ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 3:01 pm |
|
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ผมจึงขอให้คุณ ตอบตามนี้
1 พระอรหันต์ ท่านหมดสมมติแล้ว จะเอาสติไปจับอะไร |
- จับที่จิต ไม่ห่างไปจากจิตเลยแม้แต่น้อย
จับตลอดเวลา
สิ่งนี้เรียกว่า ตื่นรู้
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
2 ถ้าจิตเป็นนิพพานแล้วจะต้องมาตั้งสติจับกับสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่อีกหรือ
|
- ไม่ , นิพพานไปแล้วจะมาจับอะไรอีกล่ะ (ตายแล้ว เข้านิพพานแล้ว)
ถ้าเที่ยวจับนู่นจับนี่ได้ ก็ไปถามคุณพลศักดิ์ เจ้าตำรับ
- ต่อให้ยังไม่นิพพาน (ยังไม่ตาย)สติจะไม่จับอะไรมากไปกว่าจับที่จิต รู้ที่จิต
จับมากไปกว่านี้ หรือจับน้อยกว่านี้ ... เรียกว่าขาดสติ
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
3 การที่ว่า สติวินโย นั้นเป็นธรรมข้อหนึ่ง ในโพชฌงค์ แล้วจะต้องใช้ใน อรหัตตผลอีกหรือ เว้นเสียแต่ว่า อริยมรรคข้อใดข้อหนึ่งจึงจำเป็นต้องมี สัมมาสติ จริงหรือไม่ |
- สติวินโย - ใช้ตอนยังไม่เกิดสติแท้
เมื่อมีสติของแท้แล้ว เขาจะตื่นรู้เอง ไม่ต้องมีกวดขันวินัยอะไรอีกแล้ว
เขาจะทำงานของเขาเอง ไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรกับเขาเลย
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
4 การที่บุคคลยังไม่รู้จัก การเกิดและการดับ และสักกายทิฎฐิยังไม่ขาดจึงไม่มีทางเข้าใจ มหาสติ มหาปัญญา ผมจึงบอกว่า ธรรมอันง่าย อันข้ามโคตรปุถุชนนี้ คุณ guest ต้องตอบให้ได้ก่อน ก่อนจะมาเถียงเรื่องพระอรหันต์กับผม
|
- การที่ผมพูดว่า " ที่อเมริกามีเทพีเสรีภาพ " ทั้งๆที่ผมไม่เคยไปเจอมาเลย
ถามว่าผมพูดผิดหรือ ... เปล่าเลย...ผมพูดไม่ผิดเลย
แต่ผมไม่เคยเห็นตัวจริงๆ ไม่เคยไปตรงนั้น
คุณขันธ์ควรตั้งคำถามข้อนี้ใหม่
จากเดิมที่ถามว่า "อเมริกามีเทพีเสรีภาพจริงหรือไม่"
ให้ถามใหม่ว่า "เคยไปมาหรือยัง ถ้าเคยแล้วค่อยคุยกัน"
แล้วพอคุณ guest ตอบว่า "เคยไปมาแล้ว"
จะได้เข้าทางคุณขันธ์
แล้วคุณขันธ์ก็พูดออกมาว่า "ผมไม่เชื่อ"
แล้วคุณขันธ์ก็จะเอาชุดกระต่าย playboy มีหูยาวๆมาใส่
มีจุกหางปุยๆ พร้อมกับยืนขาเดียว แล้วพูดว่า...
"โอ๊ว ไอ่ ดอนท์ บีลีฟฟฟ ยู.... ยังไงชั้นก็ไม่มีทางเจื้อ!!!!"
"ไม่จริ๊งงงงงงง!!!!"
แล้วคุณขันธ์ก็ร้องไห้จน 'มาสคาร่า' เปรอะเต็มเบ้าตาแบบหนังฝรั่งอะ
แบบแพ้แล้วไม่ยอมรับความจริงอะ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
แก้ไขล่าสุดโดย คามินธรรม เมื่อ 22 ก.ย. 2008, 3:50 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
|
|
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 3:27 pm |
|
เออ โลกหนอโลก
นึกว่าใช่ กลับไม่ใช ไม่ใช่กลับ ใช่ |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
|
|
mes
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 3:37 pm |
|
อ้างอิงจาก: |
ทั้งหมดนี้ คุณ guest มีจิตที่วนเวียนอยู่แต่ว่า ผมมั่ว ผมหลอก ผมอ้างตัวว่าเป็นพระอริยะหลอกคน ผมจึงอยากให้คุณ guest แสดงข้อความที่ผมหลอกคน ออกมาหน่อย และ อยากให้คุณ guest ยกข้อความทีผมมั่ว แสดงหน่อย
|
คุณguest ติดงาน ขอmesแจมหน่อย
ในข้อที่ว่าคุณขันธ์หลอกคน
(ข้อเดียวเดี๋ยวหาว่ารุมมันคันปากจริงๆ)
ถ้าคุณขันธ์ไม่หลงตัวเองคิดว่าตนเป็นอริยบุคคลบุคคลระดับใดระดับหนึ่ง
แล้วจะรู้ว่าใครเป็นอรหันต์
รู้จักอรหันต์ได้อย่างไร
รู้ถึงจิตอรหันต์ได้อย่างไร
ลักษณะของพระอรหันต์ที่มาจากพระไตรปิฎกทุกคนรู้เท่ากันหมด
แต่คุณพยายามอวดรู้ว่ารู้ลึกซึ้ง
ทำตัวเหมือนอรหันต์โปรดสัตว์
ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย
โกหกก็เป็นหนึ่งด่าคนอื่นแล้วมานั่งร้องไห้ว่าถูกรังแก
คนแก่อย่างคุณ มันจอมมารยา
เหมือนกลามะพร้าวแก่แล้วแก่เลย
จริงๆ |
|
|
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 4:14 pm |
|
อ้างอิงจาก: |
- จับที่จิต ไม่ห่างไปจากจิตเลยแม้แต่น้อย
จับตลอดเวลา
สิ่งนี้เรียกว่า ตื่นรู้ |
สติคือ ธรรมใช้ไหม ธรรมทั้งหลายทั้งปวงมีดับไหม
เมื่อธรรมมีดับ แล้วจะหมายว่า ธรรมนั้นอยู่กับตัวตลอดเวลา ได้อย่างไร
อ้างอิงจาก: |
ไม่ , นิพพานไปแล้วจะมาจับอะไรอีกล่ะ
ถ้าเที่ยวจับนู่นจับนี่ได้ ก็ไปถามคุณพลศักดิ์ เจ้าตำรับ
- ต่อให้ยังไม่นิพพาน สติจะไม่จับอะไรมากไปกว่าจับที่จิต รู้ที่จิต
จับมากไปกว่านี้ หรือจับน้อยกว่านี้ ... เรียกว่าขาดสติ |
ก็ถูกแล้วนี่ ผมไม่ได้กล่าวว่า เมื่อนิพพานแล้วต้องจับกับอะไร ดังนั้น เมื่อนิพพานแล้วไม่จับกับอะไร จึงไม่ต้องใช้สติที่คอยระวังภัย
ข้อนี้คุณ กำลังกล่าวสนับสนุนผมอยู่ นะ คามึน เรื่องจับที่จิตนี้ แม้จิตนี้สุดท้ายแล้วกิเลสออกไปจากจิต สตินั้นก็ไม่ต้องจับกับอะไรเช่นกนั
อ้างอิงจาก: |
- สติวินโย - ใช้ตอนยังไม่เกิดสติแท้
เมื่อมีสติของแท้แล้ว เขาจะตื่นรู้เอง ไม่ต้องมีกวดขันวินัยอะไรอีกแล้ว
เขาจะทำงานของเขาเอง ไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรกับเขาเลย |
[quote]
ถูกต้อง ข้อนี้คุณ ก็กำลังสนับสนุนผมเช่นกัน เพราะผมบอกว่า สติวินโยเป็นอตโนมัติ ไม่ต้องไปวุ่นวาย การตื่นรู้ที่คุณว่านั้น คือ ตื่นจากกิเลส เมื่อหมดกิเลสก็หมดกัน มันก็เข้าข่ายที่ว่า สติในทางโลกนั้น ยุติไปแล้ว จบกิจ ไม่ต้องมานั่งมีสติกันอีก
อ้างอิงจาก: |
- การที่ผมพูดว่า " ที่อเมริกามีเทพีเสรีภาพ " ทั้งๆที่ผมไม่เคยไปเจอมาเลย
ถามว่าผมพูดผิดหรือ ... เปล่าเลย...ผมพูดไม่ผิดเลย
แต่ผมไม่เคยเห็นตัวจริงๆ ไม่เคยไปตรงนั้น
คุณขันธ์ควรตั้งคำถามข้อนี้ใหม่
จากเดิมที่ถามว่า "อเมริกามีเทพีเสรีภาพจริงหรือไม่"
ให้ถามใหม่ว่า "เคยไปมาหรือยัง ถ้าเคยแล้วค่อยคุยกัน" |
คุณ คามึน คุณเปรียบเทียบผิด เพราะว่า เทพีเสรภาพเป็นวัตถุที่มีอยู่ ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่จริง และพิสูจน์ไม่ยาก แต่ว่า นี่คือ ธรรมของพระอรหันต์ จะยกมาบอกว่า ใช่หรือไม่ นั้น ข้อนี้ ผู้ชี้ขาด คือพระอรหันต์เท่านั้น
แต่ พระอริยะย่อม เทียบเคียงสภาวะธรรม ได้ เนื่องจากนิโรธธรรมก็เป็นตัวเดียวกัน ดังนั้น เมื่อ ไม่เคยผ่านโคตรภู ย่อมไม่มีทางจะอธิบายสภาวะ สติปลายทางของพระอรหันต์ได้ |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 4:18 pm |
|
สำหรับ คุณ mes ข้อที่ว่า ผมรู้ลึกซึ้งกว่า คือการหลอกคน ข้อนี้ แสดงว่า ระบบตรรกะ เหตุและผล ของคุณ มันช่าง น้อยเสียกระไร |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 4:20 pm |
|
อ้างอิงจาก: |
แล้วพอคุณ guest ตอบว่า "เคยไปมาแล้ว"
จะได้เข้าทางคุณขันธ์
แล้วคุณขันธ์ก็พูดออกมาว่า "ผมไม่เชื่อ"
แล้วคุณขันธ์ก็จะเอาชุดกระต่าย playboy มีหูยาวๆมาใส่
มีจุกหางปุยๆ พร้อมกับยืนขาเดียว แล้วพูดว่า...
"โอ๊ว ไอ่ ดอนท์ บีลีฟฟฟ ยู.... ยังไงชั้นก็ไม่มีทางเจื้อ!!!!"
"ไม่จริ๊งงงงงงง!!!!"
แล้วคุณขันธ์ก็ร้องไห้จน 'มาสคาร่า' เปรอะเต็มเบ้าตาแบบหนังฝรั่งอะ
แบบแพ้แล้วไม่ยอมรับความจริงอะ |
ตลก ลามปราม |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 5:01 pm |
|
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
สติคือ ธรรมใช้ไหม ธรรมทั้งหลายทั้งปวงมีดับไหม
เมื่อธรรมมีดับ แล้วจะหมายว่า ธรรมนั้นอยู่กับตัวตลอดเวลา ได้อย่างไร
|
- นิพพานเป็นธรรมใช่ไหม
แล้วพระพุทธเจ้าไปอยู่ในนิพพานตลอดไปได้อย่างไร ทำไมนิพพานไม่เสื่อม
(ถ้าตอบคำถามนี้ได้ ก้จะเข้าใจคำตอบนั้น)
แต่เอาล่ะ ผมตอบง่ายๆละกัน กลัวคุณจะงงตายเสียก่อน
สติพระอรหันต์เสื่อเมื่อตอนตายไงเล่า
คุณจะเอาสติเข้านิพพานหรือ
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
คุณ คามึน คุณเปรียบเทียบผิด เพราะว่า เทพีเสรภาพเป็นวัตถุที่มีอยู่ ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่จริง และพิสูจน์ไม่ยาก แต่ว่า นี่คือ ธรรมของพระอรหันต์ จะยกมาบอกว่า ใช่หรือไม่ นั้น ข้อนี้ ผู้ชี้ขาด คือพระอรหันต์เท่านั้น
แต่ พระอริยะย่อม เทียบเคียงสภาวะธรรม ได้ เนื่องจากนิโรธธรรมก็เป็นตัวเดียวกัน ดังนั้น เมื่อ ไม่เคยผ่านโคตรภู ย่อมไม่มีทางจะอธิบายสภาวะ สติปลายทางของพระอรหันต์ได้ |
ขันแตก คุณไม่เข้าใจตรรกะ
ผมกำลังอธิบายความรู้แบบ สุตตมัย VS สันทิฏิฐิโก
สุตมัย คือ รู้ว่าอเมกามีเทพีเสรีภาพ
สันทิฏฐิโก คือ ไปเยี่ยวใส่มาแล้ว
สองคนรู้สิ่งเดียวกัน แต่รู้ไม่เท่ากัน
คุณอ้างว่าคุณไปยืนบนเทพีมาแล้ว
แล้วคุณก็ท้าคุณ guest มาคุยกัน
ประเด็นคือ คุณยอมรับก่อนไหม ว่าเขาก็เป็นคนหนึ่งที่เคยไปยืนมาแล้ว
ถ้าคุณยอมรับได้ พวกคุณถึงจะคุยกันบนมาตรฐานเดียวกัน
เหมือนคนที่ไปเยื่อเทพีเสรีภาพมาแล้วทั้งคู่ ได้มาคุยกันเรื่องเทพีเสีรภาพ
แต่ถ้าคุณยังไม่ยอมรับคิดว่าคุณ guest รู้จักเทพีเสรีภาพแบบเดียวกับที่คุณรู้จัก
แล้วจะคุยกันต่อทำไม
เพราะยังไงๆคุณก็ไม่ยอมรับเขาอยู่ดี
=====================================
นี่ ที่คุณพูดว่าผมสนับสนุนคุณน่ะ อย่าเหมาๆ
ผม"พูดธรรม" เชื่ออะไรก็พูดไปอย่างนั้น
ยึดมั่นตามธรรม
ถ้าจะเลือกพวก ผมไม่เอาข้างคุณอ่ะ ผมกลัว
แต่ผมแอบดีใจเล็กๆ ว่าหญิงประมาท บ้าๆ บอๆ อย่างผม
ก็รู้ธรรม ระดับเดียวกับคุณได้นะนี่
เห็นคุณเอออห่อหมกกับผมซะเยอะแยะเชียว
ผมละกลัวจริงๆ ไอ้ที่มาเห็นพ้องต้องกันกับผมเยอะๆนี่
ผมกลัวผมจะเป็นแบบคุณนะ คิดแล้วเย็นสันหลังวาบบบบบ กลัวมาก
5555
เห็นเอาออห่อหมกกับผมเยอะๆนี่
ตกลงหญิงประมาท รู้ธรรมระดับเดียวกับคุณ
หรือคุณ รู้ธรรมระดับเดียวกับหญิงประมาทล่ะนี่ ...หญิงประมาทงง
=================
เออนะ ... ผมก็ไม่เห็นจะต้องทะลุธรรมขั้นโซดาปลาปิ้งอะไรที่ไหนก็รู้ธรรมเท่าคุณได้นะนี่
อืมมมมม
ภูมิใจๆ เป็นหญิงประมาท ขั้นโซดา + อริแยะ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 5:15 pm |
|
ตัวเองหมายจะแย้งธรรมคนอื่น ด้วยอคติ แต่บังเอิญว่า สิ่งที่คุณจดจำมา มันตรงกับธรรมที่ถูก คุณก็แย้งผมด้วยความไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นมัน ตรงกับผมนี่หว่า
ส่วน เรื่อง เทพีเสรีภาพ คุณอย่าเอามาพูดเลย มันตลก
อ้างบาลีไปเรื่อย
คุณ ไปตั้งประเด็นใหม่ดีกว่า ถ้าจะแย้งกับผม แต่แนะให้นะครับ หากยังไม่ถึง โคตรภู ก็อย่ามาเถียงกับผมเลย เถียงไปคุณก็ไม่มีวันเข้าใจ เพราะว่า จิตปุถุชน ไม่มีทางรู้จิตพระอริยะได้ ฉันใด คุณก็ไม่มีทางรู้ผมได้ฉันนั้น |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 5:38 pm |
|
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ตัวเองหมายจะแย้งธรรมคนอื่น ด้วยอคติ แต่บังเอิญว่า สิ่งที่คุณจดจำมา มันตรงกับธรรมที่ถูก คุณก็แย้งผมด้วยความไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นมัน ตรงกับผมนี่หว่า
ส่วน เรื่อง เทพีเสรีภาพ คุณอย่าเอามาพูดเลย มันตลก
อ้างบาลีไปเรื่อย
คุณ ไปตั้งประเด็นใหม่ดีกว่า ถ้าจะแย้งกับผม แต่แนะให้นะครับ หากยังไม่ถึง โคตรภู ก็อย่ามาเถียงกับผมเลย เถียงไปคุณก็ไม่มีวันเข้าใจ เพราะว่า จิตปุถุชน ไม่มีทางรู้จิตพระอริยะได้ ฉันใด คุณก็ไม่มีทางรู้ผมได้ฉันนั้น |
ผมถึงแล้ว โคตรภูอะไรนั่น
แต่คุณไม่มีวันเข้าใจจิตผมหรอก เพราะคุณยังไม่ถึงเท่าผม
เพราะฉะนั้นอย่ามาถกกับผมเลย มันตลก
เพราะคุณก็แค่ไปจำๆ อ้างบาลีไปเรื่อย แล้วมาพูดกับผมแล้วบังเอิญถูกบ้างเท่านั้นแหละ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 5:42 pm |
|
นี่ๆ ขันแตก ผมจะตั้งประเด็นถามธรรมคุณนะ ตามคำขอ
1. จิตคนบ้า จะเข้าใจจิตคนปกติได้หรือไม่
2. จิตคนปกติ จะเข้าใจจิตคนบ้าได้หรือไม่
และข้อนี้เด็ดสุด
3. คนบ้าด้วยกันทั้งคู่ ...มันจะรู้จิตกันได้หรือไม่
|
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 6:23 pm |
|
แปลกเนอะ จิตคนได้โคตรภู กลับเถึยงสู้คนบ้าอย่างผมไม่ได้ แถมคุมอารมณ์สู้คนบ้าอย่างผมก็ไม่ได้อีก
ไหนว่ามาสิ โคตรภูของคุณเป็นอย่างไร |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 6:28 pm |
|
555
นี่ๆๆๆ คนปกติและไม่บ้านั้น เขาจะพูดรู้เรื่องนะ
ลองสังเกตุสิว่าคุณกับผมพูดกันรู้เรื่องหรือเปล่า
====================
โคตรภูของผมเหมือนของคุณนั่นแหละ
คิดว่ายังไงก็เป็นอย่างนั้น
พูดมาสิ ว่าเป็นยังไง
มันขี่เมฆ ขี่หลังหงส์ ถือขวานฟ้า แหวกอากาศหรือยังไงลองว่ามาซิ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
guest
บัวบาน
เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 7:00 pm |
|
คุณ ขันธ์
คุณมาตอบคำถามผมให้เคลียร์ก่อน
เรื่องที่คุณว่าพระอรหันต์ไม่มีสติตลอดเวลา
แล้วที่คุณว่าองค์พระหลวงตาท่านหลงลืมเป็นการขาดสติ
ผมยกคำเทศน์องค์หลวงตามาแล้วว่า
พระอรหันต์ท่านมีสติวินัย
คือมีสติกำกับตลอดเวลา
แล้วที่คุณว่าพระอรหันต์ไม่มีสติตลอดเวลา
ถูกหรือผิดล่ะ
ถ้าผิดคุณก็ยอมรับมาเสียที
แล้วที่ว่าองค์หลวงตาท่านเทศน์ไปแล้ว
ลืมไปว่าเทศน์อะไร
คุณว่าเป็นการไม่มีสติ
ผมก็บอกว่า
เป็นการไม่สืบต่อของสัญญา
คือ สัญญาขาด
สัญญาแปลว่าความจำได้หมายรู้
อาการหลงลืมขององค์ท่าน
ก็เหมือนคนแก่ทั่วไปต้องหลงลืมเป็นธรรมดา
เป็นลักษณะของสัญญาเท่านั้นเอง
ที่เป็นอนิจจัง
ไม่ใช่ไม่มีสติเหมือนที่คุณเข้าใจ
ผมว่าคุณเข้าใจเรื่องสติผิดแล้ว
ผมถามหน่อยตอนนี้คุณมีสติหรือเปล่า
คุณนี่เหมือนจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์
ตัวเองพลาดไปแล้วเรื่องสติ
แล้วเบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่อง
โคตรภู
ตอบผมมาก่อน
อย่างไปประเด็นอื่น
เรามาคุยประเด็นแรกให้จบก่อน |
|
|
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 7:45 pm |
|
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
555 อ้าว มาด่าผมแล้วนี่ หาว่าผมปรามาสผู้มีธรรม
คุณยังไม่เข้าใจหลักธรรมเลย สติ คือ ธรรม หลวงตามหาบัวท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านจะมาใช้สติ ตลอดเวลาทำไม
คุณไม่ไปดูหละเวลาที่ท่านเทศ แล้วลืมไป ว่าพูดถึงอะไร
คุณไปศึกษาให้ดีก่อน ก่อนจะมาด่าผมอย่างไม่มีเหตุผล
ผมนี่แหละ ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวตัวจริง คุณมันคนนอกคอก ไม่รุ้เรื่อง หลักธรรมก็ไม่มี ยังจะพูดไปเรื่อยเปื่อยตามตรรกะตน |
จริงๆ ด้วย
นี่ถ้าคุณ guest ไม่ทักผมไม่เห็นนะนี่
คุณขันธ์ ตลบแตลงจริงๆ
แล้วยังมาไก๋ ทำแอ๊บมาเห็นด้วยกับคำตอบของผมอีกนะนั่น
ตกลงจะตอบอะไร เอาให้มันแน่ๆสักทางซิ
ไหงก่อนหน้านี้ พูดอีกอย่าง
พูดได้ยังไงว่าพระอรหันต์ไม่มีสติตลอดเวลา
โอ ... มิน่าล่ะ
ตายแล้วๆ เจ้าข้าเอ๊ย
รู้แล้วว่าไปทำกรรมอะไรไว้ ตายๆๆๆ คุณขันธ์ ปรามาสพระอรหันต์
มิน่าล่ะ เห็นเส้นผมเป็นภูเขา เห็นภูเขาเป็นเส้นผม
วิปลาสไปหมดขนาดนี้
ตายๆๆๆๆ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
mes
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 8:21 pm |
|
อ้างอิงจาก: |
คุณ ไปตั้งประเด็นใหม่ดีกว่า ถ้าจะแย้งกับผม แต่แนะให้นะครับ หากยังไม่ถึง โคตรภู ก็อย่ามาเถียงกับผมเลย เถียงไปคุณก็ไม่มีวันเข้าใจ เพราะว่า จิตปุถุชน ไม่มีทางรู้จิตพระอริยะได้ ฉันใด คุณก็ไม่มีทางรู้ผมได้ฉันนั้น |
ต้องcopyไว้เป็นหลักฐาน
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์เพทุบายชอบแอบลบแล้วถามหาใบเสร็จ
อย่างข้างบนนี้เรียกว่าโอ้อวดไหม |
|
|
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 8:40 pm |
|
คุณขันธ์นี่อึดจริงๆ 1/3 ยึนซดอย่างไม่ย่อท้อ เป็นกำลังใจให้ครับ
สู้ต่อไปเทเคชิ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
mes
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 8:44 pm |
|
คนก็ไม่สะดุ้งเมื่อฟ้าผ่า
ปัญหา อะไรบ้างที่ไม่สะดุ้งเมื่อฟ้าผ่า ?
พุทธดำรัสตอบ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลแลสัตว์เหล่านี้ เมื่อฟ้าผ่าย่อมไม่สะดุ้ง คือ พระภิกษุขีณาสพ ๑ ช้างอาชาไนย ๑ ม้าอาชาไนย ๑ สีหมฤคราช ๑
ทุ. ทุก. อํ. (๓๐๒-๓๐๔)
ตบ. ๒๐ : ๙๗ ตท. ๒๐ : ๘๖-๘๗
ตอ. G.S. ๑ : ๗๑-๗๒
copyมาให้ดู
ยังมีอีกเรื่องหนึ่งหาไม่เจอ
เป็นเรื่องพุทธสาวกคิดว่าตนสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว
จนเมื่ออยู่มาวันหนึ่งหลังจากนั้นหลายสิบปี
ขณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำแล้วเกิดฟ้าผ่าลงมาแล้วท่านสดุ้ง
จึงได้รู้ตัวว่ายังไม่สำเร็จอรหันต์
แล้วนายขันธ์ไปรู้ว่าใครสำเร็จอรหันต์ได้อย่างไร
ไปบอกว่าท่านพระคุณเจ้าองค์นั้นองค์นี้เป็นพระอรหันต์
เป็นการทำบาปกับท่านมากกว่า
เพราะจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องคิดว่าท่านอวดอุตริมนุษย์ธรรม |
|
|
|
|
|
guest
บัวบาน
เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 8:55 pm |
|
คุณ ขันธ์
คุณดูอีกครั้งนะ
************************************************
"พระพุทธเจ้าพระองค์รับสั่งคำเดียวเท่านั้น
จะไปฟ้องร้องเธออะไร
เธอเป็นสติวินัย หลุดพ้นแล้วจากสมมุติโดยประการทั้งปวง
ว่าเท่านั้นพอ
ทางนี้บรรดาผู้สงสัยก็หายสงสัยหมด
นั่นพระพุทธเจ้าตัดสินให้
เธอเป็นสติวินัยอย่างยอดเยี่ยม สุดสมมุติแล้ว
บอกอย่างนั้นแหละ"
อ้างอิง : เทศน์อบรมฆราวาสณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อค่ำวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
เรื่อง "จิตเบิกด้วยธรรม"
******************************************
คุณดูสิ "เธอเป็นสติวินัย หลุดพ้นแล้วจากสมมุติโดยประการทั้งปวง"
แล้วดูนี่อีกนะ
********************************************
"ความเคลื่อนไหวไปมามีสติสตังระมัดระวังรักษาความเคลื่อนไหวของตน
ไม่ให้มันผิดมันพลาดจากเพศของพระไป
เอาวินัยคือเครื่องบังคับบัญชา
สติวินัยบังคับบัญชาไปที่ไหนก็เป็นพระเต็มตัว"
อ้างอิง : เทศน์อบรมพระสงฆ์และฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ (เวลา ๑๓.๓๐ น.)
เรื่อง "สติวินัยบังคับบัญชา"
*********************************************
เห็นมั้ย "เอาวินัยคือเครื่องบังคับบัญชา สติวินัยบังคับบัญชาไปที่ไหนก็เป็นพระเต็มตัว"
สติวินัย หมายถึง มีสติเป็นเครื่องบังคับบัญชา
พระอรหันต์ท่านมีสติเป็นเครื่องบังคับบัญชา
ดูจากนี้
"เธอเป็นสติวินัย หลุดพ้นแล้วจากสมมุติโดยประการทั้งปวง"
แล้วพระอรหันต์ท่านจะขาดสติได้อย่างไร
ถ้าเป็น "สติวินัย" แล้ว คือการระลึกรู้ตลอดไม่ว่าจะมีอวิชชาหรือไม่
และเมื่อไม่มีอวิชชาแล้ว เป็น "สติวินัย" หรือ "สติวินโย" แน่นอน
องค์หลวงตาท่านใช้คำว่า
สติปัญญาอัตโนมัติ
เมื่อเข้าเรื่องรูปขันธ์จบไปแล้ว
เหลือแต่นาม
ส่วนคำว่ามหาสติมหาปัญญา
ท่านใช้เมื่อหมดทั้งรูป และ นามแล้ว
เหลือแต่จิตอวิชชาล้วน ๆ
ท่านใช้คำว่า
อยู่ในห้องที่ไม่มีของ
ว่างไปหมด
แต่ที่ยังไม่ว่าง ก็ตรงที่
ตัวผู้ที่เห็นว่าห้องนั้นว่างนั่นเอง
คุณเอาคำของครูอาจารย์
มาพูดไปเรื่อย
ขอให้ฟังดูดีเท่านั้นเอง
เอาแค่เรื่องสติวินัยก่อน
เดี๋ยวเรื่อง "สัญญา"
คุณเจออีกรอบแน่
คุณแก้ผมให้ได้ก่อน
ถ้าแก้ไม่ได้ก็ยอมรับมาเสียเถอะ
ว่าคุณผิดไปแล้ว |
|
แก้ไขล่าสุดโดย guest เมื่อ 22 ก.ย. 2008, 10:16 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 9:17 pm |
|
เท่าที่ผมรู้สึกได้นะคับ คุณพี่ทั้งหลาย
ความจำของตาขันธ์นี่ "บกพร่องโดยสุจริต"
สังเกตุว่าแกลืมคำพูดตัวแกเองบ่อยมากๆ
บางครั้งก็อ้างเลยทีเดียวว่าไม่เคยพูด แล้วหนำซ้ำยังท้าได้ยกมาอีก
ไอ้ที่พูดหยกๆ ก็ลืมซะงั้น
พูดอันใหม่ ไปขัดอันเก่าโดยไม่รู้ตัวก็พบบ่อย
จะว่าเพี้ยนก็ไม่ใช่ ยังพูดรู้เรื่อง(บ้าง)
จะว่าบ้าก็ไม่ขนาดนั้น
เฟื่องอะ เฟื่องเกิน
กู่ยังไงก็ไม่กลับแล้วล่ะ
เพราะลำพังวิบากจากการพูดของแกนี่
คงจะหนักหนาเอาการอยู่
ถึงทำให้มีเครื่องปิดกั้นธรรมะ
เส้นผมก็มองว่าภูเขา ภูเขาก้มองว่าเส้นผม
คุณขันธ์เอ๊ย คิดไปคิดมา
ผมทำบาปกับคุณมาก ชักรู้สึกผิด
ผมขออวยพรนะ อโหสิให้ ผมไม่ติดค้างอะไรในใจกับคุณแล้วนะ
ปลงกับคุณจริงๆ
|
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
guest
บัวบาน
เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 9:33 pm |
|
คุณ ขันธ์
คราวนี้คือคำตอบ
1 พระอรหันต์ ท่านหมดสมมติแล้ว จะเอาสติไปจับอะไร
ตอบ คนที่ไม่ปฏิบัติธรรม คุณคิดว่าเค้ามีสติมั้ย
เค้าก็มีสติเหมือนคุณเหมือนผมนั่นล่ะ
แล้วสติต้องใช้จับอาการต่างๆ เท่าน้นหรือ
คนบ้าเท่านั้นล่ะที่ไม่มีสติเลย
พระอรหันต์ท่านก็มีขันธ์เหมือนคุณผมนั้นล่ะ
แต่ท่านไม่มีกิเลส
แล้วท่านจะไม่มีสติได้อย่างไร
คนที่ไม่มีสติจะดำรงชีวิตได้ยังไงล่ะ
คุณเข้าใจเรื่องสติผิดแล้วคุณขันธ์
2 ถ้าจิตเป็นนิพพานแล้วจะต้องมาตั้งสติจับกับสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่อีกหรือ
ตอบ เมื่อถึงนิพพาน ก็ไม่ต้องมาตั้งสติอีก
เพราะเมื่อไม่มีกิเลสมายุแหย่ก่อกวนแล้ว
ไม่มาครอบงำสติแล้ว
สติก็เป็นสติโดยสมบูรณ์
แล้วเมื่อถึงนิพพานสติจะหายไปได้ยังไง
สติก็ยังคงเป็นสติอยู่เช่นเดิม
และเป็นสติวินัย
สติบังคับควบคุมไปเองตลอดเวลา ไม่มีกิเลสมาก่อกวน
คุณเข้าใจผิดเรื่องสติอีกแล้ว
3 การที่ว่า สติวินโย นั้นเป็นธรรมข้อหนึ่ง ในโพชฌงค์ แล้วจะต้องใช้ใน อรหัตตผลอีกหรือ เว้นเสียแต่ว่า อริยมรรคข้อใดข้อหนึ่งจึงจำเป็นต้องมี สัมมาสติ จริงหรือไม่
ตอบ คุณฟังนะ
"สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา"
สติจำต้องปรารถนาในที่ทั้งปวง
ไม่มีคำว่ายกเว้นที่สติจะไม่ติดแนบกับตัว
"สติ"เป็นธรรมข้อหนึ่งในโพชฌงค์
และเป็นอริยะมรรค นี้ถูกต้อง
ถ้าคุณคิดว่าสติต้องหายไปเมื่อกิเลสหายไปนั้น
แล้วสมาธิต้องหายไปด้วยเหรือ
สัมมาทิฏฐิต้องหายไปด้วยหรือ
พระอรหันต์ท่านก็มีสมาธิเต็มองค์ท่าน
ท่านมีสัมมาทิฏฐิเต็มองค์ท่าน
เมื่ออยู่ในอรหัตตผล
สติยังคงมีอยู่
แต่ไม่ต้องใช้กับกิเลสเหมือนเก่าก่อน
เพราะกิเลสหมดไปแล้ว
คุณมั่วแล้ว
ที่คิดว่ากิเลสหมดไป
สติต้องหมดไปด้วย
คนไม่มีสตินั้นมันคนบ้า หรือไม่ก็คนเมาเท่านั้นเอง
4 การที่บุคคลยังไม่รู้จัก การเกิดและการดับ และสักกายทิฎฐิยังไม่ขาดจึงไม่มีทางเข้าใจ มหาสติ มหาปัญญา ผมจึงบอกว่า ธรรมอันง่าย อันข้ามโคตรปุถุชนนี้ คุณ guest ต้องตอบให้ได้ก่อน ก่อนจะมาเถียงเรื่องพระอรหันต์กับผม
ตอบ เรื่องสตินี้เป็นพื้นฐานเลย
ตั้งแต่ธรรมขั้นต้น
จนกระทั่งสุดยอดแห่งธรรม
ต้องตอบสติให้ได้ก่อน
ถึงจะตอบธรรมอื่นได้
ศีล สมาธิ ปัญญา
ต้องประกอบด้วยสติทั้งนั้น
อย่าว่าแต่ โคตรภูเลย
คุณไม่ต้องพูดถึงมหาสติมหาปัญญาหรอก
ธรรมแค่โสดาบันยังไม่ถึง
มหาสติมหาปัญญาเลย
ทำเป็นเอามาพูดให้ตัวคุณเองดูดีเท่านั้นเอง
ความรู้ในธรรมคุณมีแค่นี้
แล้วยังมีหน้ามาพูดเรื่องโคตรภู
น่าอายนะ
ทั้งหมด
นี่คือมิจฉาทิฏฐิ ข้อ ที่ ๑ ของคุณ |
|
|
|
|
|
|