ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
10 ก.ย. 2005, 1:06 am |
|
20. มชฺช ปานา จ สญฺญโม
(ระมัดระวังในการดื่มน้ำเมา)
อันน้ำเมาเหล้ายาสุรามฤต
ดื่มแล้วติดเหมือนบ้าช่างน่าขำ
ตกเป็นทาษสุราบ้าคอก
จะชอกช้ำชั่วช้าพายับเยิน
เสียทรัพย์เสียงานพาลวิวาท
เกิดอาพาธโภยภัยไม่ห่างเหิน
เสียชื่อเสียงเสี่ยงภัยร้ายเหลือเกิน
ทั้งหน้าด้านไม่เชิญก็เข้าไป
ทอนกำลังปัญญาพาจิตเสื่อม
ขาดคนเลื่อมใสลงอย่าสงสัย
อันหญิงดีห่อนมีผู้ใดใคร
ยอมแต่งงานด้วยได้เพราะดูแคลน
เฮโรอินฝิ่นกัญชายาเสพติด
ทุกชนิดมากมายหลายหมื่นแสน
อนุโลมดังสุราพายากแค้น
ขจัดให้สิ้นดินแดนของไทยเรา |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
10 ก.ย. 2005, 1:14 am |
|
21. อปฺปมาโท จ ธมฺ เมสุ
(ไม่ประมาทในธรรม)
พระสูตรพระวินัยปรมัตถ์
แยกไว้ชัดจัดสรรไว้กันเขลา
รวมแปดหมื่นสี่พันถ้วนล้วนของเรา
เรียกพระธรรมคำเก่าในบาลี
อย่าประมาทคืออย่าขาดซึ่งสติ
พึงตรองตรึกนึกดำริให้ถ้วนถี่
ระลึกถึงพระธรรมในคัมภีร์
บรรดาที่กุศลธรรมควรบำเพ็ญ
ทุกอิริยาบถทั้งสี่อย่าง
ยืนเดินนั่งนอนทุกทางอย่าว่างเว้น
ให้ตรองตรึกนึกด้วยใจอันเยือกเย็น
ไม่โอนเอนเลื่อนลอยและเมามัว
อย่าปล่อยจิตคิดมุอกุศล
ขาดสติครองตนเป็นคนชั่ว
ขาดศีลขาดทานการของตัว
ขาดภาวนาพาชั่วจนวัมรณ์ |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
10 ก.ย. 2005, 1:24 am |
|
22. คารโว จ
( เคารพ )
" อนึ่งเล่าเข้าที่ศรีไสยาสน์
อย่าประมาทหมั่นคำนับลงกับหมอน
เป็นนิรันดร์สรรเสริญเจริญพร
คุณบิดรมารดาคุณอาจารย์ "
อันบุคคลควรเราจักเคารพ
พึงน้อมนบแน่ประจักษ์มีหลักฐาน
สูงด้วยชาติด้วยวัยด้วยคุณมาน
สามประการจดจำไว้จงดี
พึงเคารพไตรรัตน์จรัสเลิศ
เคารพศีลอันประเสริฐให้เต็มที่
เจริญธรรมกรรมฐานตามวิธี
ให้ถูกต้องถ้วนถี่เคยมีมา
พึงเคารพในความไม่ประมาท
อย่าได้ขาดสติตรึกหมั่นศึกษา
เคารพในปฏิสันถารการนานา
จักชื่อว่าเคารพอภิวันทน์
|
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 1:02 am |
|
23. นิวาโต จ
(อ่อนน้อมถ่อมตน)
จงอ่อนน้อมถ่อมถดซึ่งยศศักดิ์
อย่าสูงนักต่ำนักคนจักหยัน
พอก้ำกึ่งครึ่งกลางก็งามครัน
อย่าดุดันดึงดื้อมัวถือดี
อันมานะทิฏฐิริให้ขาด
อย่าถือชาติถือตระกูลไม่ควรที่
อันยศศักดิ์อัครฐานไม่นานปี
ก็จักมีอันเป็นเห็นทันตา
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีเที่ยง
จงละเลี่ยงหลีกหลบจนจบหล้า
หลีกไม่พ้นเวรกรรมติดตามมา
อนัตตาทั้งสิ้นอย่ายินดี |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 1:08 am |
|
24. สนฺตุฏฐี จ
(มีความสันโดษ)
สันโดษคือยินดีสิ่งมีอยู่
จงชื่นชูเชยรักสมศักดิ์ศรี
ในทรัพย์สินเงินตราบรรดามี
ล้วนแต่ที่เป็นของตนพ้นนินทา
เห็นหญิงอื่นชื่นเช่นดังเห็นแม่
ทรัพย์ผู้อื่นนั้นแลดังหินผา
เห็นสัตว์อื่นหมื่นแสนแม้นชีวา
จักชื่อว่าสันโดษไร้โทษทัณฑ์
หรือยินดีเท่าที่หาทรัพย์ได้
พึงจ่ายใช้ตามกำลังพลังขยัน
พึงยินดีตามสมควรตามส่วนนั้น
ก็สันโดษดุจกันดังกล่าวมา
สันโดษนี้มิใช่ความมักน้อย
แต่คือพลอยยินดีตามคุณค่า
ผิ ได้น้อยนิดหนึ่งพึงปรีดา
ผิ ได้มากก็หรรษาตามค่าควร |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 1:15 am |
|
25. กตญฺญุตา
(กตัญญู)
กตัญญูรู้คุณใบบุญท่าน
พึงเอื้อเฟื้อเจือจานไปตามส่วน
อย่าเลือกเขาเราท่านสิ้นทั้งมวล
ถือว่าล้วนมีคุณอุดหนุนมา
ทางประกอบกรรมดีนั้นมีถม
ตามคตินิยมนมนานเข้า
หนึ่งผู้ให้กำเนิดก่อเกิดมา
คือบิดรมารดาสุดที่รัก
หนึ่งผู้ให้วิทยาหาเลี้ยงตน
ให้เป็นคนเต็มคนแจ้งประจักษ์
หนึ่งผู้ให้ปัจจัยสี่อารีรัก
ได้พึ่งพักพ้นภัยที่ใกล้กาย
ท่านเหล่านี้ควรที่ทดแทนคุณ
ด้วยเอื้อเฟื้อเจือจุนจนชีพสลาย
ทำดีไว้ไม่ลับหรือกลับกลาย
ดีไม่ร้ายดีคงดีทุกทีเอย |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 1:26 am |
|
26. กาเลนธมฺมสฺสวนํ
(ฟังธรรมเทศน์ตามกาล)
อันพระธรรมคำสอนแสนประเสริฐ
นับว่าเลิศหญิงชายสหายเอ๋ย
หมั่นฟังธรรมตามกาลที่ท่านเคย
อย่าละเลยลืมธรรมข้อสำคัญ
ถึงวันพระแปดค่ำสิบห้าค่ำ
ได้ฟังธรรมปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
จิตลุโล่งโปร่งปลอดตลอดวัน
รสพระธรรม์อิ่มอาบสร้านซาบใจ
วันสำคัญอันเนื่องเรื่องศาสนา
ทุกครั้งคราควรสดับพระธรรมไซร้
ประพฤติตนตามพระธรรมเช้าค่ำไป
จะสุขใจสุขกายจนวายปราณ |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 1:40 am |
|
27. ขันติ จ
(ความอดทน)
จงอดใจไม่ไหวหวั่นกลั้นความโกรธ
ไม่เหี้ยมโหดโลภหลงปลงสังขาร
ไม่พยาบาทมาดร้ายทำลายการ
สร้างกุศลสถานเบิกบานใจ
เอาปัญญาพิจารณาซึ่งสังขาร
ไม่เที่ยงแท้เนิ่นนานไปถึงไหน
อนิจจังทุกขํทุกสิ่งไป
อนัตตาพาให้ไม่ยั่งยืน
อย่าโกรธเกลียดลุ่มหลงปลงอารมณ์
อย่านิยมแช่งด่าตั้งหน้าฝืน
ทำจิตใจใสแจ่มและแช่มชื่น
ทุกวันคืนไตรตราเป็นอาจิณ |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 1:46 am |
|
28. โสวจสฺสตา
(ความเป็นคนว่านอนสอนง่าย)
ประพฤติตนเป็นคนเค้าสอนง่าย
ละทิฏฐิทั้งหลายให้หายสิ้น
อุปาทานรานคนเป็นมลทิน
มีราคินคาวจิตนิจนิรันดร์
จงละเสียสิ้นหมดให้ถดถอย
จิตจะพลอยปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
จงอ่อนน้อมยอมเคารพอภิวันท์
คำสอนปราชญ์ทั้งนั้นด้วยเต็มใจ
ความว่าง่ายสอนง่ายสบายจิต
จะพิชิตนิพพานอย่าสงสัย
ละตัณหาอวิชชาทั้งปวงไซร้
จะเห็นธรรมอำไพดังใจจินต์ |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 1:53 am |
|
29. สมณานญฺจทสฺสนํ
(การได้เห็นสมณะ)
สมณะพระภิกษุสามเณร
อีกชีเถรคฤหัสถ์ทั่วทั้งสิ้น
ผู้ปฏิบัติกายใจไร้มลทิน
มีทั้งศีล สมาธิ และปัญญา
ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องผองกิเลส
ย่อมเป็นเหตุให้ผู้เห็นโสมนัสสา
แม้เพียงได้ปฏิบัติและบูชา
อาจจะพาสู่นิพพานไม่นานวัน
การได้เห็นเป็นนิสัยไปข้างหน้า
จะน้อมนำพระธรรมาดังใฝ่ฝัน
ศีล สมาธิ ปัญญาคุณานันต์
ใครเสพพลันย่อมประสบพบนิพพาน |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 12:43 am |
|
30. กาเลนธมฺมสากจฺฉา
(การสนทนาธรรมตามกาล)
บริษัทสี่ที่เรียนธรรมวินัย
จนแจ้งใจแจ่มนักมีหลักฐาน
แล้วนำมาสาธยายไปตามกาล
สู่หมู่ญาติวงศ์วานได้รับฟัง
นับว่าเป็นมงคลอันยอดยิ่ง
ท่านทั้งหลายชายหญิงได้สมหวัง
รู้ซึ่งธรรมกรรมเกิดเลิศพลัง
ตามจิตตั้งเจตนาหานิพพาน
กล่าวซึ่งทานการให้ข้าวและน้ำ
ทั้งกล่าวย้ำยกศีลามาไขขาน
ยกภาวนาสมาธิตรองตริการ
กล่าวทบทานพระธรรมได้ลำยอง |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 12:47 am |
|
31. ตโป จ
(ตะบะ)
เพียรสำรวมรักษามหากุศล
กำจัดมลทินโทษสิ้นทั้งผอง
อันราคะโทสะที่เข้าครอง
จำจะต้องกำจัดปัดให้พ้น
อวิชชาตัณหาและทิฏฐิ
อุปาทานรานริอย่าผลิผล
ข่มระงับดับกิเลสด้วยเดชตน
เป็นมงคลยอดยิ่งกว่าสิ่งใด
ตโปธรรมจำแนกแยกเป็นสาม
เว้นจากกามสังวาสเด็ดขาดไซร้
รู้อริยสัจทั้งสี่ที่ดวงใจ
กระทำให้นิพพานแจ้งประจักษ์ตน |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 12:51 am |
|
32. พฺรหฺม จริญฺย จ
(พรหมจรรย์)
พรหมจรรย์นั้นประเสริฐล้วนเลิศล้ำ
พึงให้ทานข้าวน้ำสร้างกุศล
ถือศีลห้าพรหมวิหารสร้านกมล
ละเว้นตนห่างเมถุนอย่าวุ่นวาย
ถือสันโดษโปรดปรานสถานสงบ
รอบรู้ครบอริยสัจสิ้นทั้งหลาย
พึงพากเพียรกล้าแข็งไม่หย่อนคลาย
พร้อมใจกายปฏิบัติกิจเป็นนิจไป
รักษาศีลอุโบสถอันประเสริฐ
สมาธิเกิดปัญญาปรุทะลุได้
ประพฤติตนอย่าละพระวินัย
จะสุขใจสุขกายตราบวายปราณ |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 12:57 am |
|
33. อริยสจฺจานทสฺสนํ
(การเห็นอริยสัจ)
ธรรมชาติใดจริงแท้ไม่แปรผัน
ธรรมชาตินั้นเรียกอริยสัจสี่สถาน
ทุกขสัจจ์คือชาติชราการ
พยาธิมานมรณะแต่ละคน
สมุทัยสัจจ์ชัดแน่ได้แก่ตัณหา
นิโรธสัจจ์จัดว่าหาเหตุผล
ความดับทุกข์ดับกิเลสที่ร้อนรน
มรรคสัจจ์ตั้งตนไว้ชอบธรรม
คือเห็นชอบคิดชอบวาจาชอบ
อีกประกอบชอบงานการทุกส่ำ
เลี้ยงชีพชอบพยายามชอบเป็นกอบกำ
ทุกเช้าค่ำจิตตรึกระลึกดี |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 1:02 am |
|
34. นิพฺพาน สจฺฉิกิริยา จ
(การทำนิพพานให้แจ้ง)
บุคคลใดได้แจ้งในสันดาน
ซึ่งนิพพานความดับทุกข์เห็นถ้วนถี่
จัดเป็นมงคลแสนประเสริฐเลิศทวี
เป็นสุขที่ยิ่งใหญ่สุขใดปาน
สุขในมนุษย์สวรรค์สุดสรรสร้าง
แม้พรหมโลกสุขอย่างสนุกสนาน
ก็ไม่เทียบเปรียบกับพระนิพพาน
เป็นสถานสุขล้ำดังจำนง
สิ้นกุศลอกุศลพ้นทุกอย่าง
สิ้นทุกทางทั้งโลภโกรธและหลง
สิ้นทั้งบุญทั้งบาปบำราบลง
สิ้นเวียนวงสงสารได้ดังใจปอง |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 1:09 am |
|
35. ผุฏฺฐสฺส โลกธมฺเมทิ
จิตฺตํ ยสฺส นถมฺ ปติ
(จิตไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม)
อันโลกธรรมแปดประการมาหาญหัก
จิตไม่พักหวั่นไหวให้ใจหมอง
อันลาภยศสรรเสริญสุขทุกอย่างตรอง
แม้นมาต้องก็ไม่วาบกำซาบใจ
เสื่อมลาภยศถูกนินทาระทมทุกข์
จะกี่ยุคกี่วันไม่หวั่นไหว
จิตแน่วแน่ไม่แปรเปลี่ยนแปลงไป
ท่านจัดให้เป็นมงคลแต่ต้นมา
อย่าร้องร่ำคร่ำครวญเมื่อคราวทุกข์
อย่ายินดีคราสุขมาสู่หน้า
อันลาภยศสรรเสริญและนินทา
อย่าหวั่นไหวไปมาตลอดกาล |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 1:13 am |
|
36. อโสกํ
(จิตไร้โศก)
บุคคลใดใจเขาไม่เศร้าโศก
ยามวิโยคพลัดพรากจากสังขาร
ไม่ร้องให้ปริเทวนาการ
ด้วยประหารรักได้ดังใจจง
อันเงินทองของรักไม่พักห่วง
จะมัวหลงมัวกลุ้มมัวลุ่มหลง
ล้วนอนิจจังทั้งนั้นไม่มั่นคง
ประหารลงซึ่งความรักให้หักราน
บุคคลนั้นท่านว่ามหาประเสริฐ
เป็นมงคลล้ำเลิศมหาศาล
จิตท่านไซร้เกือบใกล้พระนิพพาน
เพราะประหารโศกได้ไม่ใยดี |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 1:16 am |
|
37. วิรชํ
(จิตปราศจากธุลี)
อันราคะความกำหนัดในกามกิเลส
พึงเป็นเหตุให้ขุ่นข้องเศร้าหมองศรี
อันโทโสโกรธาจะฆ่าตี
โมหะมีหลงจมให้งมงาย
รวมเรียกว่าธุลีนี้กิเลส
จงประหารรานเหตุให้ห่างหาย
สิ้นธุลีสิ้นที่เคืองระคาย
จะสบายเพราะธุลีไม่มีมา |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 1:20 am |
|
38. เขมํ
(จิตเกษม)
จงทำใจไกลจากโยคะจริต
กามโยคะวิปริตติดตัณหา
ภวโยคะยินดีและปรีดา
ในรูปภพมีมาด้วยอารมณ์
อันทิฏฐิโยคะจิตเห็นผิดชอบ
เพราะเกิดกอปร์ก่อตัณหาพาลุ่มหลง
อวิชชาโยคะมัวพะวง
มัวใหลหลงสังขารร้าวรานใจ |
|
|
|
|
|
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 1:26 am |
|
พออ่านจบพบธรรมอันล้ำลึก
ท่านจะนึกดีชั่วเป็นไฉน
ก็โปรดเชิญตริตรึกนึกลงไป
ถ้าเห็นดีก็จะได้มีศรัทธา
เห็นไม่ดีเพราะมีกิเลสกลั้ว
จิตยังชั่วข้องกระชับกับตัณหา
ถ้าเปลื้องชั่วปลิดปลดหมดเวรา
ก็หันหน้าสู่ธรรมอย่าร่ำไร
จาก ศีล ธรรม มงคล คำกลอน |
|
|
|
|
|
|