Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เมื่อเข้าสมาธิแล้ว จึงปวดที่ระหว่างคิ้วทั้งสองข้างและออกทางท อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เกิดความภวังค์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2005, 12:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โดยอาการดังกล่าวนั้น เราจะมีวิธีการแก้ไขเพื่อต้องการให้เกิดประโยชน์อย่างไร ช่วยตอบด้วยครับ
 
จันทโชต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ส.ค. 2005, 11:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใช้ภาวนาอย่างไร ?



ทำมานานหรือยัง ?



อาการนี้เป็นมานานหรือยัง ?



 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 05 ส.ค. 2005, 4:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณเกิดความภวังค์



คุณคงไม่ได้ผ่านการฝึกจิตมาจนชำนาญ เมื่อเกิดอาการดังกล่าว จึงไม่สามารถแก้ไขได้โดยลำดับ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่จะตอบตามวิธีของการฝึกจิต อาการปวดที่หัวคิ้วทั้งสองข้างคงมาจากสาเหตุที่คุณเพ่งตรงหน้าผากมากเกินไป เพราะหากเป็นการรวมจิตหรือถึงรอบของการถอดกายละเอียดตามสภาวะแล้ว จะไม่มีอาการเวทนาใดๆทั้งสิ้น สภาวะต่างๆจะเป็นไปตามธรรมชาติของการปฏิบัติเอง



ส่วนวิธีแก้ไขเมื่อปวดหัวคิ้วทั้งสองข้างและออกทางท้ายทอยซ้ายและขวา เกิดจากคุณไม่สามารถสร้างวงจรจิตให้เป็นการพิจารณาธรรมภายในได้ มันเป็นสภาวะธรรมชาติแห่งการปฏิบัติเมื่อเกิดเวทนาขึ้นที่หัวคิ้วทั้งสองข้าง จิตจะเลื่อนมาที่ท้ายทอยเองเพราะเป็นตำแหน่งที่ๆให้จิตหลบเวทนา เมื่อเวทนามากๆจิตมาหลบมาที่ท้ายทอยและมีความรู้สึกออกทางท้ายทอยซ้ายและขวาทำให้เวทนาที่เกิดขึ้นตรงหัวคิ้วทั้งสองข้างสามารถดับได้โดยธรรมชาติ



วิธีแก้ไขก็คือให้ตั้งไว้ที่ท้ายทอยสักพักหนึ่ง ทำความรู้สึกที่กำหนดจิตไว้ที่ท้ายทอยนั้นให้กระทบกับกระดูกสันหลังซึ่งเป็นแกนของร่างกาย จนกระทั่งมีความรู้สึกว่าความร้อนเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอาการของจิตที่รวมตัวแล้วจับกระดูกสันหลัง กระแสจิตนั้นก็จะไหลแทงทะลุกายลงภายใน ให้ตั้งสติให้เป็นอุเบกขา ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม จะเห็นความเกิดดับ สิ้นเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทในร่างกาย สังขารธรรมต่างๆก็ดับไป



ญาณปัญญาก็จะไหลแทงทะลุกายลงมาจนถึงผัสสะ คือ ร่างกายที่กระทบพื้น ปล่อยจิตให้ไหลเวียนอยู่ในกายไปเรื่อยๆ อย่าปล่อยให้จิตออกภายนอก จะเห็นความเกิดดับ จนกระทั่งภายในกายนั้นว่างเปล่าเป็นอนัตตา พิจารณาได้ก็คือ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็เท่านั้น



เจริญในธรรม



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
.... ...
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2005, 11:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปวดที่ใด....ตามรู้ความรู้สึกที่ปวดนั้น โดยไม่ต้องคิด ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ รับรู้อยู่เฉยๆ...



รู้....คือรู้อยู่ภายในตัวเรา รู้อยู่กับอาการของตัว รู้อยู่กับความรู้สึก รู้อยู่กับความคิด รู้อยู่ว่ากำลังรู้อยู่...



หนทางแห่งสติ...

 
มนต์จงเป่า
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2005, 1:58 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องนี้เบาๆ ไม่เกี่ยวกับปุยนุ่นแต่เกี่ยวกับสมาธิ ในประเด็น จิตสงบ หรือ ใจฟุ้งกระจาย = ?



เคร็กยึ้ง ได้ตั้งใจฝึกสมถะสมาธิ ด้วยความเพียร แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเอาซะเลย ชักจะท้อใจตะหงิดๆ ที่ไม่สามรถฝึกจิตได้ ไม่เป็นดังใจหวังสักที นักเรียนเคร็กยึ้ง จึงเข้าไปพบอาจารย์และเล่าอุปสรรคการทำสมาธิให้อาจารย์เซน ฟัง



นักเรียนเคร็กยึ้ง : อาจารย์ครับ ผมภาวนาแย่ ใจฟุ้งกระจาย ขัดสมาธิปวดแข้งปวดขา นั่งสัปะเงกสัปะหงก จิตไม่เป็นสมาธิ ทำไงดีครับ



อาจารย์เซน : อืม!ไม่ต้องไปทำไรหร็อก แล้วมันก้อจะผ่านเลยไปเอง แหละ



นักเรียนเคร็กยึ้ง น้อมรับคำแนะนำอาจารย์ด้วยความเคารพ แล้วกลับไปทำความเพียรฝึกจิต

ใหม่ ได้หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป คราวนี้จิตเป็นสมาธิดี สมดังที่ตั้งใจและหวังเอาไว้ ที่จะให้จิตตนเองเป็นสมาธิดีอย่างนั้น อย่างนี้ ด้วยความดีใจ จึงกลับไปหาอาจารย์อีกรอบหนึ่ง รายงานผลดีในการฝึกจิตให้อาจารย์ฟัง



นักเรียนเคร็กยึ้ง : อาจารย์ครับ ผมได้กลับไปฝึกจิตอีก คราวนี้สมาธิดีมากเลยครับ มีสติระลึกรู้อยู่ในความสงบ จิตนิ่งจิตแช่มชื่นเบิกบานมากจริงๆครับ ได้ผลเยี่ยมครับ



อาจารย์เซน : ก้อน่านแหละ! แล้วมันก้อจะผ่านเลยไป!



นักเรียนเคร็กยึ้ง : ?? "๐" ?? :-( อึ้งเลย



นักเรียนเคร็กยึ้ง : งงด้วยความเคารพ ได้แต่นึกในใจ อารายกันหว่า! ตอบเหมือนครั้งก่อนเลยอ่ะ



(สงสัยตอนนั้น นายเคร็กยึ้งนี่แกตีธรรมะยังไม่ออก แต่ป่านนี้คงสำเร็จไปแล้ว)



~ ๐ ~ ~ ๐ ~ ~ ๐ ~ ~ ๐ ~

 
แอนนี่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 ต.ค.2005, 1:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อาการนี้ ข้าพเจ้าก้อเคยเป็นและติดอยู่ตรงนี้ถึง3ปี เป็นทุกครั้งที่กำหนดสมาธิ จนวันสุดท้ายที่ผ่านคือ กำหนดให้จิตรู้ส่งอื่นๆเช่นๆไปพิจารณาสังขาร อวัยวะ นรก สวรรค์ แล้วจิตจะไปรู้สิ่งที่กำหนด อันทำให้คลายการเพ่งลมหายใจ เพ่งการรับรู้สภาวะที่ปวดนั้น เมื่อจิตปล่อยการเพ่งนั้นได้จิตจะคลายแล้วหายปวดค่ะscnanzy@yahoo.com
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง