Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วรากร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ย.2005, 10:12 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระโพธสัตว์อวโลกิเตศวร(ผู้การุณย์)

ผู้(ประกอบ) อยู่ด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง

ได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว

ขันธ์ห้านั้นว่างเปล่า,

(และด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึง) ได้ก้าวล่วงพ้นจาก

ความทุกข์ทั้งปวงได้

สารีบุตร!

รูปไม่ต่างไปจากความว่าง,

ความว่างก็ไม่ต่างไปจากรูป.

รูปคือความว่างนั่นเอง,

(และ) ความว่างก็คือรูปนั่นเอง.

เวทนา, สัญญา, ก็เป็นดังนี้ด้วย

สังขาร,และวิญญาณ

ก็เป็นดังนี้ด้วย

สารีบุตร!

ธรรมทั้งหลาย(สิ่งทั้งหลายทั้งปวง)

มีธรรมชาติแห่งความว่าง(กล่าวคือ):

พวกมันไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลง,

พวกมันไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก,

ดังนั้น,ในความว่างจึงไม่มีรูป,

ไม่มีเวทนาหรือสัญญา,

ไม่มีสังขารหรือวิญญาณ;

ไม่มีตาหรือหู,ไม่มีจมูกหรือลิ้น,

ไม่มีกายหรือจิต(ใจ);

ไม่มีรูปหรือเสียง,ไม่มีกลิ่นหรือรส,

ไม่มีโผฏฐัพพะ(สิ่งที่มาถูกต้องกาย) หรือธรรมารมณ์(อารมณ์ที่เกิดกับใจ).

ไม่มีโลกแห่ง(ผัสสะคือ)อายตนะ(ภายใน)

(อายตนะภายนอก) หรือวิญญาณ.

ไม่มีอวิชชา,

และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา;

ไม่มี(กระแสแห่งเหตุปัจจัยที่นำไปสู่)

ความแก่และความตาย,

และไม่มีความดับลงซึ่งความแก่และความตาย.

ไม่มีความทุกข์

และไม่มีต้นเหตุ(แห่งความทุกข์);

ไม่มีความดับลง(แห่งความทุกข์)

และไม่มีมรรค(ทางให้ถึงซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์)

ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง,

เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องถูกลุถึง

พระโพธิสัตว์

ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา,

จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้นนานา

(และ)เพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจากอุปสรรค

สิ่งกีดกั้นนานา,

พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ;

(สามารถก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตาทั้งมวลได้,

(และ)ลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด

พระพุทธะในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตทั้งหมด

ผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา

ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้นนั้น,

(อันเป็นภาวะ)ที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่งกว่า

ดังนั้น,จงรู้ไว้เถิดว่า โลกุตรปัญญา

เป็นมหามนตร์อันศักดิ์สิทธิ์,

เป็นมนตร์แห่งความรู้อันยิ่งใหญ่,

เป็นมนตร์อันไม่มีมนตร์อื่นยิ่งกว่า,

เป็นมนตร์อันไม่มีมนตร์อื่นใดมาเทียบได้,

ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง

นี่เป็นสัจจะ(ความจริง)

(และ)เป็นอิสระจากความเท็จ(ทั้งมวล)

ดังนั้น จงท่องบ่นมนตร์แห่งโลกุตรปัญญา

ดังนี้(ว่า):

คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิ

(ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้นไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง!

ความตรัสรู้! สวาหะ (ความเบิกบาน))

แปลโดย คุณละเอียด ศิลาน้อย

 
http://www.geocities
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ย.2005, 10:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฟังบทสวด " มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร " ได้ที่


http://www.geocities.com/chanin44/page01.htm
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง