Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ใครพอทราบ ธรรมะการครองเรือน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วิวาห์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2005, 10:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากได้ธรรมะการครองเรือน หรือโครงกลอนดีๆในการครองเรือน จะพิมพ์ให้เพื่อนนะ

ใครพอทราบช่วยตอบหน่อย
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2005, 1:20 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=d_poem&No=2715


http://www.dhammajak.net/webboard/webboard.php?Category=d_poem
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2005, 9:55 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครอบครัวและความรัก

ธรรมะจาก หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม









แฟนแปลว่า เย็นใจ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ



ความรัก ควรจะรักด้วยเมตตา ปารถนาดีเท่านั้น



ธรรมะ แปลว่าอะไร แปลว่าธรรมชาติ เกิดแสงสว่าง

xxxที่ว่าความรักทำให้ตาบอด ไม่ใช่ความรักอย่างที่ว่า

มันรักแบบชู้สาวเลย

ถ้ารักตาบอดคือวัยร้าย รักแค้นแน่นทรวง หึงหวง หนักหน่วงในหัวใจ

บ้าบอคอแตก ทั้งรักทั้งแค้น ทั้งแน่นในทรวง ทั้งหึง ทั้งหวง

นี่รักอย่างนี้ตาบอด ตาบอดแน่

ถ้าเรามีเมตตาต่อกัน เอื้อเฟื้อต่อกันด้วยความดีแล้ว ตาไม่บอดหรอก

ธรรมะทำให้เกิดแสงสว่าง ไม่ใช่มืด



ขอเจริญพร คนเราเดี๋ยวนี้ การเลือกคู่ครอง ตามยุคใหม่สมัยใหม่

เขาไม่ค่อยเลือก เจอเช้าได้เย็น เจอเย็นได้เช้า

ไม่มีหลักคุณธรรมไร้เหตุผลมาก

เมื่อสมัยก่อนนานมาแล้วนั้น ปู่ย่า ตายาย เข้าวัดมีหลักธรรม

เลือกคู่ครองแสนจะยาก ก็ขอเจริญพรว่า

การจะมีเหย้ามีเรือน จะปลูกเรือน ตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน ก็จริง

แต่ต้องมีหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เรียกว่าครองเรือนครองรัก

จะเลือกตรงไหน คนเราส่วนมากก็ขอเจริญพร

พี่น้องชาวพุทธศาสนิก เข้าใจผิดกันเยอะ

การจะมีครอบมีครัวนี้แสนจะยาก สำหรับคนมีคุณธรรมไม่ไร้คุณภาพ

อันนี้ต้องพูดให้ยาวนิดหนึ่ง เพราะว่าบางคนเลือกไม่ดีเลย

เอาแต่ความถูกใจ ความถูกต้องไม่มี คนเราจึงอยู่เย็นเป็นสุขไม่ได้

ในเมื่ออยู่เย็นเป็นสุขไม่ได้แล้ว หย่าร้างกันมากมาย

หลากหลายกันด้วยไม่ดี ไร้คุณธรรม



เพราะฉะนั้นการเลือกคู่ของคนโบราณนั้น

เอาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นหลัก

หลักการเลือกคู่นี้มีอยู่ ๖ ประการ

๑. รูปสวย

๒. รวยทรัพย์

๓. นับวิชา

๔. มีมารยาท

๕. เป็นชาติผู้ดี

๖. มีศีลธรรม



อันนี้เป็นวิชาเลือกคู่ ใครสอน พระพุทธเจ้าเป็นผู้สอน

คำว่ารวยทรัพย์ ไม่ได้หมายความว่ามีเงินทอง หมายความว่า มีอริยทรัพย์

ทรัพย์ภายใน และมีทรัพย์ภายนอก นี่เขาเรียกรูปสวย รวยทรัพย์

รูปสวย เขาสวยด้วยอะไร สวยด้วยรูปธรรม

สวยด้วยนามธรรม สวยนอกสวยใน สวยจิต สวยใจ

รวยทรัพย์ คือ อริยทรัพย์ภายในมีไหม คุณสมบัติมีไหม

และทรัพย์ภายนอกมีไหม มีวิชาไหม นับวิชาไหม

มีวิชาความรู้ดี เป็นชาติผู้ดี ไหม มีมารยาท ชาติผู้ดี

มีศีลธรรม ๖ ประการ อันนี้เป็นวิธีเลือกคู่

แต่ไม่ใช่หมายความว่าไปหาหมอดู

เดี๋ยวนี้ขอเจริญพรแทนเหลือเกิน

แม่ไม่ดี เอาวันเดือนปี ผู้ชาย เอาวันเดือนปี ผู้หญิง

เอาไปดูตรงกันไหม วันได้เดือนถึง เป็นเนื้อคู่กัน แต่งงานกัน

ผิดหวังน่าเสียดาย



จุดมุ่งหมาย ข้อที่สอง จะดูตรงไหน ขอเจริญพร จิตใจเข้ากันได้ไหม

นี่ข้อ ๒ นอกเหนือดูจาก ๖ ข้อ คุ้นเคยกันไหม รู้นิสัยใจคอกันไหม

มีความรู้เสมอหน้าเสมอตากันไหม แล้วอัธยาศัย วิสัยทัศน์ กว้างไกลไหม

มีมนุษยสัมพันธ์ หรือเปล่า และมีเมตตาหรือเปล่า

และคนนั้นมีกตัญญูกตเวทิตาธรรม ต่อ คุณพ่อ คุณแม่ ไหม

ถ้าหากอันนั้นเข้ากันได้ อาตมาคิดว่าอันนั้นแหละเป็นการเลือกคู่ ที่ถูกต้อง

แล้วการเป็นเนื้อคู่ที่ถูกต้อง การจะฝังหลักปลูกเรือนเสนจะยาก

ต้องหลายอย่างหลายประการถึงจะมีความสุข

นี่อาตมาพูดเป็นตอนแรกก่อน ว่าเลือกคู่ต้องมี ๖ ประการ

ข้อ ๒ ต้องจิตใจเข้ากันได้ มีความรู้เทียมกัน อัธยาศัยคล้ายคลึงกัน

และเกรดเดียวกัน สเปคเดียวกัน นี่เลือกอันนี้ก่อน



คนเรานี่ เลือกคู่แล้ว จะอยู่เย็นเป็นสุข

ต้องมีเรือนนอก เรือนใน เรือนใจ

อันนี้เป็นข้อต่อไป ไม่ใช่เอาอันนี้เป็นข้อแรก

การเลือกคู่นะ มี ๖ ประการ และ ข้อ ๒ จิตใจเข้ากันได้ ไหม

และข้อต่อไป ปลูกเรือนแล้ว จะอยู่เย็นเป็นสุขหรือไม่ เป็นข้อต่อไป

๑. เรือนนอก

๒. เรือนใน

โบราณท่านว่าไว้ เรือนในคืออะไร เรือนในนี่สำคัญ

ที่แม่บ้านการเรือน เรือนผมสะอาด เรือนผมต้องสะอาดอย่าสกปรก

๒. เรือนนอน ๓.เรือนครัว นี่เรือนข้างใน ในบ้านในเรือน

สร้างอารมณ์ให้ดี ตั้งแต่เช้ามาจนถึงบัดนี้

อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปเยอะ ในเรือน ในหัวใจ

อย่าหละหลวม เหลาะแหละ เหลวไหล

เอาตราชั่งขึ้นมาดู เอาตราชูขึ้นมาชั่ง วัดแล้ว วัดเล่า เฝ้าแต่วัด

เป็นเรือในสำคัญมาก

เรือนในคืออะไร คือ จิตใจ จิตใจ เป็นธรรมชาติ คิด อ่านอารมณ์

รับรู้อารมณ์ไว้ได้เป็นเวลานานเหมือนเทปบันทึกเสียง

ถ้าทำใจให้สบาย ทำใจให้เป็นปรกติแล้ว

จะเรียกเงินก็ไหลนอง จะเรียกทองก็ไหลมา

บ้านนั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ มีแต่ความอดทน

เหมือนบ้านมีเสาเรือน แน่นหนา

นี่แหละในหลักของพระพุทธศาสนา

มีสติปัญญา ศีลแปลว่าสะอาด สมาธิแปลว่าข้างใน มั่นคงถาวร

ปัญญาแปลว่าแก้ไขปัญหาได้ ก็ขอเจริญพรอย่างนี้ถูกต้องแล้ว





จากรายการ "ชีวิต……ไม่สิ้นหวัง เติมพลังคนรุ่นใหม"่

ทางไทยทีวีสีช่อง ๓ ออกอากาศ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓



บทความนี้...คัดลอกจากบทสัมภาษณ์ในรายการบางส่วน

ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวและความรัก

ดูเรื่องเต็มได้ที่ หนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม ๑๔
http://www.jarun.org/v5/th/lrule14p1101.html



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง