Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
หากใครท้อแท้กับชีวิตให้คิดว่ายังมีเพื่อนอ่านดู
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
ผู้ตั้ง
ข้อความ
kitkit
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 07 ต.ค. 2008
ตอบ: 15
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2008, 11:12 pm
kitkit - ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2008, 9:56 pm
--------------------------------------------------------------------------------
เมื่อ15ปีก่อน พี่ต้องเสียสามีไป(ไม่ได้หมายถึเสียชีวิตน่ะค่ะ)เสียให้คุณเมียน้อยน่ะค่ะ แล้วยังโดนแม่สามีรวมทั้งน้องสามีข่มเหงอย่างมากทำงานทุกอย่างบริการทุกอย่างสักด้วยซ้ำ แทบอยากฆ่าตัวตายทั้งเมียน้อยก้อรุมเล่นงานบอกกับพี่ว่ารู้ว่ามีลูกแต่จะเอาสามีพี่มีไรไม๊ (โทรมาคุย)ตอนนั้นพี่แค้นและโมโหมากถึงขนาดคิดฆ่าชายหญิงใจโฉดพวกนี้อีกทั้งแม่สามีใจร้ายมากชักนำและพยายามให้ครอบครัวแตกแยกให้ได้ เพียงเพราะหาว่าพี่ไปแย่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเค้าและเกลียดลูกๆของพี่มาก(เกลียดเด็กเป็นทุนเดิม)เป็นกันทั้งบ้านเลยและใช้พี่ทำงานทุกอย่าง ไหนจะต้องทำงานบ้าน ทำงานนอกบ้านอีกหาเงินเพื่อมาจ่ายเลี้ยงพวกนั้นทั้งบ้าน ซึ่งพี่ไม่เคยทำงานบ้านด้วยซ้ำเป็นคุณหนูดีๆไม่ชอบ ซึ่งพี่มีทั้งงานที่ดี มีบ้าน มีเงิน อยู่สบายแต่เพราะรักกันจึงแต่งงานจากไม่เคยทำงานบ้านก้อทำ จากมีคนเอาใจเมื่อแต่งงานมาแล้วก้อต้องมาเอาใจเค้าทั้งบ้าน มีงานดีๆเงินหลายหมื่นก้อเลิกทำเพราะเค้าบอกเลี้ยงได้ แต่แล้วเค้าก้อแอบมีกิ๊กทรยศกันได้ หลอกลวงเงินพี่ไปให้ผู้หญิงคนนั้นทั้งหลอกเอาบ้านของพี่ไปจำนองเป็นหนี้เงินกู้เพื่อจะเอาไปลงทุนแต่แล้วความลับไม่มีในโลกผู้หญิงคนนั้นก้อเปิดเผยตัวเองว่าสามีพี่เอาเงินไปให้เค้าทั้งหมด สามีพี่เจอผู้หญิงคนนี้ที่ไซต์งาน พี่ไม่กล้าแม้จะเล่าให้พ่อแม่พี่ฟังสักด้วยซิ ไม่อยากให้ท่านต้องมากลุ้มใจเพราะเรื่องของเรา พี่ก้อเกือบตายอีกทั้งเมียน้อยโทรมาข่มขู่อีก ให้เพื่อนโทรมาแกล้งพี่บ้างบอกว่าอยู่กับสามีพี่แล้วก้อขำกันบอกขอเงินสัก3แสนแล้วจะเลิกกับสามีพี่บ้าง แต่พี่ก้อเจอสิ่งหนึ่งที่ช่วยชีวิตพี่ไว้คือ ไว้ต่อทีหลังน่ะ 1แต่พี่ก็ไม่ได้เลิกกับคุณสามีตัวดีหรอกนะค่ะ พี่ตั้งจิตเพียงคำเดียวว่าอภัย อภัยแผ่เมตตาให้สัตว์โลกเท่านนั้น มั่นทำความดีมั่นสร้างความดีบุญก็รักษาทำดีย่อมได้ดีค่ะ เหมือนที่เขาบอกว่าคนดีพระคุ้ม คนขยันไม่มีจน
_________________
เห็นสิ่งใดเอามาคิดพินิจไว้
เพื่อเตือนใจตนเองมิให้หลง
เห็นเขาผิดคิดแก้ตนให้อาจอง
ใจมั่นคงน้อมมาดูรู้ภายใน
kitkit
บัวผลิหนอ
เข้าร่วม: 07 ต.ค. 2008
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
kitkit - ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2008, 11:00 pm
--------------------------------------------------------------------------------
พี่ก้อเจอสิ่งหนึ่งที่ช่วยชีวิตพี่ไว้ พี่เกือบจะฆ่าลูกของพี่เองทั้งหมดและเผาบ้านสักเลย แต่...สิ่งหนึ่งไม่รู้มาจากไหนขณะคิดว่าจะกระทำตาเหลือบไปเห็นกระดาษใบเก่าๆใบหนึ่งที่แนบกับหนังสือสมัยที่พี่เรียนมหาลัยและไม่เคยจะใส่ใจกะมันเลยด้วยซ้ำเขียนว่า การปรับใจให้เป็นสุขด้วยมาตรการ
3 แบบ ไม่มีชื่อคนแต่งค่ะ
หนึ่ง เมื่อพบปัญหาในชีวิต แม้น้อยนิดหนักหนากว่ากล่าวขาน
จงหยุดคิด คุมสติ ดำริการ ทุกคนพานพบปัญหาไม่ว่าใคร
อย่าสยบซบเซาให้เศร้าสร้อย คับแค้นน้อย วาสนาชะตาไฉน
เป็นมนุษย์จะสะดุดหยุดอย่างไร ยังหายใจจงตั้งหลักรู้จักตรอง
หาแนวทางวางจิตคิดแก้ไข ปัญหาใหญ่เล็กน้อยคอยสนอง
จงมั่นคงอย่าให้อารมณ์ครอง เพราะไตร่ตรองผิดพลาดขาดพิจารณา
สอง พบปัญหา ร้ายอย่าพ่ายแพ้ ต้องแน่วแน่ตั้งหลักแม้หนักหนา
คิดให้ได้ มิมีใดคงเส้นวา คอยวิกฤติเวลาล่วงเลยไป
เหมือนเช้าสายบ่ายค่ำร่ำสลับ แล้วเวียนกลับหมุนเปลี่ยนมิสังสัย
ไม่มีใดคงที่ตลอดไป จงเตรียมใจรับปัญหาอย่าท้อทน
แล้วมันก็ผ่านพ้น ไปจนได้ ความสดใสกลับจะเกิดประเสริฐผล
ทั้งจิตใจก็ไร้ทุกข์มิร้อนรน พร้อมผจญ สู้ปัญหา ด้วยกล้าเผชิญ
สาม ปัญหา เกิดขึ้น จากผู้อื่น ประพฤติฝืนจิตเราเฝ้าห่างเหิน
กระทำการ ดุจพาลเหมือนล่วงเกิน อย่าขัดเขินให้อภัยในผู้คน
ตั้งจิตไว้ไม่มีใครอยากก่อเหตุ แต่อาเพศ เกิดอนาจ ขาดเหตุผล
เพราะสภาพจิตใจเขาทุกข์ทน หรือดิ้นรน สู้ปัญหา คร่ารุมเร้า
แล้วใจเราจะสงบสยบนิ่ง อภัยจริงให้ผู้คนไม่โฉดเขลา
สว่างไสวในดวงจิตที่ขัดเกลา ไม่อับเฉาเคืองแค้นแน่นกมล
หากปรับจิตคิดได้ในสามอย่าง จะระวางเกลียดโกรธพิโรธฉงน
ใจมั่นคงเผชิญชีวิตมิทุกข์ทน ไม่ร้อนรนสุขสบายทั้งกายใจ
===================================
พี่เป็นทุกข์อยู่หลายปี เวลากลุ้มก็จะเอาใบนี้มาท่องอ่านทำจิตให้ว่าง
ปกติพี่ก้อทำบุญทุกวันอยุ่แล้ว สวดมนต์เวลากลางคืนตลอด(พี่ยังไม่แก่น่ะแต่ก็เป็นคุณแม่ยังสาวอยู่) ผลสุดท้ายพี่ก็ปล่อยสามีไปให้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น สามเดือนต่อมา สามีพี่ก้อกลับมาอยู่กับพี่ที่บ้านเหมือนเดิม
มาขอโทษพี่ ซึ่งพี่ก็ย้ายบ้านออกไปอยู่ที่อื่นและพาลูกของพี่ไปด้วย
พี่ถือว่าพี่เป็นคนโชคดีในเรื่องงานและเรื่องเงินอย่างมากทีเดียวผลสุดท้ายสามีมาขอคืนดี ความจริงพีจะเลิกก็ได้แต่พี่เห็นลุกพี่ไม่มีพ่อไม่ได้ จึงทำใจไว้แล้ว มาคิดดูก็ดีกว่าต้องเลี้ยงลูกคนเดียวแล้วเรื่องอะไรเราต้องเลี้ยงลูกคนเดียวด้วย แล้วเราก็ดีพร้อมทุกอย่างรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ความรู้
เมื่อมาดีพี่ก็ดีตอบ ไม่รักแล้วแต่ก็อยู่ด้วยกันได้ทำไมจะอยู่กันไม่ได้ละเพราะความผูกพันธ์รวมทั้งสายใย ความอาทรมียังห่วงกันอยู่และความเคยชิน วันเวลาผ่านมาเรื่อยๆ ความเจ้าชู้ของเขาก็ไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่
เพราลงบ้างและเกรงใจพี่ซึ่งเป็นภรรยามากขึ้นและเดวนี้ก็ดีกับพี่มาก ซึ่งอาจยังไม่เลิกกะผู้หญิงคนนั้นก็ได้ แต่ก็ช่างเถิด คบเป็นแฟนกับพี่มา4ปีทำงานบริษัทเดียวกัน2ปี แล้วก็แต่งอยู่กันมาก็จะ17ปีถ้ารวมกับที่คบหากันก้อ21ปี 5เดือน วันนี้แม้ว่าจะสุขๆดิบๆทุกข์บ้างแต่รวมๆแล้วก็ถือว่าสุขแหละ ย้ายบ้านจากแม่ผัวใจร้ายมาดีจริงๆ ทุกวันนี้แม้จะโดนรังควานบ้างแต่ก็ถือว่าสุขแล้วที่ไม่มีบุคคลที่สามที่สี่มาทำลายครอบครัวแม้ใจจะตะหงิดเรื่องผู้หญิงมากมายของสามีบ้าง แต่ก็ทำใจทำเป็นมองไม่เห็นสักก็หมดเรื่อง เพราะถึงอย่างไรผัวเมียกันพ่อแม่ลูกก็ตัดกันไม่ขาดหรอก
พระท่านว่า การให้อภัยทานเป็นทานอันสูงสุด มันเป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย
เพราะพอคิดว่าอภัยให้สามีเถิด อภัยให้ผู้หญิงเหล่านั้นเถิด อภัยให้แม่สามีเถิด ใจมันเบาหวิ้วอย่างเป็นสุขอย่างงั้นเลย ถ้าไม่ได้กลอนบทนั้นตอนนี้คงไปเมืองผีแล้วและคงลงหน้าหนึ่ง พี่จึงเชื่อว่าคนที่คิดฆ่าตัวตายหรือมืดบอดเพราะรักมันเป็นอย่างไร คนที่เป็นทั้งเมียหลวงเมียน้อยในเวลาเดียวกัน และพร้อมตาย ยอมสละทุกอย่างและยอมยืนหยัดฮึดสู้ใหม่ตอนที่หมดตัวเริ่มต้นกับชีวิตใหม่มันเป็นอย่างไร ผู้ชายคิดทรยศผู้เป็นภรรยาย่อมไม่เจริญในหน้าที่การงานมีอันต้องติดขัดอยู่ร่ำไปหาเงินไม่พอใช้ เพราะนี่คือกรรม และผู้หญิงโทรกลับมาด่าพี่หาว่าพี่เล่นของบ้างเขาทุกข์ใจเหมือนอยู่ในนรก นี่ก้อคือกรรมผลจากการกระทำอยากให้ผู้อื่นเป็นทุกข์เขาจึงทุกข์ด้วย แต่หากเราละซึ่งความพยาบาทในใจให้อภัยนั่นย่อมเป็นความสุขใจที่หาไม่ได้อีกแล้วว ข้าพเจ้าจึงเชื่อในผลของการกระทำ ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่ใช่ตอนนี้ แต่กาลเวลาจะพิสูจน์และตัดสินเอง นี้ละเป็นไปตามครรลองของชีวิต และชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป
ขอบคุณน่ะค่ะที่ให้พี่ได้ระบายเรื่องในใจ ซึ่งไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย เขียนเรื่องนี้ก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ นึกขึ้นคราใดก็รู้สึกเจ็บใจและเสียใจทุกครั้ง ลืมๆมันสักทีดีจังที่ได้เขียนออกไป เรื่องนี้จะเป็นกำลังใจให้ใครได้ไม๊ค่ะ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าได้ตัดสินที่จะแต่งงานเพราะความรักเพียงอย่างเดียว จงมองที่ครอบครัวเขาด้วย และอย่าเชื่อเพียงลมปากของเขา
ดีใจจังที่ยังมีชีวิตอยู่ ดีใจจังที่ไม่คิดสั้น ดีใจจังที่ได้เลี้ยงลูกจนโตและดีใจจังที่พิสูจน์ว่าสามีเรามีดีและยังกลับใจ มือที่สามใช่ว่าจะเป็นสุข คุณอาจสุข ณ ตอนนี้ ทุกข์มหันต์คือนรกในใจเราเอง สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ เวลายังอีกยาวไกล
ก็ต้องสู้ชีวิตกันต่อไป ขอบคณค่ะ
_________________
เห็นสิ่งใดเอามาคิดพินิจไว้
เพื่อเตือนใจตนเองมิให้หลง
เห็นเขาผิดคิดแก้ตนให้อาจอง
ใจมั่นคงน้อมมาดูรู้ภายใน
kitkit
บัวผลิหนอ
เข้าร่วม: 07 ต.ค. 2008
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
_________________
เห็นสิ่งใดเอามาคิดพินิจไว้
เพื่อเตือนใจตนเองมิให้หลง
เห็นเขาผิดคิดแก้ตนให้อาจอง
ใจมั่นคงน้อมมาดูรู้ภายใน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th