Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
รอยแห่งบาป
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 15 ก.ย. 2005, 5:34 pm
โดย..ทองยุ้ย จากหนังสือ เงากรรม เล่มที่ ๓๑
ชนบทแห่งหนึ่งที่ความเจริญทางด้านวัตถุยังไปไม่ถึง แต่ทางด้านจิตใจดีงามมากกว่าคนในเมืองที่มีความเจริญมากมายนัก ไม่มีการหลอกลวง ไม่เห็นแก่ตัว มีความช่วยเหลือกัน โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ มีอะไรก็แบ่งปันกันกิน ของกันใช้ เรียกว่าอยู่กันแบบพี่ ๆ น้อง ๆ ความเป็นอยู่ถึงจะไม่ดีนัก แต่ก็มีความสุขดีตามอัตภาพ แต่ไม่ว่าที่ไหน ไม่ว่าที่เจริญ หรือไม่เจริญ ก็จะมีทั้งคนดี คนชั่ว ปะปะกันไป
มาลี เป็นคนที่เกิดมาในชนบทแห่งนี้ เติบโตมากับท้องไร่ท้องนา ทำนาตั้งแต่เล็กจนโตเป็นสาว มาลีเป็นลูกคนกลาง ในจำนวนพี่น้อง ๗ คน พวกพี่ ๆ ก็มีเหย้ามีเรือนกันไปหมดแล้ว ส่วนน้อง ๆ ก็มีไปแล้ว ที่ยังอยู่กับพ่อแม่ก็มีน้องคนเล็กกับมาลีนี่แหละ ที่ยังไม่มีครอบครัว
มาลีบอกว่า ไม่อยากมีครอบครัว เพราะเห็นพวกพี่ ๆ ที่มีครอบครัวไปนั้น ไม่เห็นสบายสักคน มีลูกมีเต้ายั้วเยี้ย แต่ก็ยังจนเหมือนเดิม สู้อยู่อย่างนี้ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงใคร อยู่กับพ่อกับแม่หากินไปวัน ๆ ดีกว่า ไม่ต้องมีใครมาช่วยกิน เพราะทำนาอยู่ไม่กี่ไร่ และหนำซ้ำยังเช่าเขาทำด้วย ก็ยิ่งไม่พอกินใหญ่ แต่ก็มีบางคนเหมือนกัน ที่ถามมาลีว่า
นี่เมื่อไหร่เอ็งจะแต่งงาน หาคนมาช่วยทำนาเสียที พ่อแม่เอ็งก็แก่มากแล้ว น้องเอ็งอีกหน่อยก็มีเมียก็ต้องเลี้ยงเมีย จะมาช่วยเอ็งกับพ่อแม่ได้สักเท่าไหร่กัน น่าจะหาคนมาช่วยทำนาสักคน จะได้เบาแรง ข้าก็เห็นคนมาชอบ ๆ เอ็งก็มีนี่นา
แต่มาลีหาสนใจในคำพูดของผู้หวังดีไม่ กลับย้อนว่า อะไร ๆ ก็ให้หามาช่วยทำนาหาเลี้ยง แล้วถ้าเกิดไม่ช่วยล่ะ ไม่ยิ่งหนักหรือ ไหนจะพ่อแม่ ไหนจะผัว แล้วเดี๋ยวเกิดมีลูกมาอีก ฉันไม่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เหรอ ผู้ชายแรก ๆ ก็ดีหรอก แต่พอนาน ๆ เข้าก็ออกลายทั้งนั้น ดูอย่างพี่เขยฉันสิ เมาหัวราน้ำ งานการไม่ช่วยทำ ปล่อยลูกเมียให้ทำกันเอง ถ้าจะจนตายเพราะไม่มีคนช่วยทำ ก็ให้จนตายไป ดีกว่าให้คนอื่นมาทำให้เราจนหนักมากขึ้น
มาลีพูดอย่างนี้เป็นประจำจนไม่มีใครหรือผู้ชายหน้าไหนอยากยุ่งด้วย มาลีครองตัวเป็นโสดมาจนอายุเกือบจะ ๔๐ ปี แต่มาลีก็ยังทำนาอยู่อย่างนั้น พอบ้าง ไม่พอบ้าง แล้วแต่ธรรมชาติ เพราะบางปีฝนตกต้องตามฤดูกาลก็ดี แต่ถ้าปีไหนฝนแล้งหรือน้ำท่วม ก็แย่ลงไปอีก
ต่อมา แม่ของมาลีซึ่งอายุก็เลย ๖๐ ไปแล้ว ได้ไปเอาแมวที่ไหนก็ไม่รู้มาเลี้ยงไว้หนึ่งตัว มาลีนั้นไม่ชอบเจ้าแมวนี้สักเท่าไหร่ บางทีมาลียังบ่นกับแม่ตัวเองเสมอว่า ไม่รู้จะเอามาเลี้ยงทำไม เฉพาะปากท้องก็ไม่พออยู่แล้ว ยังจะหาเรื่องให้มันหมดเปลืองขึ้นอีก
แม่ของมาลีก็บอกกับมาลีว่า แค่แมวตัวเดียว จะหมดเปลืองสักเท่าไร กินแค่นิดเดียว แล้วแม่ก็สงสารมัน ไม่รู้ใครเอามาปล่อยไว้ เลี้ยงมันเอาบุญเถอะลูก
บุญเบินอะไร ทำบุญเอาบุญ อะไรก็พูดกันอย่างนี้ ยิ่งทำยิ่งจนแทบไม่มีจะกิน แม่อย่าหวังเลยว่าบุญจะมาช่วย พอพูดจบ มาลีก็ลงจากเรือนไป เดินบ่นพึมพำไปตลอดทาง
มาลีเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเหมือนคนอื่น ไม่เคยที่จะช่วยเหลือใคร และมีนิสัยค่อนข้างเห็นแก่ตัว ประกอบกับตัวมาลีทำงานมามาก จึงมีร่างกายที่แข็งแรงเหมือนผู้ชาย เรื่องหมาเรื่องแมวอย่าคุยกับเธอเลย เธอบอกว่า เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ไม่มีประโยชน์ สู้เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไม่ได้ เวลาไม่มีอะไรกิน ยังเอามาฆ่ากินได้
ดังนั้นเมื่อเห็นหมาและแมวตรงไหน มาลีจะเตะเสียกระเด็นเป็นประจำ จนหมาแมวไม่ว่าที่ไหน จะไม่กล้าเข้าใกล้ พอเห็นมาลีเดินผ่านมาทีไร ก็จะวิ่งหากจุกกันไปเป็นแถว แม้กระทั่งแมวที่แม่ของมาลีเอามาเลี้ยงไว้นั้น พอเห็นมาลีก็จะวิ่งหนีทุกทีไป เพราะมาลีเธอเล่นเอามืออันหนา ๆ เขกเข้าไปบนหัวของเจ้าแมวที่เคราะห์ร้ายตัวนั้นประจำ จนตัวของแมวตัวนั้นงอด้วยความเจ็บปวด เพราะมือของมาลีทั้งหนักและแข็ง
ส่วนแม่ของมาลีนั้นก็คอยเตือนอยู่เสมอว่า อย่าไปทำมันเลย เดี๋ยวจะเป็นบาปเป็นกรรม แต่มาลีก็ไม่เคยเชื่อฟังในคำพูดแม่ของตัวเองเลย ซ้ำย้อนแม่อีกว่า จะบาปไปได้อย่างไร แค่เขกหัวเล่นแค่นี้ จะเป็นอะไรไป
และเจ้าแมวตัวนั้นก็ถูกทารุณกรรมจากมาลีตลอดมา ไม่ว่ามาลีจะพบหรือจะเห็นที่ไหนก็แล้วแต่ แมวจะโดนเขกหัวเสียทุกครั้งไป บางทีเจ้าแมวตัวนั้นยืนกินข้าวอยู่ เธอจะค่อย ๆ เดินย่องเข้าไปทางข้างหลังแมว และจับตัวไว้ เอามือเคาะรัวไปบนหัวอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีความปรานีเลย เจ้าแมวตัวนั้นก็ทั้งดิ้นทั้งร้อง เพื่อจะให้หลุดออกมาจากอุ้งมือของมาลี
แต่เมื่อยิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้มาลีหมั่นไส้มากขึ้น ทำให้เคาะแรงหนักเข้า พอเจ้าแมวตัวนั้นเจ็บมาก ๆ เข้า ก็เลยข่วนเอา มาลีจึงต้องปล่อยเจ้าแมวตัวนั้นไปเพราะความเจ็บ เมื่อเจ้าแมวหลุดออกมาได้ ก็วิ่งหนีโดยไม่คิดชีวิต ไปหาแม่ของมาลี เพื่อจะหาคนช่วย ส่วนทางมาลีนั้นไม่ปล่อยเจ้าแมวตัวนั้นง่าย ๆ ยังวิ่งตามมาอีก
เมื่อเจ้าแมวตัวนั้นวิ่งมาหยุดพร้อมกับซุกตัวลงบนอ้อมแขนแม่ของมาลี ร้องเหมียว ๆ น่าสงสาร มาลีวิ่งตามมาทันพอดี ปากก็พูดว่า อย่าให้จับได้นำ จะเขกให้หัวแตกเลย และมาลีก็หันหลังเดินออกมาไม่พูดอะไรอีก เก็บเอาความแค้นไว้ในใจ อย่างไม่ยอมให้อภัยเจ้าแมวน้อยตัวนั้น
ต่อมาเมื่อมาลีเห็นแมว ไม่ว่าที่ไหน ไม่ว่าแมวของใคร มาลีก็จะจับเอาตัวมาเขกหัวจนมันงง แล้วถึงจะปล่อยไปทุกครั้ง เพราะเจ้าแมวที่แม่มาลีเอามาเลี้ยงไว้นั้น แม่ของมาลีเอาไปฝากให้หลวงตาที่วัดเลี้ยง เพราะถ้าขืนปล่อยเอาไว้ที่บ้าน คงไม่พ้นมือมาลีแน่ ๆ เลย
เมื่อแมวที่มาลีมีความแค้นไม่อยู่ที่บ้านแล้ว ก็หาทางแก้แค้นกับแมวตัวอื่น ๆ ไม่ว่าแมวใคร เมื่อมาลีเจอทีไร ก็จะโดนเขกหัวเสียทุกทีไป ดู ๆ ไปแล้วมาลียิ่งใกล้เหมือนแมวเข้าไปทุกที เพราะตอนที่มาลีเห็นแมว ก็จะทำเสียงล้อให้เหมือนเสียงแมว มือที่ใช้เขกหัวแมวประจำนั้นก็เกร็งจนหงิก เพื่อที่จะได้เขกให้มันมึนกันเป็นแถว ๆ
ตอนนี้มาลีประสาทเริ่มเลอะเลือน ก็คงจะเหมือนเจ้าแมวตัวน้อยที่โดนเขกหัวใหม่ ๆ บางทีก็จำได้ บางทีก็จำไม่ได้ นาที่เคยทำได้ก็ทำไม่ได้ จึงเป็นหน้าที่ของน้องชายทำคนเดียว มือที่เคยแข็งแรงก็กลายเป็นมือที่หงิกงอ สั่นไปทั้งมือ ทำอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะมือข้างขวาที่ใช้เขกหัวแมวนั้น เคยเดินได้ ก็เดินไม่ค่อยได้ ใช้คลานเอา และเสียง ก็ร้องเหมียว ๆ เหมือนแมวไม่มีผิด
แต่เวลาที่มาลีรู้สึกตัวนั้น ก็จะพูดคุยตามปกติ แต่ว่าทำงานอะไรไม่ได้เลย แม้แต่จะตักข้าวกิน มือยังสั่น หยิบช้อนไม่ได้ ข้าวหกเลอะเทอะไปหมด มาลีจึงต้องก้มลงกินข้าวเหมือนแมว โดยใช้หน้าก้มลงไป เอาปากคาบข้าวในชามกิน ดูแล้วเป็นที่น่าเวทนานัก
นี่คงเป็นเพราะมาลี ชอบทรมานสัตว์ แม้กระทั่งเวลากินข้าวก็ยังไม่เว้นเลย มาลีจึงมีสภาพเหมือนกับแมวตัวที่แม่มาลีเอามาเลี้ยง และตอนที่มันกินข้าวอยู่ มาลีก็ยังไม่เว้น บาปกรรมจึงย้อนมาสนองมาลีให้เห็นกันอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
และประกอบกับมาลีไม่เชื่อเรื่อง เวรกรรม และไม่เคยสร้างบุญกุศล สภาพมาลีจึงไม่ผิดกับสัตว์เดรัจฉานในร่างของมนุษย์โดยที่ตัวเองก็รู้ตัว แต่ก็สายเสียแล้ว ไม่มีวันที่จะย้อนมาสร้างกุศลได้ เพราะว่าร่างกายไม่อำนวย และสมองก็เลอะเลือน จะจำได้บ้างก็ชั่วครู่เดียว พอจำอะไรได้ก็มานั่งคร่ำครวญถึงความผิดของตัวเอง แต่พอเผลอก็จะมีสภาพเหมือนแมวอีก
อีกเมื่อไร จะหมดเวร ห
xxx
รรม สักที
มาลีคร่ำครวญพร้อมกับยกมือหงิก ๆ ขึ้นปาดน้ำตา ที่ไหลย้อยลงมาข้างแก้ม และผู้ที่ไม่มีวันที่จะทอดทิ้งมาลีไปไหน และอยู่เคียงข้างกับมาลีตลอดไป ก็คือ แม่แก่ ๆ ของมาลีนั่นเอง
คัดลอกจาก:
http://www.lekpluto.com/index02/kram/kram01_001.htm
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 17 ก.ย. 2005, 4:15 pm
สาธุด้วยครับ
คนมีกรรม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 21 ต.ค.2005, 2:25 pm
เวรกรรมมีจริงนะ
kunying
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 13 ก.พ. 2006
ตอบ: 13
ตอบเมื่อ: 15 ก.พ.2006, 5:31 am
โอยน่ากลัว
_________________
ทำดีเพื่อดีแก่โลก
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th