Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
สังคมไทยวิกฤติหนัก เตรียมรับมือเด็กไทยรุ่นใหม่คุณสมบัติใกล้เ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ผ้าขี้ริ้ว
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 07 ก.ย. 2005
ตอบ: 101
ตอบเมื่อ: 23 พ.ย.2005, 10:20 pm
สังคมไทยวิกฤติหนัก เตรียมรับมือเด็กไทยรุ่นใหม่คุณสมบัติใกล้เคียงกับโจร
นักวิชาการรั้วจามจุรีแฉ ครอบครัวยุดใหม่สร้างเด็กแบบมักง่าย เห็นความสำคัญของเซ็กมากกว่าความพร้อม ทำให้เด็กโง่ หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ หวั่นอนาคตเด็กไทยทั่วประเทศเป็นอาชญากร ทางอินเตอร์เน็ต
สังคมไทยอนาคตน่าเป็นห่วงเมื่อเด็กไทยรุ่นใหม่ฉายแววเป็นอาชญากรอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ซ้ำเรียนรู้เรื่องเพศเร็วเกินวัย เป็นที่เปิดเผยขึ้นในการสัมมายุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อการพัฒนาชาติจากความคิดสู่ความจริงจัดโดยคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๗ ส.ค. โดยนายสมพงษ์ จิตระดับ ผอ.ศูนย์การศึกษาเพื่อด้อยโอกาส คณะครุศาสตร์ จุฬา ฯ ได้นำเสนองานวิจัยเรื่องคุณลักษณของเด็กไทยทั้งนักเรียนมัธยมศึกษาและนักศึกษามหาวิทยาลัย ทั้งรัฐและเอกชนและนำมาสังเคราะห์ ทำให้เห็นแนวโนมที่จะเกิดขึ้นของสังคมไทยในอีก ๕-๗ ปี ข้างหน้า ซึ่งน่าเป็นห่วงมากเพราะเด็กรุ่นใหม่ที่จะเติบโตขึ้นจะเป็นเหมือนกับตัวอ่อนที่ถูกหล่อหลอมจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยยาเสพติดเพศสัมพันธ์แบบเสรี สื่อลามกอนาจาร ความรุ่นแรง ความคิดเสรีหลั่งไหลเข้ามาล้อมตัวเด็ก
นายสมพงษ์กล่าวว่า ได้แบ่งเด็กเป็น ๑๒ ลักษณะ คือ ๑. เด็กไทยจะปัญญาต่ำลงเพราะครอบครัวเลี้ยงดูลูกไม่เป็น แถมครอบครัวยังเปราะบางสร้างเด็กขึ้นมาอย่างมักง่าย สุกเอาเผากิน เพราะหาคู่ครองจากความเหงา มองเรื่องเซ็กซ์ก่อนความพร้อมและความถูกต้องเหมาะสม มีลูกก็ทิ้งง่ายๆ กลายเป็นปัญหาเด็กถูกทอดทิ้งถูกละเมิดทางเพศจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อจากญาติพี่น้อง
๒.มีความอ่อนแอจากยาเสพติด เหล้า บุหรี่ ที่สามารถหาซื้อเพื่อเสพได้ง่าย เด็กจะใช้สิ่งเหล่านี้บำบัดความสุข
๓.อารมณ์กาวร้าวรุนแรงจากสื่อลามกที่มีทุกหนทุกแห่งทำให้เด็กหมกหมุ่น
๔.เป็นเด็กวัยใสเรียนรู้เรื่องทางเพศเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ปัจจุบันถือว่าเป็นยุคทองของนักฟันผู้หญิงในขณะที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็มักมีกิจกรรมที่เอื้อต่อการมีเพศสัมพันธ์ นิสิตนักศึกษาได้มาปรึกษากับตนหลายราย ยอมรับว่าผ่านการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเรียน และถามว่าถ้าท้องสามารถเรียนได้หรือไม่ ซึ่งน่าห่วง
๕.สังคมจะมีอาญชากรเด็กที่ไม่มีตัวตนจำนวนมาก ผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตเพราะอีก ๒ ปีข้างหน้าอินเตอร์เน็ตจะลงสู่โรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศตามนโยบายการศึกษา ขณะที่ต้นทางอยู่ที่กรุงเทพฯจะทำหน้าที่หลอกเด็กที่อยู่ต่างจังหวัดทั้งเป็นเหยื่อทางเพศ ล่อลวงเพื่อข่มขืนและสิ่งหลอกลวงต่างๆ
๖.เด็กจะยึดวัตถุนิยมป็นเส้นเลือดใหญ่แทนคุณค่าความดี ตีราคาความรักของพ่อแม่เป็นราคา
๗.มองตัวเองเป็นศูนย์กลางมากกว่าส่วนรวม รู้จักแต่การรับไม่มีการให้ ทำทุกอย่างให้มีความสุข
๘.ขาดรากเหง้าทางวัฒนธรรม ศาสนาและความเป็นเอกลักษณ์ไทย ถึงเวลาที่สังคมไทยต้องประกาศสงครามวัฒนธรรมกับต่างชาติแล้วเพราะเด็กไทยไม่มีความภาคภูมิใจ ในเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ขณะที่ศาสนาเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะนึกถึงทำให้เด็กไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่รับกฎแห่งกรรมบาทบุญคุณโทษไม่มี
๙.เด็กจะเครียดกดดันแข่งขัน และไร้ความสุขซึ่งเกิดจากระบบการศึกษา เด็กมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหารอบข้าง ขณะที่การใช้ชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยปัญหาหย่าร้างจากปัญหาดังกล่าว ผู้ไม่ต้องการแต่งงานแบบจดทะเบียน
๑๐.มองความสำเร็จบุคคลอื่นว่าความสามารถลอกเลียนแบบได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจเรื่องความถูกหรือผิดถ้าทำตัวเองให้ประสบความสำเร็จได้จะทำทุกวิถีทางเอาเร็วเข้าว่าโดยไม่ผ่านกระบวนการคิด
๑๑.เล่นการพนัน
๑๒.ทำงานหนักไม่เป็นเพราะเด็กจะโตจากห้องแอร์ อาบน้ำอุ่นและโทรทัศน์กับเทคโนโลยีไม่เคยไม่เคยทำงานหนัก
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งร่วมอภิปราย ในการสัมมนาในครั้งนี้ด้วยกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวหลีกเลี่ยงไม่ได้และน่าเป็นห่วงต้องแก้ทั้งกระบวนการมากกว่าจะเน้นไปจุดใดจุดหนึ่งเพราะฉะนั้น บางเรื่องที่รัฐบาลทำอยู่ เช่นความลังเล เรื่องการปฏิรูปการศึกษาการเบี่ยงเบนเรื่องความปฏิรูประบบราชการจะยิ่งซ้ำเติมปัญหามากขึ้น ที่สำคัญค่านิยมหลายอย่างที่ไม่ถูกต้องทำให้สังคมยอมรับได้โดยปริยาย เช่นยาบ้าที่ถูกกฏหมาย การเปิดบ่อนการพนันเสรี แสดงให้เห็นถึงความจำนนของสังคม รวมทั้งกระแสวัตถุนิยมที่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันมีแนวทางที่จะทำให้ประชาชนของประเทศเดินไปในแนวทางนี้ ถึงเวลาที่ต้องช่วยกันกลับมาทำให้สังคมเข้มแข็ง
_________________
คำพูดเพียงน้อยนิดอาจเปลี่ยนชีวิตของคนได้
ผีเสื้อสีขาว
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 18 ธ.ค.2005, 5:11 pm
ระบบการศึกษาทำร้ายเด็กไปหรือเปล่า คุณคิดอย่างไร นักเรียนสนใจแต่ตัวเลข พวกเขาไม่ได้เติบโตมากับความต้องการที่ใจอยากทำ พวกเขาถูกสอนและกล่อมเกลาให้รู้ว่าทำสิ่งทุกอย่างไปเพื่อคะแนน ต้องแข่งขัน เพื่อความอยู่รอด ก่อนอื่นต้องสงสารตัวเองก่อน โลกนี้ช่างวุ่นวาย แต่อย่างไรเสียเราก็ต้องยอมรับความเป็นไปของโลก ทำความดีต่อไป ทำไปเถอะความดี ไม่ต้องหวังอะไรมาก ทำแล้วสบายใจดีก็ทำๆไปเถอะ เขาว่า ค่าครองชีพที่เราดำเนินชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แพงมาก แต่เราก็ได้กำไรที่โลกพาหมุนไปเที่ยวรอบดวงอาทิตย์ฟรีๆ
สู้ต่อไปนะครับทุกคน คนเราทุกคนเกิดมาล้วนต้องทำหน้าที่ทั้งนั้น มีใครบ้างที่เกิดมาแล้วไม่เอาความทุกข์ติดตัวมา เราทุกคนเกิดขึ้นมากับเสียงร้องให้ไม่ใช่หรือ ผู้คนก็ล้วนมีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ต้องอ่านต่อก็ได้นะครับผมแค่อยากระบายความในใจ โลกนี้มันไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหนา มีที่ว่างสำหรับให้เรายืนเสมอและหน่า อย่าท้อไปเลย ในบางโอกาสการช่วยเหลือตัวเองเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้องที่สุด แต่ก็ไม่เสมอไป อย่ายอมแพ้ก็แล้วกัน ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น แต่ตอนนี้ผมขอตัวไปพักสมองก่อนครับ ไว้วันหลังจะแวะมาเที่ยวอีกครับผ๋ม
เราอยู่มาได้จนถึงทุกวันนั้โดยไม่ผูกคอตายก็นับว่าเยี่ยมมาแล้ว
mus_most
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 15 ม.ค. 2006
ตอบ: 4
ตอบเมื่อ: 15 ม.ค. 2006, 6:22 pm
คือในนามเด็กตัวเล็กๆสองคนนะคะ
เราคิดว่าเป็นความจริงคะเราก็เป็นห่วงเพื่อนอยู่เหมือนกันคะว่าจะไปในทางที่ถูกต้องไหมเพราะที่สังเกตุดูแล้วเด็กไทยส่วนมากจะมั่วสุมกับกิเลสอบายมุขต่างๆ
เช่น หนังสือการ์ตูนแค่ดูก็ไม่ไหวแล้วรัฐน่าจะปราบปรามให้หมดเพราะยังมีอีกมากตามร้านต่างๆมากมายไม่สนใจธรรมมะบ้างเสียเลยวัดก็ไม่เข้าบอกว่าน่าเบื่อที่จริงวัดดีออกสงบกว่าพวกผับบาร์เยอะและทำให้ไม่เกิดปัญหาทางสังคมด้วยคะและชอบเดิมพันชีวิตกับอบายมุขความชั่วต่างๆ
แต่เด็กไทยก็ไม่ใช่ไม่ดีสักทุกคนนะคะคนดีก็มีเยอะคะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th