็น กินอาหาร นั่งร้องเพลงสรรเสริญ พระเจ้า พระเยซูกัน

พวกเซ็น(สาขาหนึ่งของศาสนาพุทธ)นอกจากนั่งสมาธิ ก็มีมานั่งล้อมวงกันคุย ถกกันเกี่ยวกับหนังสือที่เกี่ยวกับเซ็น วัดไทยที่อเมริกา ก็พอมีคล้ายๆกัน (แต่ผมชอบที่พวกฝรั่งจัดกว่าหน่อย เขาNice เขา OpenMind ดีมากเลย) ตอนผมอยู่ก็ไปร่วมกับเขาหมดหล่ะ

ถ้าคนไทยเรามีมาเจอกัน นั่งล้อมวงอ่านพระไตรปิฏก แบ่งปันเรื่องราวจากพระไตรปิฏก แบ่งปันผลที่ได้กับตัวเอง คุยกัน มาถกวิเคราะห์เกี่ยวกับหลักความจริงและหลักความถูกต้องดีงาม กินอาหาร่วมกัน ฯลฯ คงจะเป็นกิจกรรมอันหนึ่งที่ดีมากๆ

เราคนไทยชาวพุทธถ้าทำได้บ้างก็คงจะเยี่ยมเลย
 
ดอกฟุ้ง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 พ.ย.2005, 2:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เนื้อหานั้นเยอะมาก แต่ควรเลือกอ่านและศึกษาเฉพาะที่สนใจก็ดี
 
max
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 พ.ย.2005, 3:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับ คุณ ณรงค์เดชที่มีจิตเมตตาแต่บ้านผมอยู่ต่างจังหวัดครับ
 
มัคคนายก
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ย.2005, 3:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปัญญาขั้นต้น สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป



คือ ปัญญาที่ทำให้เป็นสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ คือให้รู้จักอกุศล ให้รู้จักอกุศลมูล ให้รู้จักกุศล ให้รู้จักกุศลมูล



แต่ว่าพึงทำความเข้าใจด้วยว่า ความรู้จักที่เป็นตัวปัญญาที่เป็นสัมมาทิฎฐิดังกล่าวนี้

ไม่ใช่สัญญาคือความทรงจำ (ในขันธ์ห้า) ความทรงจำนั้นคือ ความทรงจำตามที่ฟัง ตามที่อ่าน ตามที่เล่าเรียน ก็จำได้ว่า อกุศลกรรมบถ ๑๐ อกุศลมูล ๓ มีอะไรบ้าง กุศลกรรมบถ ๑๐

กุศลมูล ๓ มีอะไรบ้าง ความทรงจำเหล่านี้ ยังไม่เป็นปัญญา และยังไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ



ดังนั้นต้องอาศัยความคิดพิจารณา และการปฏิบัติ ดังนี้

ปหานะ (ละ) คือต้องฝึกละอกุศลกรรมบถ ๑๐ ละอกุศลมูลทั้ง ๓

ภาวนา คือ ต้องปฏิบัติกุศลกรรมบถ ๑๐ และอบรมอกุศลมูล อโลภะ อโทสะ อโมหะ ให้บังเกิดขึ้นในจิต



เหตุให้เกิดปัญญา

สุตมัยปัญญา คือการอ่าน การเรียน

จินตามัยปัญญา คือความคิดพิจารณา

ภาวนามัยปัญญา คือการปฏิบัติอบรม

ทั้ง ๓ ข้อนี้ ต้องประกอบด้วยทั้งละ และทั้งทำให้มีขึ้น เมื่อปฏิบัติไป ๆ ก็ย่อมจะได้ปัญญาที่เป็นตัวความรู้ขึ้นของตนเอง เรียกว่า "ญาณทัสสนะ " รู้เห็นว่า ข้อ ๆ นี้เป็นอกุศลจริง , ว่าข้อ ๆ นี้เป็นอกุศลมูลจริง , ว่าข้อ ๆ นี้เป็นกุศลจริง , ว่าข้อ ๆ นี้เป็นกุสลมูลจริง



ในการปฏิบัติประกอบปัญญาทั้ง ๓ ข้อ ต้องอาศัย " กัลยาณมิตร " และอาศัย

" โยนิโสมนสิการ " มาประกอบกันตลอดเวลา ตามมงคลสูตรคาถาแรกว่า

"ไม่เสวนาคบหาคนพาลทั้งหลาย เสวนาคบหาบัณฑิตทั้งหลาย

และบูชาผู้ควรบูชาทั้งหลาย "



คัดลอกบางตอนจากหนังสือ " สัมมาทิฎฐิ " พระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร ฯ
 
ณรงค์เดช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ย.2005, 1:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วันเสาร์พรุ่งนี้12พ.ย. เวลา14.00 มีนัดกันที่ร้านน.โภชนา ร้านคุณเกษม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยที่กระทู้"สนทนาธรรมตามกาลแห่งที่2 "
http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=dhammajak&No=3027

ถ้าเป็นไปได้ก็จะพยายามบอกล่วงหน้าให้นานกว่านี้ครับ
 
ณรงค์เดช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2005, 3:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จากความคิดเห็นที่4 คุณMax ก็จัดที่ต่างจังหวัดก็ได้นี่ครับ ชวนคนมาสนทนาธรรม หาที่ที่พอจะสนทนาธรรมกันได้

ถ้ามีได้ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบล ลงไปถึงรากหญ้า (อย่างที่พวกวัตถุนิยมเขาทำได้ และทำอยู่ และกำลังพยายามทำยิ่งๆขึ้นไปในด้านวัตถุ)

แต่เราเป็นด้านพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อจะเป็นแกนหลักของคนไทยชาวพุทธ จากหลายๆสาย

ถ้าทำได้ก็เยี่ยมเลย
 
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2005, 4:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำไมไม่นัดกันไปที่วัดใดวัดหนึ่งล่ะครับ ถ้าเกิดสมาชิกน้อย ก็สนทนากับพระในวัดก็ได้อย่างน้อยพระท่านจะได้รู้ว่าฆราวาสที่สนใจทางธรรมก็ยังมีอยู่ พระรูปใดมีความรู้ดีก็สามารถแนะนำได้ รูปใดไม่ค่อยรู้จะได้เร่งศึกษาก็จะเป็นคุณแก่พระศาสนาสืบไป
 
ณรงค์เดช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2005, 3:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จากความคิดเห็นที่ : 8

วัดไหนดีหล่ะครับกับพระรูปไหนดีครับ

ที่Postนี่ ณตอนนี้ ก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นฆราวาสหรือพระ เป็นวัดหรือไม่เป็นอะไรอย่างไรครับ

ใครมีอะไรก็แนะนำมาได้เลยครับ



 
ณรงค์เดช
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 11:55 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุญาติแบ่งปันเรื่องข้างล่างนี้ครับ

----------------------------------------------------------------------------

บัดนี้ พวกเราเหล่าพุทธบริษัท ทั้ง ๔ มาประชุมพร้อมกันแล้ว เรากำลังทำหน้าที่ของชาวพุทธ คือการรักษาพระพุทธศาสนา โดยเริ่มต้นด้วยการเห็นความสำคัญของพระไตรปิฎก วันนี้เราจึงพร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับพระไตรปิฎก แสดงว่าอย่างน้อยเราเห็นความสำคัญของพระไตรปิฎกแล้ว แต่อย่าเอาแค่เห็นความสำคัญการเห็นความสำคัญของพระไตรปิฎกนั้น แน่นอนว่าสำคัญอย่างยิ่ง เวลานี้เรารู้จักพระไตรปิฎกกันน้อยไปหน่อยเห็นความสำคัญของพระไตรปิฎกกันน้อยไปหน่อย

ต่อไปนี้จะต้องรู้จักพระไตรปิฎกกันให้มาก และเห็นความสำคัญของพระไตรปิฎกกันให้มาก เมื่อเห็นความสำคัญแล้วก็ชวนกันรักษา ชวนกันรักษาอย่างไร ก็มาเล่าเรียน มาชวนกันอ่าน มาชวนกันเรียน มาเล่าให้กันฟัง มาอธิบายให้กันฟัง ครั้นเล่าเรียนแล้วก็เอาไปใช้ปฏิบัติ โดยนำเอาความรู้เข้าใจที่ได้ศึกษามาแล้วนั้นไปพัฒนา ศีล สมาธิ ปัญญา ขัดเกลาพฤติกรรม กาย วาจา ของตน พัฒนาจิตใจของตน พัฒนาปัญญาของตน ให้ชีวิตเจริญงอกงามขึ้นใน ศีล สมาธิ ปัญญา ก็จะได้รับประโยชน์เสวยผลที่พึงเกิดมีจากพระพุทธศาสนา

ที่กล่าวมานี้คิดว่าเป็นคุณค่าซึ่งจะเกิดขึ้นจากการฉลองหรือสมโภชพระไตรปิฎกครั้งนี้ด้วย หมายความว่า การสมโภช ฉลองพระไตรปิฎกจะเกิดผลแท้จริง ก็ต่อเมื่อไปออกผลแก่ชีวิตและสังคมของชาวพุทธ ตลอดจนคนทั้งโลก เรียกว่านำมาซึ่งประโยชน์สุขแก่ชาวโลกทั้งปวง

ขอให้การสมโภชเฉลิมฉลองพระไตรปิฎกของมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยครั้งนี้จงเกิดผลอำนวยประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาแก่ชีวิตของชาวพุทธทุกคน และแก่ชาวโลกทั้งมวล ให้อยู่ในความดีงามและร่มเย็นเป็นสุข ตลอดกาลยั่งยืนนานทุกเมื่อ

************ ปาฐกถาธรรมของพระธรรมปิฎก โดยวีดิทัศน์ (ถ่ายที่วัดญาณเวศกวัน เนื่องจากพระธรรมปิฎกอาพาธ) ฉายในวันสมโภชพระไตรปิฎก ฉบับแปลภาษาไทย ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ณ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๒

…………………………………………………………………………………

ตอนนี้ Clear แล้วค่ะ

และขอขอบคุณคุณเอที่ได้พยายามชี้แนะ

ที่ผ่านมาไม่เคยรู้เรื่องพระไตรปิฏกเลย แต่ก็คงจะเป็นเหมือนกับคนส่วนมากเพราะไม่เคยเห็นก็เลยไม่รู้จักแล้วยังเข้าใจผิดอีกว่าพระสงฆ์เท่านั้นจึงจะแตะต้องได้ แล้วก็ไม่อยากให้นำมาเป็นข้อสนทนาเพราะเกรงว่าจะทำให้เข้าใจไขว้เขว ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่นำมาพูดกันนั้นอะไรผิดอะไรถูก(รู้สึกเคืองคุณเอด้วยซ้ำที่นำเอาสิ่งที่เราเคารพบูชามาเป็นหัวข้อสนทนาไปจิบกาแฟไป) เมื่อได้มาอ่าน tripidok.doc ของท่าน ธรรมปิฎก(ที่คัดมาบางส่วนท่อนบน) แล้วจึงเข้าใจความคิดของคุณเอ

ขอให้พยายามต่อไปนะคะอย่างน้อยก็รวมพลมาได้อีกหนึ่งคนแล้วค่ะ  Aoy

นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนรู้จักพระไตรปิฎกน้อยมากเพราะไม่มีคัมภีร์ที่เป็นหนังสือให้ค้นคว้าเลยส่วนการถ่ายทอดจากพระก็เป็นการสวดมนต์ที่เป็นภาษาบาลีก็ไม่รู้ความหมาย

........

ทำยังไงพระไตรปิฏกจึงจะแพร่หลาย

ปีหน้าถ้าระดมทุนได้คนละ 1 บาท 60 ล้านคน 60 ล้านบาท จัดพิมพ์พระไตรปิฎกถวายในหลวงเนื่องในวโรกาสครองราชย์ 60 ปีก็จะดีนะคะ

 
นิพพาน
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 ต.ค. 2006
ตอบ: 34

ตอบตอบเมื่อ: 03 พ.ย.2006, 12:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

.....ทุกคนมีสิทธิ์สะดุดล้ม แต่ล้มแล้วนอนเป็นเรื่องน่าตำหนิ ล้มแล้วรีบลุกขึ้นเดินต่อไปสิ คนเขายกย่องสรรเสริญ .....การล้มแล้ว ลุก แล้วๆ เล่าๆ ถ้าถอดเป็นธรรมะก็ได้แก่ความพากเพียรนั่นเอง พระท่านเรียกว่า "วิริยะ" บ้าง "วิริยา-รัมภะ" บ้าง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กเมื่อวานซืน
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 22 ต.ค. 2006
ตอบ: 31
ที่อยู่ (จังหวัด): นนทบรี

ตอบตอบเมื่อ: 03 พ.ย.2006, 8:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ภาค อภิธรรม เป็นส่วนที่ละเอียดมาก ต้องอาศัยความรู้ที่กว้างขวางมาประกอบการอ่าน

ตอนนี้รู้แค่เปลือกนอกผิวเผิน ไม่กว้างขวางศัพท์ทางธรรม สร้างความงงเต๊กเก๊กซิม จริงๆครับ

ใครรู้เชี่ยวชาญในส่วนนี้ลองนำมาแถลงในกระทู้บ้าง จะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบุคคลหลายๆท่านที่แวะเข้ามาศึกษา ขำ
 

_________________
กินเหมือนสุกร อยู่เหมือนสุนัข ฝักใฝ่เสพกิเลสร่ำไป
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง