ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 ต.ค.2005, 3:12 pm |
  |
คุณเคยรู้สึกไหม ว่าชีวิตช่างลำบาก
คุณไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่
คุณรู้สึกว่า ชีวิตนั้นเป็นทุกข์
อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไร ๆ ก็ผิดพลาดไปหมด?
รื่องราวต่อไปนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลง ทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้
ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่า เขาจะทำงานสองอย่าง
รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้วยังเหลือแค่พันกว่า
แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว
ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้น
พราะเขามีรายได้น้อย
ต้องประหยัดมัธยัสถ์จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่สูงอายุ
พ่อตาแม่ยาย ภรรยาและลูกสาวอีกสองคน
ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
จุกจิกภายในครอบครัว
เขาอธิบายให้ฟังว่า
เป็นเพราะหลายปีก่อนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย
ขณะนั้นเขา ประสบปัญหาที่สาหัสมาก
สภาพจิตใจตกต่ำจึงไปเที่ยวอินเดียเพื่อให้สบายใจขึ้น
เขาได้เห็นกับตา ผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่ง
ถือมีดอีโต้ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง
สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น
และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ
จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม
คุณอาจจะถามว่า
ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ ?
เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า ?
หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ ? ไม่ใช่
ที่แท้ทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน
แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้
ลูกตัวเองพิการ เพื่อเขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้
เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช๊อก
ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื้น
ทันทีทันใดก็มีเด็กๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา
แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น
เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย
เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด
เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน
เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังทั้งหมดให้เขา
เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ
ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน
(ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซน)
แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวัน
และแล้ว เขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ
ขับไปบนถนน ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็ก ๆ
ซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น
พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ นั่นเอง
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดได้ว่า
ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่อชิ้นขนมปัง
ราคาไม่ถึง 25เซน
เขาเริ่มบอกตนเองว่าตนเองนั้นโชคดีแค่ไหน
เขามีร่างกายครบสามสิบสอง
มีอาชีพการงาน มีครอบครัว
มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย
มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า
มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี
ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า
ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ ?
บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้ คุณละ ?
บางทีเมื่อครั้งหน้าคุณรู้สึกว่า ชีวิตของตนกำลังย่ำแย่
ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็น ขอทานคนนั้นดูสิ !
“ความรู้สึกพอ”
ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ
แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมายและเพียงพอ
เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดออก
แต่บ่อยครั้งเรามัวแต่จ้องบานประตูที่ปิดลงเท่านั้น
ไม่ได้สังเกตเห็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดออกเพื่อเรา
จริงอยู่ พวกเรามักจะรู้ว่าตนเองมี
ก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมัน
แต่พวกเราก็ต้องคอยจนกว่าของสิ่งนั้นมาถึง
จึงจะรู้ตัวว่า เราไม่มีมัน
การมอบความรักทั้งหมดให้กับผู้อื่น
มิได้หมายความว่า เราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน
อย่าหวังว่า รักผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะรักตอบ
จงสนใจแค่ให้ความรักนั้น เติบโตขึ้นในใจพวกเขา
แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลยก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตขึ้นในใจของคุณเอง
หนึ่งนาทีจึงจะทำลายคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งชั่วโมงจึงจะชอบคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งวันจึงจะรักคนๆ หนึ่งได้
แต่ต้องใช้เวลาตลอดชั่วชีวิต
จึงจะลืมคน ๆ หนึ่งได้
จงอย่ามองเพียงรูปภายนอก เพราะสักวันมันจะหลอกคุณ
จงอย่ามองแค่ความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ เพราะสักวันมันจะซีดจางลง
หาใครสักคนที่ยิ้มให้คุณ เพราะเมื่อมีรอยยิ้ม
จะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น
หาใครสักคนที่ทำให้คุณอมยิ้มได้จากใจจริง
บางครั้งเมื่อคุณคิดถึงใครสักคน
ความคิดถึงนั้นอาจถึงขั้นให้คุณคว้าตัวเขาออกมาจากความฝัน
โอบกอดตัวเขาเอาไว้ ไล่ตามความฝันของคุณเอง
ไปยังที่ ๆ คุณอยากไป
เป็นอย่างคนที่คุณอยากเป็น
เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว
ซึ่งหมายถึง...มีเพียงโอกาสเดียวในการทำสิ่งที่คุณอยากทำ
แปลจากบทความของ "โหว เหวินหย่ง" (เจ้าของผลงาน เกิดมาซน ทั้งสองเล่ม)
|
|
|
|
|
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
22 ต.ค.2005, 5:17 pm |
  |
ขอบพระคุณมากนะคะ...สำหรับข้อคิดดีดี สำหรับชีวิต
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ และขอนุญาตแบ่งปันนะคะ
 |
|
|
|
   |
 |
หนูฝิ่น
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 ต.ค.2005, 1:39 am |
  |
|
|
 |
max
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 ต.ค.2005, 10:23 am |
  |
“ความรู้สึกพอ”
ทุกเช้าเมื่ออาทิตย์เริ่มจับขอบฟ้าในป่าอัฟริกา
สิงโตรู้ว่ามันต้องวิ่งล่ากวางตัวที่วิ่งช้าที่สุด
ขณะเดียวกัน กวางเองก็รู้ว่ามันต้องวิ่งให้เร็วที่สุด ...หรือไม่ก็ตาย
จุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่า คุณเป็นสิงโตหรือกวาง
เพียงแต่วิ่งให้สุดกำลังของตน เมื่อถึงคราวก็พอ  |
|
|
|
|
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
23 ต.ค.2005, 12:20 pm |
  |
|
    |
 |
lee123
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 ต.ค.2005, 9:06 pm |
  |
kiat ; your information is very nice. |
|
|
|
|
 |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ต.ค.2005, 12:48 pm |
  |
|
|
 |
อรนุช
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
01 พ.ย.2005, 9:04 am |
  |
|
|
 |
|