Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 จะบอกอะไรให้ฟัง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พี่ดอกแก้ว
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 07 มิ.ย. 2004
ตอบ: 118

ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2005, 7:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในวันหนึ่งๆ เคยชอบสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เคยยึดถือว่าเป็นตัวเราเป็นของเรา เป็นสมบัติของเรา แท้ที่จริงทุกอย่างปรากฏขณะที่เป็นวิถีจิตเท่านั้นเองนะคะ



สภาพธรรมใดที่เป็นวิบากนั้น..ก็เป็นผลของกรรม



จะมีบ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ เสื้อผ้าอาภรณ์มากมายอย่างไร ประณีตสวยงามอย่างไร



วิบากจิตซึ่งเป็นผลของอดีตกรรม ก็เพียงเกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้นๆ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย เพียงชั่วขณะที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่ยั่งยืนเลย เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปๆ แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่ากรรมใดจะให้ผลในขณะต่อไป



เพราะเหตุว่าทุกคนมีทั้งกุศลกรรม และอกุศลกรรมในอดีต ที่ได้กระทำแล้ว เมื่อพร้อมด้วยปัจจัย ที่กรรมใดจะให้ผลเป็นวิบากใดเกิดขึ้น... วิบากนั้นก็เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางกายบ้าง ทางใจบ้าง เท่านั้น



การศึกษาพิจารณาเรื่องความไม่เที่ยงของสภาพธรรม "ย่อมเป็นวิริยารัมภกถา "ที่จะทำให้สติระลึกรู้ ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ



แล้วพิจารณาจนกว่าจะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียงนามธรรมและรูปธรรมแต่ละลักษณะที่กำลังปรากฏทางตา.... หรือทางหู..... หรือทางจมูก.... หรือทางลิ้น.... หรือทางกาย.. หรือทางใจเท่านั้นนะคะ





พี่ดอกแก้ว ปรารถนาให้ทุกคนศึกษาพระอภิธรรมคะ



เพราะเมื่อเข้าใจถูกต้อง

ในลักษณะของสภาพธรรม ชวนวิถีที่เป็นกุศลจิตก็เพิ่มขึ้น



แต่ถ้าไม่ได้รับฟัง ไม่ศึกษาให้เข้าใจ

เรื่องของสภาพธรรมเลย ก็ไม่รู้ว่า

ขณะใดเป็นวิบากซึ่งเป็นผลของอดีตกรรม

ขณะใดเป็นชวนวิถีจิตที่สั่งสมสันดานที่เป็นอกุศลหรือกุศล



เมื่อไม่รู้..ก็ไม่เห็นโทษของอกุศล

และไม่อบรมเจริญกุศล..

สังสารวัฏฏ์ก็ย่อมจะต้องยืดยาวต่อไปแน่นอนคะ





ในวันหนึ่งๆ นั้นอกุศลจิตเกิดมาก หรือกุศลจิตเกิดมาก



ฉะนั้น ผลข้างหน้าจะเป็นกุศลวิบากมากหรืออกุศลวิบากมาก ซึ่งทุกท่านก็ย่อมพิจารณารู้สภาพธรรมที่เกิดกับท่านได้ในชีวิตประจำวันตามความเป็นจริง





นี่ไงค่ะเรื่องที่พี่ดอกแก้วบอกไว้ว่า...

จะบอกอะไรให้ฟังไงคะ



ด้วยความปรารถนาดีคะ



 

_________________
เป็นประธานมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2005, 12:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





สาธุครับ พี่ดอกแก้ว



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
เจี๊ยบ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2005, 5:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
เหล็กขูด
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2005, 7:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้อ...เรานี่เอาอายตนไว้เพื่อทำการศึกษา
 
สมาชิกใหม่วันนี้เอง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 มิ.ย.2005, 6:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากเป็นน้องพี่ดอกแก้วด้วยคนค่ะ อ่านแล้วมีความสุข สบายใจ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง