Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พระสัทธรรมเป็นไวตามินบำรุงใจ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
Peter Mohwsays
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2005, 1:04 am
ในเน็ตมีการล่วงเกินวาจาธรรมะสุภาษิต ด้วยการกล่าว เป็นต้นว่า "คำนั้นไม่ใช่พระพุทธพจน์ อย่าเอามาอ้าง" ขอออกความเห็น พระพุทธเจ้าตรัสส่งสริมให้สนทนาธรรมกันอยู่ เนืองๆ โดยใช้ปัญญาสัมมาทิฐิ เป็นของตัวเอง ในมงคลสูตร"กาเลนะ ธรรมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง"และในหลัก กถาวัตุ10อย่าง คือ กล่าวคำที่ชักนำให้มักน้อย สันโดษ วิเวก สงัดกายสงัดใจ ตั้งอยู่ในศีล ในความเพียร ส่งเสริมให้ปัญญาที่ยังไม่แข็งเรง แข็งเรงขึ้นมาเป็นปัญญาสัมมาทิฐิ 8..9..10..ปุถุชนสามารถเทศน์สอนให้คนบรรลุมรรคผลนิพพานได้ มีตัวอย่างมาแล้ว!ในมิลินทปัญหา พระนาคเสนเป็นพระปุถุชนที่มีปัญญาดี เทศน์สอนคนผู้มีความตั้งใจฟังให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ "สุสูลังละภะเตปัญญัง" ผู้ตั้งใจฟังธรรมด้วยดี ย่อมเกิดปัญญา (จะใครเทศน์ไม่ใช่ข้ออ้าง) กาลนั้นพระธรรมรักขิตพระอรหันต์เกิดความเมตตาสงสารที่พระนาคเสนได้แต่สอนคนอื่นให้บรรลุธรรม แต่ตัวเองยังไม่ได้มรรคได้ผลอะไรเลย จึงแสดงธรรมเป็นนัยๆโปรดพระนาคเสน จนบรรลุอรหันต์(ในตอนที่3 พระนาคเสนไปศึกษาพระไตรปิฏกกับพระธรรมรักขิต)
http://www.dhammathai.org/milin/milin.php
เมื่อถึงคราววาสนาบารมีส่งได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า พระองค์จริง เสียงจริง"วิบากโต้ติดตามตัว"จอมโต้จอมงัด โต้กลับพระพุทธเจ้า ด้วยอัตตานุทฑิตฐิ ตามอุปนิสัยเดิมๆ จึงปิดกั้นประตูพระนิพพานไป ซะงั้น
* ทีฆนขะปริพาชก หลานช.ของพระสารีบุตร ไปเยี่ยมท่านลุงพระสารีบุตร ที่ถ้ำสุกรขาตา ได้พบพระพุทธเจ้าและกล่าววาจาสถุลๆ ตีวัวกระทบคราดใส่พระพุทธเจ้า ว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างข้าพเจ้าไม่พอใจหมด" พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า ทีฆนขะไม่พอใจตถาคตด้วย เพราะว่า ตถาคตรวมอยู่ใน คำว่า "ทุกสิ่งทุกอย่าง" และพุทธเจ้า ตรัสต่อไปอีกว่า "ถ้าอย่างนั้น ทีฆนขะเธอก็ควรไม่พอใจ กับความคิดเห็นเช่นนั้นของเธอเสียดวย" พระพุทธเจ้าได้เทศน์โปรดทีฆนขะอีกหลายประเด็นแต่ไร้ผล ทีฆนขะไม่ยอมเปิดใจคิดตามสาระที่ทรงตรัสเลย แต่ พระสารีบุตร นี่สิ กำลังถวายงานพัดพระพุทธเจ้าอยู่ ฟังด้วยความตั้งใจ และได้บรรลุพระอรหันต์ในขณะถวายงานพัดพระพุทธเจ้า นั้นเอง
* ปูรณะกัสสปะ มักขลิโคศาล อชิตเกสกัมพล ปกุทธกัจจายนะ อาจารย์นอกพระพุทธศาสนา ประกาศศาสนาคำสอนอย่างอื่นมาแข่งขันหักล้างคำสอนพระพุทธเจ้า
สอนว่าไง? ในพระไตรปิฏกเล่าไว้ ตอนนี้จำไม่ได้อ่ะ
* สัญชัยเวลัฎฐบุตร อาจารย์เก่าของพระสารีบุตร เมื่อสารีบุตได้พบพระพุทธเจ้าแล้ว พระสารีบุตรได้ไปชวนอาจารย์สัญชัยฯให้ไป ปฏิบัติแนวพระพุทธเจ้าด้วยกัน อาจารย์สัญชัยฯ ปฏิเสธไม่ยอมไปเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า โต้กลับพระสารีบุตร ว่างี้เลยนะ!ในโลกนี้คนโง่หรือคนฉลาดที่มีมากกว่ากัน พระสารีบุตรตอบว่า คนโง่มีมากกว่า อาจารย์สัญชัยฯ ตอบว่า คนโง่จะมาเป็นศิษย์เรา เธอจงไปเป็นศิษย์พระพุทธเจ้าเถิด
* พระเทวทัต โต้คำสอนพระพุทธเจ้าว่าอย่างไร? ใครรู้ช่วยบอกด้วย
* นิครนถ์นาฎบุตร สุดโต่งเรื่องกรรม เถียงพระพุทธเจ้าว่า ไม่ใช่อริยมรรคไรหร็อก กรรมต่างหากที่เป็นเหตุ ห
xxx
รรมก็หมดเกิด เข้าถึงภาวะอันอรรมตะ
* นางมาคันธี หลงตัวเองหลงรูปหลงเงา คิดว่าตัวเองสวย พระพุทธเจ้าเทศน์โปรดว่า กายนี้เป็นของไม่เที่ยงมีแต่ความสกปรกโสโครก ไม่มีไรน่ารักน่าดูชม พ่อแม่ของนางตั้งใจฟังพิจารณาตามพระธรรมเทศนานั้น ได้บรรลุพระอนาคามีในขณะนั้น แต่นางมาคันธีไม่ยอมเปิดใจเครื่องรับฟัง แถมเป็นเดือดเป็นแค้นกล่าวโต้ ว่าพระพุทธเจ้าดูถูกนางหาว่าไม่สวย มาคันธีมีความอาคาตพระพุทธเจ้า ต่อมานางได้เป็นมเหสีเจ้าผู้ครองนคร ได้จัดพวกเดียรถีร์ไปรุมด่าพระพุทธเจ้า
* นางจินจมานวิกา โกหกว่าพระพุทธเจ้าทำนางท้อง กล่าวหาพระพุทธเจ้าว่าไม่ได้ประพฤฒิพรหมจรรย์อย่างที่พระองค์ประกาศ.....ยังมีเรื่องยายหอย ฯลฯ
* กามนิต วันหนึ่งกามนิตนึกเบื่อโลกอยากเข้าถึงความหลุดพ้นและได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณต่างๆแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้านึกเลื่อมใสอยากพบพระพุทธเจ้าเพื่อปฏิบัติธรรมแนวพระองค์ กามนิตจึงเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปตามหาพระพุทธเจ้า บุญเก่าส่งให้กามนิตได้พบพระพุทธเจ้าที่เรือนช่างปั้นหม้อ แต่เพียงลำพัง เขาได้สนทนากับพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับชีวิตของเค้า โดยพระพุทธเจ้าไม่ได้บอกกามนิตว่า กามนิตได้พบพระพุทธเจ้าที่กำลังตามหาอยู่ พระองค์จริง เสียงจริงเข้าแล้ว และพระพุทธองค์ก็ตรัสธรรมะ ไพเราะทั้งในเบื้องตน ท่ามกลาง และไพเราะในระดับที่สุด"ดูก่อนภราดา พระผู้มีพระภาคสัมมาสัมพุทธะนั้น ได้ยังจักรแห่งธรรมอันประเสริฐให้หมุน ใกล้อิสิปัตนะในมฤคทายวันจังหวัดพาราณสี ก็แหละจักรแห่งธรรมนั้น อันสมณะหรือพราหมณ์ เทวดาหรือมาร พรหม หรือผู้ใดผู้หนึ่งในโลกนี้ไม่พึงขัดขวางไว้มิให้หมุนได้ พระธรรมที่ทรงประกาศ คือ ธรรมอันให้เห็นแจ้งความจริงอย่างยิ่ง สี่ประการ สี่ประการนั้น คืออะไร? ได้แก่ ความจริงอย่างยิ่ง คือทุกข์ ความจริงอย่างยิ่ง คือเหตุของทุกข์ ความจริงอย่างยิ่ง คือการดับทุกข์ทั้งสิ้น และความจริงอย่างยิ่ง คือทางที่ไปถึงความดับทุกข์ทั้งสิ้น...พระพุทธเจ้าทรงล็งเห็นบุปเพกตปุญญตา บุญเก่าแห่งกามนิตที่จะได้บรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่ง ได้ทรงแสดงธรรม โปรดกามนิตอีกมากมาย แบบ one-on-one กามนิตได้ฟังธรรมที่นักบวชโล้นรูปงามแสดงนั้นแล้ว กลับโต้ตอบด้วยทิฐิอันแฝงด้วยกิเลสตัณหาของตน กามนิต:ก็เมื่ออินทรีย์ทั้งหกเป็นของไม่เที่ยงไม่มีอาตมัน ตัวตนควรละวางเสีย เพราะล้วนเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ดังนี้จะมีชิ้นอะไรเหลืออยู่อีกเล่า ที่จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวกันต่อไป?กามนิตจึงพลาดมรรคผลนิพพานไปอย่างน่าเสียดาย รุ่งเช้ากามนิต ลานักบวชหัวโล้นรูปงามนั้นเพื่อออกเดินทางไปสวนมะม่วง กรุงราชคฤห์เพื่อหวังจะได้พบพระพุทธเจ้า เดินไปกลางทางถูกควายขวิดตาย ก่อนตายได้เห็นพระสารีบุตรกับพระอานนท์ พระสารีบุตรกล่าวคาถา"ชายคนนี้นับถือพระพุทธเจ้าเป็นดั่งรูปบูชา นึกว่าพอได้สัมผัสแล้วก็พ้นบาปไป"(บทที่21) ก่อนตายนึกถึงพระพุทธเจ้า กามนิตจึงได้ไปเกิดในสวรรค์...เรื่องกามนิตนี้ใครจะตำหนิว่าเป็นแค่นิยาย ก็ช่างเถอะ! โดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่า บุคคลในเรื่องมีอยู่จริงในสมัยพุทธกาลทั้งสิ้น เช่น พระพุทธเจ้า พระองค์คุลิมาล พระอานนท์ พระสารีบุตร ฯลฯ คำกล่าวพระพุทธพจน์ก็เป็นคำสัจจะธรรมได้เห็นประโยชน์สาระในเนื้อเรื่องในทางธรรมะเป็นอันมาก จึงนำสาระจากเรื่องกามนิต นี้มาเป็นคติสอนใจตนเองเสมอๆ
http://www.khonnaruk.com/html/book/liturature/kamanita/kamanita-index.html
บทที่19-20
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2005, 7:32 pm
สาธุ/ขอบคุณมากครับ
00
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2005, 2:56 pm
สาธุ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th