Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พระมหาโพธิสัตว์อันดับหนึ่งในด้านการโปรดสัตว์นรกอันดับหนึ่งขอ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
พุทูธภูมิ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 4:35 pm
ผลานิสงส์ของการสักการะ บูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์
ในขณะนั้นองค์สมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเอื้อมพระสุวรรณหัตถ์ไปปกแผ่พุทธบารมีลงเหนือพระเศียรของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ พร้อมกับทรงมีพระดำรัสว่า
"กษิติครรภ ... กษิติครรภ....ผู้เปี่ยมด้วยฤทธาจุภาพและมหาเมตตาสุดจะหยั่งได้ในโอกาสที่บรรดาเหล่าพุทธะ พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ เทพพรหม พญานาคและสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่าอันมีจำนวนมากมายมหาศาล ได้มาร่วมชุมนุม ณ ดาวดึงส์เทวโลกแห่งนี้
เราตถาคต...ขอฝากฝังพวกเขาตลอดจนเวไนยสัตว์ทั้งหลายในโลกียโลกผู้ซึ่งยังมิได้หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารไว้ในความดูแลของท่าน จงพยายามฉุดช่วยเขาเหล่านั้นแม้สักเพียง 1 วันก็อย่าให้ได้ตกล่วงลงสู่อบายภูมิ จนต้องประสบกับความทุกขเวทนาอีก
"เวไนยสัตว์ในโลกียโลก จิตใจเรรวนไม่แน่นอน สันดานบาปมีมากในตน แม้จะมีใจคิดทำความดีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม เมื่อไปพบกับสิ่งชั่วร้ายอบายมุขทั้งหลาย อนุสัยสันดานบาปก็งอกเงยกำเริบขึ้นอีก
เหตุฉะนี้ ตถาคตจึงต้องนิรมานกายออกนับหมื่นล้านรูปกายเพื่อโปรดฉุดช่วยพวกเขาเหล่านั้นตามควรแก่รากฐานแห่งบุญบารมีของแต่ละคน
กษิติครรภโพธิสัตว์...บัดนี้เราขอฝากฝังสรรพสัตว์ทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างไว้กับท่าน หากในอนาคตกาลเวไนยสัตว์เหล่าใดหวังให้พระธรรมเจริญในตนได้ปลูกฝังกุศลกรรมแม้เพียงเท่าเศษผงธุลี ก็ขอให้ท่านใช้กฤษดาภินิหารอันยิ่งใหญ่ของท่านออกปกป้องและอุ้มชูเกื้อหนุนให้เขาเหล่านั้นดำเนินอยู่ในสายธารแห่งสัจจธรรมตลอดไป"
"ดูก่อน....กษิติครรภโพธิสัตว์ ในภายหน้าหากมีสรรพสัตว์เหล่าใดถูกวิบากกรรมตามสนอง อันเนื่องจากบาปเวรที่เขาได้กระทำเป็นเหตุให้ต้องตกล่วงลงสู่อบายภูมิเบื้องล่าง
ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ประตูนรก หากสรรพสัตว์เหล่านั้น เพียงแต่รำลึกถึงพระนามของพระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์องค์ใดองค์หนึ่ง หรือได้สวดภาวนาสักครั้งดียวก็ขอให้ท่านจงใช้ฤทธานุภาพลงไปทลายเครื่องจองจำอันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ และกิเลสทั้งปวง ซึ่งพันธนาการร้อยรัดจิตวิญญาณของพวกเขาไว้ ให้ต้องได้รับทุกข์ทรมานอยู่ในอบายภูมิ
ท้ายที่สุดจงนำแสงสว่างเข้าสู่พุทธจิตธรรมญาณของพวกเขาโดยการถ่ายทอดหลักสัจจธรรมอันเที่ยงแท้ให้ประจักษ์เพื่อเวไนยสัตว์ทั้งปวงทุกหมู่เหล่าจะได้กลับคืนสู่แดนนิพพาน อยู่เสวยบรมสุขชั่วนิรันดร์โดยพร้อมเพรียงกัน"
ครั้นพระกษิติครรภโพธิสัตว์ได้สดับฟังพระพุทธดำรัสจบลงก็ทรงประณมหัตถ์ขึ้นน้อมรับพระบัญชาด้วยเศียรเกล้าล้าทูลว่า
"ขอองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่าได้ทรงพระประวิตาไปเลยพระเจ้าข้า ในอนาคตกาลมาตรแม้นว่ามีผู้ใดยึดมั่นในพระสัจจธรรมข้าบาทก็จะใช้กุศโลบายอันแยบยลและเหมาะสม ไปฉุดช่วยนำพาเขาผู้นั้นออกจากวัฏฏสงสารให้จงได้"
"โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรม มุ่งมั่นสร้างแต่ความดีมาโดยตลอดข้าบาทจะดูแลให้เขาได้อยู่ในวิถีแห่งธรรมไปตลอดกาล วันยอมให้ล่วงหล่นไปเป็นอันขาดพระเจ้าข้า"
ในขณะนั้น มีพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งนามว่า " ซีคงจั่น" ได้กราบขอประทานพุทธานุญาติแล้วทูลถามว่า
" ข้าแต่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาในอนาคตกาลภายหน้าหากมีเวไนยสัตว์เหล่าใดที่ได้สดับฟังเรื่องราวของพระกษิติครรภโพธิสัตว์"
แล้วตั้งใจพากเพียรบำเพ็ญธรรม ประพฤติดีปฏิบัติชอบ อีกทั้งได้พากันถวายสักการะ บูชา ภาวนาพระนามของท่านเป็นประจำจะบังเกิดผลานิสงส์ประการใดบ้างพระเจ้าข้า?
แล้วตั้งใจพากเพียรบำเพ็ญธรรม ประพฤติดีปฏิบัติชอบ อีกทั้งได้พากันถวายสักการะ บูชา ภาวนาพระนามของท่านเป็นประจำจะบังเกิดผลานิสงส์ประการใดบ้างพระเจ้าข้า?
พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบว่า "ขอพวกท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟังให้ดีผู้ใดก็ตามได้ยินได้ฟังเรื่องราวของ พระกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร นื้แล้วมีจิตศรัทธากราบไหว้สักการะบูชาระลึกถึงท่านเป็นประจำจะบังเกิดผลานิสงส์ขึ้น 28 ประการดังนี้คือ
1. เทพนาคาปกปักษ์รักษาและระลึกอยู่เป็นนิจ
2. กุศลผลบุญเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นทุกทิวาราตรี
3. สร้างสมแต่อริยมรรคเป็นสมุฏฐานทั้งก่อเหตุปัจจัยแห่งกุศลกรรม
4. โพธิจิตย่อมไม่บังเกิดความท้อถอย
5. สมบูรณ์ด้วยเครื่องบริโภคอุปโภคตลอดกาล
6. แคล้วคลาดปราศจากโรคาพยาธิ
7. รอดพ้นจากอุทกภัยและอัคคีภัย
8. นิราศจากโจรภัยมาเบียดเบียน
9. เป็นที่เคารพยกย่องของเหล่านรชนทั่วไป
10. เทพารักษ์คุ้มครองอุ้มชูช่วยเหลือเสมอ
11. สตรีปรารถนากลับเพศเป็นบุรุษ
12. เกิดในตระกูลวงศ์ญาติแห่งพระมหากษัตริย์หรือราชอำมาตย์
13. มีรูปอินทรีย์กายอินทรีย์สมบูรณ์
14. จุติในแดนสวรรค์
15. ภพหน้าจะบังเกิดเป็นพระมหาราชาธิราช
16. สามารถหยั่งรู้ระลึกเหตุการณ์แห่งอดีตชาติ
17. คิดประสงค์สิ่งใดย่อมได้ดังมโนปรารถนาทุกประการ
18. วงศ์ญาติตระกูลอีกทั้งบริวาร เสพแต่ความสุขเกษมสำราญปราศทุกข์
19. สิ่งอัปมงคลทั้งหลายย่อมสูญหายมลายสิ้น
20. ไม่ไปบังเกิดในทุคติภูมิ
21. หากสัญจรไป ณ แห่งใด ย่อมได้รับความสะดวก ผ่านพ้นจากอุปสรรคทั้งมวล
22. ในยามราตรีย่อมสุบินในทางศุภมงคล ปราศจากนิมิตอันชั่วร้าย
23. บรรพบุรุษและวงศ์ญาติที่ได้ล่วงลับแล้วนั้น ก็จะหลุดพ้นจากแดนทุคติภูมิ
24. กำเนิดในภพหน้าก็จะเป็นผู้มีบุญวาสนา
25. ได้รับการยกย่องจากอริยชนทั้งหลาย
26. มีสติปัญญารอบรู้เป็นเลิศ
27. มีใจอันเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมเป็นพื้นฐาน
28. ปัจฉิมกาลจักสำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ดูก่อน...ซีคงจั่นโพธิสัตว์ หากในอนาคตกาลเวไนยสัตว์เหล่าใด ได้ประพฤติปฏิบัติตนตามธรรมโอวาทแห่งพระสูตรนี้แล้ว บุคคลเหล่านั้นยังจะได้รับมหากุศล 7 ประการคือ
1. จะได้สำเร็จมรรคผลโดยเร็ว
2. สามารถลบล้างหนี้เวรบาปกรรม
3. เหล่าเทพเทวาจะปกป้องคุ้มครองทุกทิวาราตรี
4. มีโพธิจิตที่มั่นคงไม่เสื่อมถอย
5. บุญญาบารมีเพิ่มพูน
6. มีสิริอายุยืนยาว
7. จักได้สำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณอย่างแน่นอน
ครั้นเหล่าพุทธะ พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ พร้อมทั้งบรรดาเทพพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากทั้วทศทิศในหมื่นจักรวาล ได้สดับฟังเรื่องราวของพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดเมตตาแสดงวิสัชนาจบลง
ทุกพระองค์ต่างก็ได้เปล่งเสียงแซ่ซ้องสาธุการขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินว่าผู้ใดมีปณิธานที่สูงล้ำ ดังองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์เจ้า พระองค์นี้เลย ช่างน่าอัศจรรย์....น่าอัศจรรย์จริง ๆ"
ในกาลบัดนั้นเหล่าเทพยดาซึ่งอยู่ในฟากฟ้านภากาศเบื้องบนต่างก็ได้โปรยปรายข้าวตอกดอกไม้ และแก้วมณีรัตนชาติอันแวววาวระยิบระยับลงมา เพื่อน้อมนมัสการบูชาแต่องค์สมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ทัศนาการดูประหนึ่งหยาดฝนทิพย์อันประพรมให้วิจิตรงดงามสว่างไสวเรืองรองไปทั้วชั้นดาวดึงส์เทวโลกนั้น
แลบัดนี้จึงขอสมมุติยุติ "พระกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร" ลงด้วยประการฉะนี้
http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=116&page=14
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th