“ลานธรรม 24 ชั่วโมง” โทรทัศน์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา

ผู้เยี่ยมชม

“ลานธรรม 24 ชั่วโมง” โทรทัศน์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา

Abtv ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและถ่ายทอดไปยังเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศ จัดทำช่องส่งเสริมพระพุทธศาสนา “ลานธรรม 24 ชั่วโมง” เริ่มออกอากาศวันเข้าพรรษานี้เป็นต้นไป

ในการนี้ทางฝ่ายผลิตรายการ( www.sriganapati.com) ได้เปิดรับสมัครบุคคลากรเพื่อร่วมงานดังนี้

1.พิธีกรรายการ ชาย และ หญิง มีความรู้ความสามารถในด้านพิธีกรรายการพุทธศาสนา ( ทั้งงานประจำ และพาร์ทไทม์ เวลาตามกำหนดบันทึกเทป )

2.วิทยากร มีความรู้ความสามารถในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในรูปแบบการบรรยาย สนทนา ตอบปัญหา ( เวลาตามกำหนดบันทึกเทป )

3.ผู้สื่อข่าว รายงานข่าว มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพุทธศาสนา หากสามารถใช้กล้องถ่ายวิดีโอได้ด้วย จะพิจารณาเป็นพิเศษ ( ทั้งประจำ และพาร์ทไทม์ )

4.ฝ่ายผลิตรายการโทรทัศน์ ตำแหน่ง ผู้เขียนบท ผู้ประสานงาน ( งานประจำ )

ส่งรายละเอียดทางอีเมล์ที่ chartscript@hotmail.com หรือทางแฟกซ์ที่ 0-2747-7451

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง

http://www.sriganapati.com

www.abtv.co.th

สอบถามเพิ่มเติมที่ สมชาติ 0-2747-7451 ถึง 2 ต่อ 11 ในเวลาทำการ

ผู้เยี่ยมชม

เรื่องนี้เป็นเรื่องดีที่ควรทำมาตั้งนานแล้ว ...แต่ในรูปแบบสื่อโทรทัศน์นั้น การนำเสนอความเป็นแก่นของศาสนานั้น ค่อนข้างท้าทายผู้จัดเป็นอันมาก เนื่องจากศาสนาพุทธมีการตีความออกมามากมายจนกลายเป็นหลายนิกายออกไป ทำให้ผู้ที่จะเข้ามาให้ความสนใจ อาจไม่แน่ใจว่า การปฏิบัติตัวอย่างไรกันแน่ จึงเรียกได้ว่า เดินตามรอยพระพุทธเจ้าที่แท้จริง หรือถึงแก่นของพุทธศาสนาที่แท้จริง...จึงยากสำหรับผู้ริเริ่มทำรายการที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้รายการนั้นอยู่อย่างถูกต้อง ถูกใจ และคงทน...

แต่ก็เป็นเรื่องดีที่มีการริเริ่มกัน และขอให้ความสำเร็จได้เกิดขึ้นแก่รายนี้ด้วยก็แล้วกัน...ขออนนุโมทนาบุญแด่ทุกท่านที่ร่วมด้วยช่วยกันในรายการนี้ด้วยเทอญ..

ผู้เยี่ยมชม

เห็นด้วยและสนับสนุนครับ ส่วนการที่กลัวว่า จะตีความพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผิดเพี้ยนไป เนื่องจากคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีพื้นฐานนั้น ก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ เพราะสิ่งที่เราให้ไปนั้นคือ ปัญญา ซึ่งเปรียบเหมือนแสงสว่าง ส่องนำทางชีวิตได้

เปรียบเสมือน คนยืนอยู่ที่มืด มีคนตะโกนมาจากทิศทางที่ใกล้เคียงกันว่า มาทางนี้สิ ทางนี้สว่างแล้ว เขาย่อมไม่มั่นใจนั้นถูกแล้ว แต่เมื่อคนที่ตะโกนมานั้น ส่งเทียน ตะเกียง ไฟฉาย ฯลฯ มาให้ เขาย่อมอาศัยแสงสว่างนั้น ส่องนำทางไปได้

เปรียบเสมือน คำสอนของพระพุทธเจ้า บางครั้งไม่แน่ใจว่า ผู้สอนสอนถูกต้องหรือไม่ แต่เมื่อผู้ฟังได้รับความรู้เพิ่มพูนปัญญาบ่อยๆ ปัญญาย่อมเพิ่มพูนมากขึ้น และตัดสินได้เองว่า อย่างไหนถูกหรือผิดจากคำสอนพระพุทธเจ้าครับ และย่อมเดินไปในหนทางที่ถูกได้เอง

สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ตถาคต เป็นเพียงผู้ชี้ทาง เท่านั้น แต่ทางนั้น ท่านต้องเดินด้วยตัวท่านเอง" แต่ถ้าไม่ชี้ แล้วเขาจะเดินได้อย่างไร ขอให้ชี้เถิด เมื่อเขามีไฟฉาย(แสงสว่างจากปัญญาตนเอง) แล้ว เขาย่อมจะรู้เองว่า สมควรมาตามผู้ชี้หรือไม่ ครับ

ตอบเมื่อ: 17 ก.ค.2005, 8:48 pm

สาธุด้วยครับ

ก็ขอให้เป็นรายการที่มีคุณภาพ คือตรงกับหลักคำสอน และลึกไปถึงแก่นอย่างแท้จริง