Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ความทุกข์ของผู้ครองเรือน (ลองพิจารณาดู) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ผู้เห็นทุกข์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2005, 5:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกข์ของการมีครอบครัว

๑. ต้องอดทน อดกลั้นต่ออารมณ์ด้วยทิฐิ ทัศนคติ และสามัญสำนึกที่ไม่ตรงกัน ไม่เหมือนกัน

๒. เรื่องเศรษฐกิจเงินทองที่ต้องใช้จ่ายมีเพิ่มมากขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะภาษีสังคมซึ่งสูงขึ้น เพราะมีญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงถึงสองฝ่าย

๓. ทุกข์ของหญิงที่มีครอบครัว (สามี) ตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ คือย่อมพลัดพรากจากพี่น้อง ทุกข์เพราะมีครรภ์ ทุกข์เพราะคลอดบุตร ทุกข์เพราะต้องทำหน้าที่บำเรอบุรุษ

๔. จำเป็นต้องเปิดเผยในสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผย หรือแตะต้องของพึงสงวนโดยขาดความละอาย

๕. เป็นการสนองตัณหาให้แก่กันและกันโดยไม่รู้จักอิ่ม

๖. เป็นการยากที่จะกระจายความรักออกไปเพื่อสังคมส่วนรวม ส่วนใหญ่จะจมปลักอยู่ภายในครอบครัว

๗. ต้องเผชิญกับธาตุแท้ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนเมื่อก่อนแต่งงาน

๘. ทุกข์อันเกิดจากพรากของรัก เมื่อเกิดเจ็บป่วย ล้มหายตายจาก

๙. ทุกข์เพราะความตระหนี่ของอีกฝ่ายหนึ่ง จะใช้จ่ายไปเพื่อการบุญการกุศลก็ลำบาก

๑๐. ทุกข์จากการบ่นจู้จี้ปากมาก จนเป็นที่รำคาญใจของคนในบ้าน

๑๑. ทุกข์อันอาจไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี มีการเอารัดเอาเปรียบ ประสงค์ร้าย กลั่น แกล้ง

๑๒. ทุกข์เพราะสามี หรือภรรยาเจ้าชู้

๑๓. ทุกข์อันเกิดจากต้องรับภาระหนัก เพราะอีกฝ่ายขาดความรับผิดชอบ ทำให้เงินไม่พอใช้

๑๔. ทุกข์จากคู่ครองมีอารมณ์เพศรุนแรง หรือกามตายด้าน

๑๕. เป็นการจำกัดอิสรภาพให้กับตัวเอง ทั้งในด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

๑๖. ถูกรังแกทั้งกายและใจต่อกัน

๑๗. ทุกข์เพราะอยากมีบุตร แต่ไม่มีสมอยาก

๑๘. ทุกข์เพราะถูกกวน เหนื่อยทั้งกายและใจ เข้าทำนอง “มีลูกกวนตัวมีผัว (เมีย) กวนใจ”

๑๙. มักเกิดอารมณ์บ่อยๆ เพราะต้องเคี้ยวเข็ญบุตรธิดา ไม่ค่อยมีเวลาว่างเป็นของตัวเอง

๒๐. ทุกข์เพราะความเห็นแก่ตัว เกิดความขี้โลภ กักตุนหึงหวง

๒๑. ทุกข์เนื่องจากได้บุตรไม่ดีตามต้องการ

๒๒. ทุกข์เพราะต่างคนต่างให้ความรักบุตรไม่เท่ากัน (ในกรณีที่มีบุตรมากกว่าหนึ่ง) เพราะต่างถือหางบุตรที่ตนชอบ เมื่อบุตรขาดความอบอุ่นอาจหลงไปในทางผิด

๒๓. ทุกข์เพราะอาจได้บุตรมาไม่สมหวัง อยากได้ชายแต่เป็นหญิง อยากได้หญิงแต่เป็นชาย บางคนก็ไม่ครบ ๓๒ ประการ หรือบางคนโตขึ้นอาจเป็นกระเทย ทอม หรือดี้

๒๔. ทุกข์อันเกิดจากบุคคลในครอบครัวต้องโทษ เจ็บป่วย จนบางครั้งพิการ ถูกปองร้ายจะด้วยกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม

๒๕. ต้องพบกับสภาพซ้ำซากจำเจที่ไม่พึงปรารถนา โอกาสกระทบกระทั้งมีบ่อย

๒๖.บางครั้งต้องแยกกันอยู่ เพราะฐานะการงานบีบบังคับ ภรรยาต้องรับหน้าที่ทั้งนอกบ้านและในบ้านเลี้ยงดูบุตรและธิดาจนแทบไม่มีเวลาว่าง

๒๗. ภรรยาต้องเสี่ยงต่อโรคร้ายซึ่งสามีมักจะนำมาให้ เช่นกามโรค โรคผิวหนัง โรคเอดส์ มะเร็งปากมดลูก

๒๘. ทำให้เกิดการแข่งขันแบ่งอำนาจ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับ

๒๙. บางคนก็ก้าวก่ายไม่ให้เกียรติ เช่นเข้าไปยุ่งการงานของอีกฝ่าย หรือว่าร้ายแสดงอำนาจเหนือคู่ครองอวดคนอื่น

๓๐. ทุกข์เพราะบางคนมุ่งอยู่กับกาม จากหนังสืออนาจาร ภาพยนตร์ วีดีโอลามก ทำให้อยากแสวงหากามมากยิ่งขึ้น สามีก็อยากลอง จนเกิดการคบชู้สู่สวาท ด้วยการไม่ซื่อตรงต่อกัน

๓๑. ทุกข์จากญาติพี่น้องของแต่ละฝ่าย เข้ามาเกี่ยวข้องต่างคนต่างถือหางกัน

๓๒. ทุกข์เกิดจากบิดามารดาเป็นตัวอย่างไม่ดี บางทีลูกก็เอาอย่าง บางทีลูกก็ขาดความเคารพนับถือ

๓๓. ทุกข์อันเกิดจากการโกหกและปิดบังบางสิ่งบางอย่างซึ่งกันและกัน บางทีจับได้ไล่ทัน หรือไม่ก็รู้เอง เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งตายไปแล้วเช่น เป็นหนี้สิน หรือไปมีลูกมีเมียไว้ในที่อื่น

๓๔. ความไม่เข้าใจกัน บางโอกาสก็ให้ร้ายกันและกัน แถมเอาเรื่องในที่ลับมาเปิดเผยในเวลาขัดใจกัน

๓๕. เกิดความหึงหวงซึ่งกันและกัน ระแวงกัน บางครั้งต่อว่าเสียๆ หายๆ ถึงกับฆ่ากัน

๓๖. เรื่องกามไม่สมดุลระหว่างสามีภรรยา เช่นสามีตัณหาจัด ภรรยาเฉื่อยชา หรือตรงกันข้าม

๓๗. ได้สามีภรรยาไม่ได้ตั้งใจ ตกบันไดพลอยโจนเนื่องจากความใคร่มากกว่า ต้องทนอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน

๓๘. ทุกข์อันเกิดจากคลุมถุงชน

๓๙. ทุกข์เพราะวัยต่างกันมาก เช่นผัวแก่เมียสาว ทำให้ทัศนคติไม่ตรงกัน

๔๐. ไปพบสามี ภรรยายอดโหด เลี้ยงด้วยลำแข้ง เข่า ศอก

๔๑. ทุกข์เพราะออกจากห่วงร้อยรัดยาก มาวัดทำบุญกุศลก็ยาก

๔๒. ทุกข์อันเกิดจากการสร้างปัญหาโดยไม่บอกให้ทราบ เมื่อรู้ภายหลังก็เป็นเรื่องยากเกินแก้ไข เช่นไปสร้างหนี้สินเอาไว้ ไปมีเมียน้อย

๔๓. ทุกข์อันเกิดจากบุตรธิดาไม่เลี้ยงดูยามแก่ชรา

๔๔. ทุกข์เพราะตนเองมีอายุมากแล้ว ลูกๆ ก็เล็กอยู่เกรงจะตายเสียก่อนลูกโต

๔๕. ทุกข์เพราะสืบมาว่า ภรรยาไม่ใช่คนบริสุทธิ์มาก่อน เวลาทะเลาะกันเองก็เอาเรื่องเก่ามาประจาน

๔๖. ทุกข์เพราะหัวหน้าครอบครัว (สามี) มาด่วนตายไปก่อน ตนเองก็ไม่มีงานทำแถมต้องดูแลบุตรอีก

๔๗. ทุกข์เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับสภาพความจริง เช่นสามีภรรยาทิ้งครอบครัวไปไม่รับผิดชอบ

๔๘. ทุกข์เพราะสามีดื่มสุราจัด หาเงินได้เท่าไรก็เป็นค่าเหล้าหมด

๔๙. บางครั้งสามีดื่มเหล้าแล้วกามารมณ์รุนแรง ทำให้ขาดความละอาย กระทำสิ่งที่ไม่สมควร เห็นภรรยาเป็นนางบำเรอ ปรนเปรอกามารมณ์ในลักษณะวิตถาร ทำอนาจารกับผู้อื่น

๕๐. ทุกข์เรื่องการนอน ต้องทนนอนกับคู่ครองที่ละเมอ กัดฟัน นอนผ้าผ่อนหลุดลุ่ย

๕๑. ทุกข์เพราะจะหวังพึ่งคู่ครองทางลาภ ยศ โดยปิดกั้นไว้มารู้ทีหลังก็ทุกข์

๕๒. ทุกข์อันเกิดจากสามีภรรยามีบุตรมากเกินไป

๕๓. ทุกข์อันเกิดจากฝ่ายชายเป็นผู้แสวงหาวิธีในเชิงกาม อันวิตถารลามกมาข่มเหงสตรีสารพัด

๕๔. ทุกข์อันเกิดจากบุตรธิดาตกระกำลำบาก เลี้ยงตัวเองไม่รอด เป็นทุกข์ที่ต้องรับภาระจากบุตรประเภทเลี้ยงไม่โต หาเรื่องเสื่อมเสียให้แก่วงศ์ตระกูลเป็นประจำ

๕๕. ทุกข์เนื่องจากเป็นภาระในวันแต่งงานตามประเพณีอย่างมากมาย ทั้งเมื่อแต่งแล้วฝ่ายหญิงก็ต้องรับภาระหนักในครอบครัว ยิ่งทำงานนอกบ้านด้วยก็ยิ่งเหนื่อย

๕๖. ทุกข์อันเนื่องมาจากมีตราบาปอยู่ในหัวใจ เพราะไปพบกับผู้ชายที่มาทำตนท้องแล้วไม่รับเป็นพ่อของบุตร

๕๗. เวลาเจ็บไข้ภรรยามักเป็นธุระ แต่เมื่อภรรยาป่วยสามีมักไม่เอาธุระ

๕๘. ได้คู่ครองไม่ถูกใจ มองเห็นคนอื่นดีกว่าครอบครัวตน

๕๙. ชีวิตสมรสมักไม่ค่อยอิ่มในทางกาม ทำให้เป็นทุกข์จิตหม่นหมองกังวล

๖๐. ทุกข์อันเกิดจากคู่ครองไม่มีการเหนี่ยวรั้ง ในครอบครัวเต็มไปด้วยนรก ๖ ขุม คือดื่มน้ำเมา คบคนชั่วเป็นมิตร เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการละเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านการทำงาน ทำให้บิดามารดาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ลูกขาดความเคารพนับถือ หรือกลายเป็นเด็กมีปัญหาในสังคม


การแต่งงานเป็นความชั่วร้ายประการเดียวที่มนุษย์สวดอ้อนวอนขอให้ได้มา

คนโสดเปรียบเหมือนนกยูง คนที่หมั้นแล้วคือสิงโต ส่วนคนที่แต่งงานแล้วคือลา

คาถาขับไล่ความหลง ชายหนังควายหุ้มขี้ หญิงถุงขี้ผูกโบว์

ถ้าท่านรักใคร คิดถึงใคร เป็นห่วงใคร ผู้นั้นจะให้โทษแก่ท่าน

ผู้หวังความสุขอันสมบูรณ์ ไม่ควรทำความสนิทสนมกับสตรี


อยู่เป็นโสดอย่างไรให้เป็นสุข

ถาม อาจารย์คะ... โยมตัดสินใจอยู่คนเดียวเป็นโสด ไม่ยอมให้บ่วงผูกคอ แต่ยังกังวลว่า ถ้าบังเอิญเราอายุยืน แก่หง่อมแล้ว ก็ยังไม่ตาย ตัวคนเดียวไม่มีพ่อแม่พี่น้องคงลำบากมาก อาจารย์มีคำแนะนำอย่างไร จะทำให้อยู่ได้ โดยไม่เป็นที่น่าสมเพชเวทนาของคนอื่น ?

ตอบ ถ้าโยมตัดสินใจอย่างนั้นจริงๆ โยมจำเอาไว้นะ มีสุภาษิตจีนอยู่บทหนึ่งบอกว่า “ถ้ามีเงินเสียอย่างเดียว ก็จ้างผีโม่แป้งได้”

ดูซิแม้แต่ผียังมารับจ้างโม่แป้งเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้ขอให้โยมปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกัน ให้เริ่มสะสมเงินทองตั้งแต่วันนี้ โดยตั้งเป้าว่า

๑. ต้องมีบ้านเรือนของตัวเองให้ได้ ถึงแม้จะคลังเล็กๆ ก็ยังดีขอให้มีพอซุกหัวนอนเถอะจะได้ไม่เป็นคนจรจัด

๒. มีเงินสะสมไว้ตามกำลัง เพื่อไว้ใช้ยามชรา คนเราตอนแก่มีบ้านอยู่ มีเงินใช้ ถึงไม่มีลูกหลานก็จะมีคนมาดูแลเราเอง แต่ว่าเราต้องหมั่นทำบุญทำทานเอาไว้อย่างต่อเนื่องด้วยนะ ชีวิตจึงจะไม่ลุ่มๆดอนๆ มีแต่ความสุขมีความอบอุ่นแม้ยามเราแก่เฒ่า

คนที่ไม่มีทรัพย์ ทั้งยังไม่ทำบุญ ก็เลยไม่มีบุญ ถึงมีลูกเป็นสิบๆ คน เขาก็ไม่ดูแลหรอก ลูกแต่ละคนก็จะอ้างความรับผิดชอบครอบครัวของตัวเอง บางทีจะได้ยินคำพูดชนิดว่า “แม่ก็ดูแลตัวเองไปซิ ฉันเองก็แทบเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว” หรือบางทีลูกอยากให้อยู่ แต่แม่เองกลับไม่ชอบขี้หน้าลูกเขย ลูกสะใภ้ เกิดทนไม่ได้ ก็มีเหตุสารพัดที่ต้องมาอยู่ตามลำพังนั่นแหละ เกิดทนกันไม่ได้ ผู้เฒ่าประเภทนี้ ก็มีให้เห็น ไม่ใช่น้อยหรอกนะ ในยุคนี้ คนเราถ้าทำดีมาตลอดชีวิต ก็จะมีคนมาดูแลเอง บางทีคนที่อาสามาดูแลกลับไม่ใช่ลูกหลานของตัวเองเสียด้วยซ้ำไปนะ


ตั้งแต่ฉันขาดเธอฉันเพิ่งเจอความสุข
เหมือนออกจากคุกอิสระเสรี
ไม่มีเขาเราก็อยู่ได้
แสนสุขสบายไม่มีใครข่มขี่
ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้งใยเธอนั่งโศกี
ร้องไห้ทำไมให้เสียน้ำตา
หมดเปลื้องเวลาเปล่าๆ ปลี้ๆ
เราก็เป็นหญิงเก่งหากินเองซิจ๊ะ
ไม่จำเป็นที่จะพึ่งพาสามี
อดข้าวหรอกนะเจ้าชีวาวอดวาย
ไม่สมสู่กับผู้ชายก็ไม่ตายเป็นผี
หลุดพ้นเป็นทาสปราศจากพันธะ
เธอต้องไชโยซิจ๊ะ..สวัสดี
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง