Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอความกระจ่างศีลข้อกาเมสุมิฉา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
batman
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 6:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ่านในหนังสือของคุณดังตฤณ การผิดศีลข้อกาเมนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่หญิงที่มีสามีแล้วแต่รวมถึงหญิงที่มีบิดามารดารักษาด้วย หมายความว่าหญิงที่บิดามารดายังไม่ได้ยกให้เป็นของใครใช่หรือไม่ เช่นชายหญิงแอบคบกัน แล้วมีอะไรกัน ฝ่ายชายจะผิดศีลข้อกาเมหรือเปล่า
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2005, 1:01 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่าน พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ได้อธิบายศีลข้อที่ ๓ ศีลข้อที่ ๓ กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี เจตนางดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ข้อห้าม ( ทั้งหญิง ทั้งชาย ) ไม่ให้ประพฤติผิดประเวณี



หลักวินิจฉัยกาเมสุมิจฉาจาร กาเมสุมิจฉาจาร มีองค์ ๔



๑. อคมนียวัตถุ.........................หญิง ( ชาย ) ต้องห้าม

๒. ตัสมิง เสวะนะจิตตัง.............มีเจตนาจะเสพ

๓. เสวะนัปปะโยโค......................ประกอบการเสพ

๔. มัคเคนะ มัคคัปปฏิปัตติ............มรรคถึงกัน



อธิบายทางตำรา



ศีลข้อนี้ เป็นข้อห้ามในทางเสพกาม คือกันไม่ให้คนประพฤติผิดประเวณี เป็นการห้าม ทั้ง

ฝ่ายชาย ทั้งฝ่ายหญิงการเสพกามนั้น ภาษาทางศาสนา ใช้คำว่า "เสพเมถุน"บ้าง "เมถุนธรรม" บ้างคำว่า "เมถุน" แปลว่า "คนคู่" เมถุนธรรม ก็แปลว่า พฤติการณ์ของคนคู่ ความหมายก็อย่างเดียวกัน คำว่า คนคู่ หมายถึง ชายกับหญิงเป็นคู่กัน



ในชื่อเดือนทั้ง ๑๒ เดือน ก็มีเดือนเมถุนอยู่เดือนหนึ่ง คือเดือนมิถุนายน ซึ่งก็มีชื่อออกจากคนคู่เหมือนกันคือในเดือนมิถุนายนนั้น พระอาทิตย์ กำลังโคจรผ่านราศีดาวกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆหญิงชายยืนคู่กัน เลยตั้งชื่อเดือนนี้ว่า เมถุน หรือ มิถุนายนแต่คำว่า เมถุนธรรม ตามความหมายในทางศีล หมายถึงการส้องเสพระหว่างชายหญิงเมถุนธรรมนั้น สำหรับพวกคฤหัสถ์ ท่านไม่ห้าม ที่ห้าม ห้ามเฉพาะการทำผิด คือ ประพฤติชั่วเพราะเรื่องนี้



ความประพฤติชั่วเพราะเมถุน ท่านเรียกว่า มิจฉาจาร ซึ่งแปลตรงๆว่า ประพฤติผิด แต่ถ้า

พูดเต็มศัพท์ต้องพูดว่า กาเมสุมิจฉาจาร แปลว่า ประพฤติผิดในกาม" เรื่องการประพฤติผิดในกามนี้ มีหลายคนสงสัยว่า ล่วงละเมิดชายหญิงประเภทใด จึงจะผิดศีลข้อนี้ฉะนั้น ตอน

หน้ามาฟัง พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ เฉลย ถึงชายต้องห้าม และหญิงต้องห้าม สำหรับศีล ข้อที่ ๓ นี้

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2005, 1:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อตอนที่แล้ว ท่าน พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ได้เริ่มอธิบายถึงศีลข้อที่ ๓ แต่มาค้างตรงประเด็นที่ว่าหญิง - ชายประเภทไหน จึงจะเรียกว่า หญิงต้องห้าม ชายต้องห้าม ซึ่งถ้าใครไปยุ่งเกี่ยวด้วย จะผิดศีลข้อ ๓ สำหรับครั้งนี้ เรามาฟังคำเฉลยกัน ท่าน พ.อ.ปิ่น ท่านพูด ถึงหญิง ต้องห้ามก่อน โดยท่านบอกว่า"หญิงที่ต้องห้าม มี ๓ จำพวก คือ



๑. หญิงมีสามี หมายถึงหญิงที่อยู่กินกับชายอื่นฐานภรรยาสามี ทั้งนี้ไม่ว่าเขาจะได้ทำพิธี

แต่งงานกันหรือไม่ก็ตาม และจะได้จดทะเบียน สมรสตามกฎหมายหรือไม่ ไม่ถือเป็นประ

มาณ ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า เขาได้อยู่กินเป็นสามีภรรยากันโดยเปิดเผยเท่านั้นหญิงประเภทนี้

จะหมดภาวะที่เป็นหญิง ต้องห้าม ก็ต่อเมื่อสามีตายแล้ว หรือได้บอกหย่าขาดกับสามีแล้ว

หญิงที่สามีถูก กักขัง เช่นจำคุก ถ้าไม่ได้หย่าขาดจากกัน ก็คงถือว่าหญิงมีสามี แม้สามี ต้อง

จองจำตลอดชีวิต ตนก็ยังอยู่ในฐานะเป็นหญิงต้องห้าม จนกว่าสามีจะสิ้นชีวิต ชายใดสมสู่

ด้วยผิดศีลและเมื่อเล็งถึงการทำลายความไว้วางใจกัน นอกจากการ ร่วมสังวาสแล้ว ผู้รักษาพึงเว้น แม้การผูกสมัครรักใคร่ฐานชู้สาว การเกี้ยวพาราสี หรือแม้แต่เล่นหูเล่นตา กับภรรยาท่านผู้อื่นในเชิงชู้สาว





๒. หญิงมีญาติปกครอง คือหญิงสาวที่ไม่เป็นอิสระแก่ตน แต่อยู่ในการ ปกครองดูแลของพ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อาหรือผู้อุปการะ ซึ่งนับว่าเป็นผู้ใหญ่ของตน หญิงประเภทนี้ ถ้าชายอยากได้มาเป็นภรรยาก็ต้องติดต่อสู่ขอจากผู้ใหญ่ ให้ชอบ ด้วยประเพณีจัดได้เป็นศรีแก่ตนและวงศ์สกุล ชายใดลักลอบสมสู่หรือฉุดคร่า ลักพาเอาไป เป็นผิดศีลการผิดศีลในข้อนี้ เกิดจากการขืนน้ำใจท่าน ทำให้ผู้มีพระคุณ ต้องช้ำใจ ผิดทั้งหญิงทั้งชายหญิงที่ผู้ใหญ่รับของหมั้นจากชายแล้ว ตกลงว่าจะให้ แต่งงานด้วย นับแต่รับของหมั้นแล้ว หญิงนั้นย่อมเป็นสิทธิของคู่หมั้น จนกว่าจะได้คืนของหมั้น หรือบอกเลิกการหมั้นเสีย"หญิงต้องห้าม ยังไม่หมดนะครับ ยังมีเหลืออีกประเภทหนึ่ง แต่มีคำขยายความค่อนข้างยาวจึงขอยกไว้คราวหน้า ผู้ใดสนใจ อย่าลืมติดตามในตอนต่อไปครับ




http://www.dhammathai.org/indexthai.php
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
อสรี
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2005, 9:11 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1.ชายหรือหญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่คู่ครองของตน...ไม่ว่าจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย...



2. ชายหรือหญิงที่มีเทศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ยินยอม (ข่มขืน กระทำชำเรา)



3.ถึงแม้ยินยอม คือซื้อบริการทางเพศ และก็บอกว่ายังไม่แต่งงาน ก็ให้กลับไปดูข้อ1



ในความเห็นส่วนตัวศีลข้อนี้...หากได้ผิดกันแล้ว จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนทั้งตนและผู้อื่นหลายคน โดยเฉพาะคนในครอบครัวตัวเอง...เสียไปหมด...

 
batman
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2005, 5:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วถ้าหญิงที่อายุมากแล้วคือไม่ใช่เด็กที่ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง แต่ยังอยู่ด้วยกันกับบิดามารดา หรือหญิงที่บิดามารดาเสียชีวิตแล้ว จัดเป็นหญิงที่มีปกครองหรือเปล่า
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2005, 9:01 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีคุณbatman



ศีล ไม่ว่าจะกี่ข้อ ต่อให้ปากบอกว่าถือศีลมากข้อเท่านั้นเท่านี้ ก็ไม่เท่ากับความที่มีศีลละเอียดอยู่ในจิตในใจ คือไม่ต้องมานั่งท่อง นั่งหารายละเอียดจากตัวหนังสือ หากมีความละอาย เกรงกลัวต่อบาป ศีลที่ละเอียดอยู่ในจิตในใจ มันก็จะเหนี่ยวรั้งตนเอง มิให้ประพฤติชั่วด้วย กาย วาจา ใจ คือมันจะหยุดพฤติกรรมชั่วด้วยตัวมันเอง



ทีนี้ คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนมันจะประพฤติชั่ว ก็จะหาเหตุมาประกอบการทำความชั่วของตนเอง ว่าที่ตนเองกำลังก่อกรรมชั่วนั้นไม่ผิด อย่าไปนั่งท่อง นั่งอ่าน แต่ให้มีความละอาย ศีลจะกี่ข้อก็ละเอียดอยู่ในจิตใจไปเอง ไม่ต้องไปนั่งกังวลแล้ว



ธรรมะสวัสดี



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2005, 5:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำถามที่คุณ Batman ถามมาในความคิดเห็นที่ 4 ก็ถือว่า ผิดศีลด้วยครับ เพราะเข้าข่าย 1 ในหญิงต้องห้าม คือ หญิงที่มีผู้ปกครองดูแลอยู่ เช่น นักบวช หรือ เด็กกำพร้าที่มูลนิธิดูแล หรือแม้แต่ เด็กที่มีญาติเลี้ยงดูแทนพ่อแม่



สรุปก็คือ เข้าตามตรอก ออกตามประตู อย่างที่คุณปุ๋ยบอกมา ไม่ดีกว่าหรือครับ อย่าลักลอบ หลบๆ ซ่อนๆ กันเลย
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง