ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
06 ต.ค.2008, 4:42 pm |
  |
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย
ทรงมีพระราชดำรัสถึงผู้บริจาคโลหิตว่า
“โลหิตเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การบริจาคโลหิตจึงเทียบได้กับการบริจาคชีวิต เป็นทานสูงสุด ควรยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง การที่ประชาชนชาวไทยมีศรัทธาบำเพ็ญประโยชน์ อย่างเดียวกันนี้ แสดงว่าทุกคนมีจิตใจเป็นกุศลถือตนว่าเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน มีหน้าที่ที่จะอนุเคราะห์กันและกัน”
1. ได้รับความภูมิใจที่ได้เสียสละโลหิตในร่างกาย เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ต่อผู้อื่น เป็นการทำบุญอันยิ่งใหญ่ ซึ่งจะทำให้ท่านมีความสุขใจ
2. ได้รับการตรวจสุขภาพร่างกาย เป็นประจำทุก 3 เดือน
3. ได้รับทราบหมู่โลหิตของตนเอง ทั้งระบบ เอ บี โอ และ ระบบ อาร์เอช
4. โลหิตทุกยูนิตที่ได้รับบริจาค ต้องผ่านกระบวนการคัดกรองเชื้อต่างๆ ในห้องปฏิบัติการเหมือนกับการที่ผู้บริจาคโลหิตได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี, ไวรัสตับอักเสบ ซี, เอดส์ และอื่นๆ
คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต
1. อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 60 ปีบริบูรณ์
2. น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป สุขภาพทั่วไปสมบูรณ์ดี
3. ไม่มีประวัติโรคตับอักเสบ หรือดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง
4. ไม่เป็นไข้มาเลเรียมาในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา และไม่เป็นกามโรค โรคติดเชื้อต่างๆ ไอเรื้อรัง ไอมีโลหิต โลหิตออกง่ายผิดปกติ โรคโลหิตชนิดต่างๆ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคลมชัก โรคผิวหนังเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์
5. ไม่อยู่ในภาวะน้ำหนักลดมากในระยะสั้น โดยไม่ทราบสาเหตุ
6. ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ หรือ สำส่อนทางเพศ ไม่มีประวัติติดยาเสพติด
7. งดการบริจาคโลหิตภายหลังผ่าตัดคลอดบุตร หรือแท้งบุตร 6 เดือน
(ถ้ามีการรับโลหิตต้องงดบริจาคโลหิต 1 ปี)
8. สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน หรือตั้งครรภ์
ข้อมูลจาก www.nbc.in.th ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
เฉลิมศักดิ์1
บัวบาน

เข้าร่วม: 17 เม.ย. 2007
ตอบ: 272
ที่อยู่ (จังหวัด): ระยอง
|
ตอบเมื่อ:
11 ต.ค.2008, 4:33 am |
  |
สาธุครับ คุณบุญชัย
ผมบริจาคโลหิต ทุก 3 เดือนมาหลายปีแล้วครับ ตอนนี้ได้ 40 ครั้ง เมื่อถึงวัยชราบริจาคไม่ได้แล้ว คงจะถึงประมาณ 100 ครั้ง
เมื่อไปบริจาคโลหิต ก็ได้ฝึกสติไปด้วย กับ อาการเจ็บปวดขณะถูกเข็มแทงไปยังเส้นเลือด กำหนดว่า นามเจ็บ
เมื่อเวทนาเริ่มอ่อนลงก็มากำหนด รูปนอน ต่อ
แบบฝึกหัดวิปัสสนา
http://larndham.net/index.php?showtopic=21524&st=0&hl=
---------------------------------------------------------------
สำหรับอานิสงส์ เจตนาที่บริจาคโลหิต เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ ผมว่าน่าจะตรงกับพระพุทธพจน์ นี้ครับ
http://www.geocities.com/toursong1/kam/kam.htm
[๕๘๕] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นผู้มีปรกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาตรา
เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใด ๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโรคน้อย
ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไป เพื่อมีโรคน้อยนี้ คือ เป็นผู้มีปรกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาตรา ฯ
---------------------------------------------------------
สังเกตดูตนเอง ไม่ค่อยมีโรคภัยเบียดเบีบยนมาก ชาติก่อนไม่ค่อยได้ฆ่าสัตว์มาก เท่าไหร ( หรือ วิบากอาจจะยังไม่ส่งผล)
ส่วนการกระทำ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ผลที่จะได้รับในปวัตติกาล(ภายหลังการเกิด) คือ
http://larndham.net/index.php?showtopic=33343&per=1&st=9&#entry562449 |
|
|
|
  |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
11 ต.ค.2008, 12:11 pm |
  |
ผมแค่20ครั้งเอง บอกตรงๆ กลัวเข็ม มันใหญ่ๆๆมากเจ็บ  |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
|