สะกิดใจ หยุด!เพื่อตนเองและผู้อื่น

ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2008, 5:17 pm

ผมสังเกตว่าในขณะนี้มีเพียงคนกลุ่มหนึ่ง
ที่มีการโต้ตอบซึ่งกันมาโดยตลอด
เพียงเพื่อจะเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งได้เท่านั้น
ไม่ได้สร้างอะไรให้เป็นประโยชน์เลยนะ
จิงๆ นะพับผ่าสิ!!!

ฝ่ายหนึ่งก็แย้งกันไปแย้งกันมา
ฉันเก่งกว่า เอ็งไม่เข้าใจ มันอะไรกันครับพวกคุณ !?!

นี่ผมจะบอกให้นะ
มันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย

ทำไมไม่คิดว่าจะเอาความรู้ของตนเอง เท่าที่มีนะ
ไปทำประโยชน์ให้กับชาติ บ้านเมือง ศาสนา
เช่น ไปวัด ไปช่วยพระท่านสอนหนังสือ
ก็ลองไปปรึกษาท่านสิว่า
อยากจะมาทำอะไร เราเก่งเรื่องอะไร

ก็ลองให้ท่านทดสอบ ภูมิธรรมเรา
ถ้าท่านตกลงก็ ไปสอน วันเสาร์อาทิตย์ก็ได้
วัดในประเทศไทยเยอะแยะไป

ไปอาสาสิครับ เป็นครูสอนธรรมะ ไม่ดีกว่าเหรอ
ยังดีกว่าที่จะต้องมานั่งคอยจ้องจับผิดกันไปมา

เอ่อ... เว็บนี้เขาสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร
พวกคุณก็น่าจะรู้ดี

เขาสร้างมาเพื่อเป็นการเผยแผ่หลักธรรมของพุทธศาสนา
ให้จรรโลงสืบต่อไป เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่คนทั้งหลาย
แต่ไม่ได้ทำมาเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง
เกิดสงครามตัวหนังสือระหว่างชาวพุทธด้วยกัน

คุณเก่งทำไมต้องให้คนอื่นเขารับรู้ครับ?

คนนี้สอนผิด เขาผิดก็อย่าไปแย้งกัน
ถึงขนาดทำให้เกิดความหมองหม่นเลยครับ
ความเข้าใจในหลักธรรมของแต่ละคนอาจจะคลาดเคลื่อน ย่อมไม่เหมือนกัน

และการเอาชนะก็เหมือนกัน

การชนะที่ดีที่สุดคือการชนะใจตัวเราเอง

คุณรู้หรือไม่ว่า พวกคุณจิตกำลังตกแล้ว

เพราะต้องมาคอยนั่งดูกระทู้ต่างๆ ว่าทางฝ่ายนั้นเขาจะมาโต้ว่าไง

เสียเวลา ทำไมไม่เอาเวลาไปมอบให้กับคนรอบข้าง ไม่ดีกว่าหรือ
ไปทำความสุขให้คนอื่นและตนเองดีกว่า
ดีกว่าจะมานั่งเฝ้าหน้าจอ เอาความรู้ไปช่วยเหลือคนอื่น
ดีกว่าเอามาถกเถียงกัน ไม่จบหรอกครับ

เพราะต่างฝ่ายก็มีธงในใจแล้ว (ว่าฉันไม่ยอมคุณแน่) แบบนี้ไม่จบครับ

ลองพิจารณาดูนะครับ ว่าเกิดจะประโยชน์อะไร เสียเวลา เสียสุขภาพจิต
เอาเวลาไปอ่านหนังสือธรรมะดีกว่า
เอาเวลาไปตามวัดดีกว่า ปฏิบัติธรรมดีกว่า

ส่วนเว็บธรรมะก็เป็นเพียงสถานที่สมมุติเพียงชั่วคราวเท่านั้น
เขาสร้างไว้เพื่อให้ผู้ที่แสวงหาหลักธรรมอันประเสริฐ
ได้เข้ามาอ่านศึกษาหาความรู้ แล้วเอามาประยุกต์
เอามาปรับเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นมากที่สุด

จงหยุดมองดูตัวเองเถอะนะ อย่ามองไปไกลเลย
มันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยจริงๆ นะ
ท่านผู้เจริญ และคิดจะเจริญทั้งหลาย ..

คติธรรม ..

“ผู้ที่รู้สิ่งที่ไม่มีสาระว่ามีประโยชน์
และเห็นสิ่งที่เป็นแก่นสารสาระว่าไม่มีประโยชน์

ผู้นั้นได้ชื่อว่าคิดผิด ดำเนินชีวิตอย่างไม่ถูกต้อง
จึงได้รับแต่สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน

ส่วนผู้ที่รู้ที่เห็นสิ่งอันเป็นสาระว่ามีประโยชน์
และสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าไม่มีประโยชน์
ผู้นั้นชื่อว่าคิดถูกต้องดำเนินชีวิตอย่างมีหลักการ
จึงได้รับแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์”

สาธุ

ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2008, 6:24 pm

ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2008, 11:39 pm

การชนะที่ดีที่สุดคือการชนะใจตัวเราเอง

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 12:23 am

คุณ คนสองศอ ครับ

คนกลุ่มหนึ่งที่คุณหมายถึง ก็รวมผมด้วยคนนึง

การโต้ตอบด้วยข้อความต่าง ๆ
ผมไม่ได้ หวังได้หวังเสียจากการโต้ตอบเหล่านี้

ผมหวังเพียงตัวผม ผู้ร่วมโต้ตอบ และผู้อ่าน
จะน้อมนำข้อความที่โต้ตอบเข้ามา เพื่อพิจารณาให้เป็นธรรม

เพราะธรรมะ ไม่ว่าสภาวะใด หากพิจารณาให้เป็นธรรมก็เป็นธรรม
หากพิจารณาให้เป็นความเดือดร้อน กังวลใจ ก็เป็นกิเลส
แล้วแต่ความฉลาด และอุบาย ของผู้พิจารณาธรรมนั้น

หากการกระทำของผม
เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้คนในเวปแห่งนี้
ผมก็ขออภัยทุกท่านที่สร้างความเดือดร้อนในครั้งนี้

ส่วนตัวผมเมื่อได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแล้ว
ผมก็ต้องลาจากทุกท่านในเวปแห่งนี้
เพราะเมื่อทำความเดือดร้อนให้คนอื่น ๆ แล้ว
จะอยู่ต่อไปก็คงไม่เหมาะ

สุดท้ายนี้
ท่านใดที่ไม่พอใจตัวผม หรือเพ่งโทษตัวผม
ขอโปรดอโหสิกรรมให้ผมด้วยเถิด
เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อตัวผมและท่านเลย

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 12:55 am

guest พิมพ์ว่า:

คุณ คนสองศอ ครับ

คนกลุ่มหนึ่งที่คุณหมายถึง ก็รวมผมด้วยคนนึง

การโต้ตอบด้วยข้อความต่าง ๆ
ผมไม่ได้ หวังได้หวังเสียจากการโต้ตอบเหล่านี้

ผมหวังเพียงตัวผม ผู้ร่วมโต้ตอบ และผู้อ่าน
จะน้อมนำข้อความที่โต้ตอบเข้ามา เพื่อพิจารณาให้เป็นธรรม

เพราะธรรมะ ไม่ว่าสภาวะใด หากพิจารณาให้เป็นธรรมก็เป็นธรรม
หากพิจารณาให้เป็นความเดือดร้อน กังวลใจ ก็เป็นกิเลส
แล้วแต่ความฉลาด และอุบาย ของผู้พิจารณาธรรมนั้น

หากการกระทำของผม
เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้คนในเวปแห่งนี้
ผมก็ขออภัยทุกท่านที่สร้างความเดือดร้อนในครั้งนี้

ส่วนตัวผมเมื่อได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแล้ว
ผมก็ต้องลาจากทุกท่านในเวปแห่งนี้
เพราะเมื่อทำความเดือดร้อนให้คนอื่น ๆ แล้ว
จะอยู่ต่อไปก็คงไม่เหมาะ

สุดท้ายนี้
ท่านใดที่ไม่พอใจตัวผม หรือเพ่งโทษตัวผม
ขอโปรดอโหสิกรรมให้ผมด้วยเถิด
เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อตัวผมและท่านเลย

มิใช่อย่างนั้นเลย ครับ คุณ guest
ผมว่าคุณทำประโยชน์ดีครับ อย่าพึ่งไปน้อยใจไปเลยครับ

ผมไม่มีสิทธิไปไล่หรือให้ใครออกจากเว็บนี้ทั้งสิ้นครับ
เพียงแต่ผมอยากจะให้คนที่เขามีการกระทำให้เกิดความวุ่นวาย
ให้เขาได้หยุด เพียงเพื่อตัวเขาและส่วนรวมเท่านั้นเองครับ

ยังไงก็ขออยากจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้หยุด
เพื่อความรัก ความสามัคคีจะได้บังเกิดขึ้น
เว็บแห่งนี้จะได้คืนสู่ความสงบอีกครั้ง ก็เท่านั้นเองครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 1:09 am

ถ้าคุณบอกให้นายขันธ์มันหยุดได้นะ
ผมจะอนุโมทนาสาธุการอย่างที่สุดเลยล่ะคับ
จะจัดมหรสพสมโภชนยิ่งกว่าเปิดปักกิ่งเกมส์เสียเลย เอ๊า

ถ้าคุณบอกให้มันหยุดบ้าได้
คุณก็สามารถบอกให้ผมหยุดได้ง่ายยิ่งกว่านั้นล้านเท่า

หมาย่อมกัดหมา
ธรรมชาติเป็นอย่างนี้
เพราะผมก็หมาคับ มีกิเลส มีเลือดบ้า แต่ผมบ้าน้อยกว่ามาก

ครั้นคุณจะสอนผมว่าให้เลิกกัด เลิกทำอย่างที่หมาทำเถิด
คุณก้ต้องดูว่าการสอนหมาให้เลิกกัด มันเหลือวิสัยไหม
หมามันกัดมาตั้งแต่เกิด .... มันเหลือวิสัยไหมที่จะไปสอนให้มันเลิกกัดด้วยการพูดให้สติ

ถ้ามันมีปัญญาเพียงพอจะรับคำสอน เข้าใจธรรมะ
มันก็เลิกกัดไปนานแล้วล่ะคับ
เพราะมีคนจำนวนมากออกมาทำอย่างที่คุณทำแล้ว แต่มันไม่ได้ผล
ที่กัดอยู่เพราะสันดานเป็นหมา เลิกกัดไม่ได้ เลิกคลานสี่ขาไม่ได้

เมื่อหมามันเหลือวิสัยจะสอน
คุณก้ต้องใช้กำลังจับแยก
หมาตัวไหนกัดกันก็จับมันแยกให้ได้
ถึงมันจะเลิกกัดกันไม่ได้
แต่มันไม่มีโอกาสกัดกันอีก
อย่างนี้ถึงเรียกว่าใช้ธรรมให้เหมาะสมกับผู้รับธรรม

ถ้ามันมีปัญญาขึ้นไม่ได้ เหลือวิสัยเกินไป
ก้ต้องให้มันมีความสงบ คือสมาธิ แต่ถ้าสมาธิก้ยังไม่ได้
ก็ต้องใช้ศีล คือการห้าม การลงโทษ ด้วยกฎต่างๆ
จึงเกิดสมาธิ จึงเกิดปัญญาขึ้นในภายหลัง

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 1:26 am

คุณคามินครับ ผมคิดว่ามีไม่มีใครมองคุณหรือใคร
แม้แต่คู่กรณีคุณเป็นหมาเลยนะครับ
เพราะหมามันอ่านหนังสือไม่ออก
เขียนหนังสือไม่เป็น เล่นคอมก็ไม่เป็นอีกนั้นแหละ

อย่าไปเปรียบอย่างนั้นเลย

อย่างไรผมก็มองว่า คุณและคู่กรณีคุณ
เป็นมนุษย์ประเสริฐที่มีโอกาสได้เกิดมาสร้างบุญ
อย่าไปจองเวรกันอีกเลยนะครับ

ส่วนคู่กรณีคุณ ก็คงจะหยุด ถ้าคุณไม่แหย่เขาแบบนี้ ก็คงจบ
หรือจะต้องเชิญคุณทั้งคู่ไป ทะเลาะกันที่เวทีมวยดีหรือเปล่า
อย่ากระนั้นเลย จงหยุดเถอะครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 2:28 am

คุณ คนสองศอ ครับ

ผมตั้งใจจะเร่งภาวนาอยู่พอดี
เพราะการเข้ามาสนทนาในเวปก็มีกระทบใจบ้างเหมือนกัน
แต่แง่ดีก็มีเช่นเดียวกัน
เพราะฉนั้นช่วงในการเร่งภาวนา
การหยุดสนทนาในเวป น่าจะเป็นผลที่ดีกว่า

แต่มีสิ่งที่ผมยังไม่เคยกล่าวถึง
ผลจากการทำสมาธิบางอย่าง
แต่ไม่เกี่ยวกับการละกิเลส
คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้มีจริตในทางนี้

ก็คือเรื่องคล้าย ๆ คุณพลศักดิ์
ท่านผู้ที่รู้ที่เห็นสิ่งแปลก ๆ
อย่างเช่นดวงจิตต่าง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในภพภูมิของเรา
ท่านผู้ที่รู้ที่เห็น
ก็รู้เห็นจริง ๆ ครับเรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้

ถ้าผมพูดไปคนอื่นอาจจะว่าผมบ้าได้
แต่เพื่อประโยชน์ของท่านผู้มีจริตทางนี้

เรื่องเหล่านี้มีจริงครับแม้แต่ในพระไตรปิฎกก็มีจดจารึกไว้
ผมเคยใช้พลังจิตต่อสู้กับดวงจิตต่างภพภูมิ
และเคยพูดคุยกับผีที่เข้าสิงร่างคน(ไม่ใช่ร่างทรง)

เรื่องอย่างนี้ผู้ที่รู้ที่เห็นค้านเค้าไม่ได้ครับ
อย่างคุณพลศักดิ์ผมก็ไม่เคยค้านแกในเรื่องนี้

ที่ผมกล่าวมาเพื่อยืนยันว่า
สิ่งที่เราสัมผัสด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ไม่ได้มีแค่นี้
ถ้าเรามีพลังจิตเราจะรู้มากกว่านี้

แล้วคุณจะเชื่อมั่นเลยว่า
พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้รู้แจ้งโลกจริง ๆ
ไม่ได้ด้นเดามาสอนโลกแต่อย่างใด
อย่าได้ลังเลสงสัยในธรรมะของพระพุทธองค์เลยครับ

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 2:55 am

คนสองศอ ครับ

คุณอาจจะมาพบเรื่องในระยะหลังๆ
จึงอาจจะไม่เข้าใจอุปมาอุปมัยของผม

ผมได้ใช้วิธีหยุดไปหลายครั้งแล้ว
ผลคือไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมา

เพราะเมื่อภายหลัง
ไม่ว่าผมจะคุยเรื่องอะไร กับใคร แม้จะไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับมัน
แต่มันจะคอยตามป่วนกวนประสาท ไม่มีเลิกรา ยิ่งไม่ตอบมัน มันยิ่งคลั่ง
ตอดนิดก็เอา ตอดหน่อยก็เอา ท้าตีท้ารบไม่เว้นวาย
ขอให้ได้ผรุสวาทด่าผมได้ เป็นอันสมอยาก สนองตันหายามแก่

พอผมไม่ทะเลาะด้วย มันก็ไปทะเลาะกับคนนั้นที คนนี้ที
อ้างนู่น อ้างนี่ สารพัด
แต่กรรมที่แสดงเจตนาก็เป็นอย่างที่เห็นๆ

เคยเห็นคนบ้าไหมคับ มันทำอะไรโดยไม่รู้ตัว
ครั้นผมจะไปไล่ทุบไล่ตีคนบ้า ก็ใช่ที่ ไม่ถูก
แต่ผมเป็นคนธรรมดา ที่มีโมโห มันกัดผม ผมก็กัดมัน
ทะเลาะกันตามประสาหมาไปอย่างนั้น
แต่ก็ยังหวังที่กัดมันนี่ เผื่อมันจะได้สติ หายจากโรคบ้าอยากเป็นอาจารย์

ไม่ได้รังเกียจคนบ้านะแต่เราต้องกันคนบ้าออกไป
เพื่อประโยชน์ของคนบ้าเอง จะได้ไม่คลุ้งคลั่งพอกพูนความบ้าไปกว่านี้
และคนดีๆ จะได้มีชีวิตปกติสุขแบบที่เคยเป้นมาก่อนหน้านี้

แถวนี้มันตกต่ำลง ตั้งแต่นายขันธ์เข้ามานั่นแหละ

โรงเรียนแต่ละชั้นปี เขาก้ต้องจับเด็กที่ธาตุมันอยู่กันได้ ไปอยู่ห้องเดียวกัน
พวกบอบบาง จิตใจทนทานความกักขฬะไม่ได้ เราก้ต้องแยกไปห้องหนึ่ง

พวกเด็กโทสะจริตเกเร ทนอยู่ในระเบียบเรียบๆร้อยๆไม่ได้
เราก้ต้องแยกไปห้องอีก

แยกแล้วก็จะได้จัดการศึกษาอบรมให้ถูกธาตุ

นายขันธ์มันเป้นพวกสุดโต่ง กักขฬะ เพียงคนเดียวในชั้นปี
ชาวบ้านไม่มีใครเขาเป็น
ควรให้มันไปหาโรงเรียนใหม่ ที่เหมาะกับมัน

ซึ่งก็แปลกที่ว่า ที่ชอบที่ชอบของมันก็มีอยู่
เว็บที่มันเป็นพระเจ้าก็มีอยู่ ผู้คนบวงสรวงมัน

แต่มันทะลึ่งอยากจะมาสั่งสอนคนแถวนี้
คนแถวนี้ก็ไม่ได้นับถือมัน ไม่ได้ซูฮกเป็นสาวกมัน มันไม่พอใจ
มันต้องการให้คนยอมรับมัน สิโรราบมัน

บ้าถึงขนาดเที่ยวบังคับเขา ให้เรียกว่าอาจารย์
มันถึงจะสอนธรรมะแบบหยาบๆคายๆให้ ?!?!
ถามคนชื่อ mes ดูสิว่าโดนอย่างที่ว่าหรือเปล่า

เจอหน้าใครมันก็ด่าเขาว่าโง่ โง่ โง่
มันเจอหน้าใครมันก้อยากจะสอนเขา
"มันคิดว่าคนทั้งโลกนี้ต้องได้รับการสั่งสอนธรรมะด้วยความหยาบของมัน"
มันชอบอ้างว่ากระแทกกิเลส...... มันบ้าไหมล่ะคุณ ?
คนที่เจอหน้าใครก็ถีบหน้าเขาแล้วบอกว่ากระตุ้นให้โกระจะได้เห็นกิเลส
ผมว่ามันบ้านะ บ้าเอามากๆ

บ้าไม่พอ ...มันเพียรอ้างว่ามันเป็นพระอริยะบ้าง โสดาบันบ้าง
ถ้าผมด่ามันแล้วผมจะบ้า
คิดดูเอาเถิดว่า ควรจะกันมันเข้าคอก
หรือควรจะมาบอกให้ผมหยุด

ทุกข์ คือความวุ่นวาย
เหตุ คือ คนบ้ากำลังพยามบำบัดคนปกติ มันคิดว่าคนทั้งโลกป่วย
มรรค คือ บอกมันกันความบ้าตัวเองไว้ ถ้าทำเองไม่ได้
เราก้ต้องกันทั้งตัวทั้งใจมัน อย่าให้มาเกะกะระรานชาวบ้าน

จะได้ถึงนิโรธกันเสียที

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 4:49 pm

ตอบคุณ guest ครับ

ยินดีด้วยที่คุณได้เข้าสู่ภพภูมิที่หลายคนเขาไม่เคยได้พบเจอ
แต่สิ่งเหล่านี้มีทั้งจริงและหลอก
ซึ่งยากมากที่เราจะไปตัดสินว่าใช่หรือไม่

เพราะในมิตินั้น มีมายาที่จะหลอกเรา
บางครั้งก็ใช่ แต่บางครั้ง จิตตัวเรา หลอกเราเอง
เผลอๆขโมยเอาซีนที่เราจะต้องแสดง
ไปแสดงให้เราเห็นซะงั้น

จะพูดไปยาวกว่านี้
ก็กลัวเหมือนกันว่าคนเขาอาจไม่เข้าใจ
ก็สรุปว่าอยากให้คุณพิจารณาในการเห็น ฟัง รู้สีก
และสัมผัสแต่ละครั้งด้วย ว่า จริง หรือ หลอก
เพราะพวกนี้หลอกเก่งซะด้วยนะครับ

จริงๆนะ ย้ำพวกนี้หลอกเก่ง ต้องหลอกมันก่อน
มันถึงจะไม่ทันเรา

ปล.หลอกในที่นี้
หมายถึงการหลอกจิต มิใช่ผีหลอกนะครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 5:09 pm

ตอบคุณคามิน ครับ

ตามจริงผมติดตามคุณและคู่กรณีคุณมา
ตั้งแต่คุณเริ่มก้าวเท้าเข้ามา ณ เว็บแห่งนี้แล้ว

ได้เห็นการเริ่มปะทะกันเป็นระยะๆ
ก็ทราบได้ดีว่า ต่อไปน่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็เดาไม่ยาก

แถมคู่กรณีคุณเขาก็มาจากเว็บที่ค่อนข้างหลากสไตล์ ผมทราบดี

คุณคิดว่าผมคงไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไร
ผมรู้อะไรมากกว่าที่คุณคิดครับ
เพียงผมแฝงตัวอยู่แบบเงียบๆถึงเงียบมากในเว็บนี้นานแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นท่านอื่นๆผมก็พอทราบว่ามาจากไหนบ้าง
แต่คงไม่ใช่หน้าที่ ที่ต้องไปตรวจสอบเขา
ก็เพียงเฝ้าดู การตอบกระทู้ รวมถึงการตั้งกระทู้

ซึ่งหลายๆกระทู้ คุณได้ตอบและตั้งกระทู้ได้ดีมากและเยี่ยม

ส่วนคู่กรณีคุณ ที่คุณไปมองเขาว่าเหมือนคนบ้า เหมือนหมา
กัดไม่เลือก ผมว่า คงไม่ใช่นะ ผมว่าเขามีเจตนาที่ดี
เพียงแต่ใครจะจูนความรู้สึก
ที่เขาได้เขียนในกระทู้ให้ได้อ่าน ได้พิจารณา

เขาอาจจะมาเพียงทดสอบความรู้สึก ขันติ ต่างๆ
และเขาอาจจะก้าวกระโดดข้ามไป
ถึงขนาดที่เราไม่อาจจะเข้าใจเขาได้
ก็ต้องถอยมารับความรู้สึก
มันเป็นเช่นนี้เอง

จงเฝ้ามองดูการเดินอย่าง "ผู้รู้" ดีกว่า
ดูว่าตัวเองจะไปอย่างไร

เชื่อสิจะไปอย่างไร
ก็ไม่พ้นความตายไปได้หรอก
จุดจบในชาตินี้ก็แค่นี้
ได้แต่บุญและบาปติดตัวไป สาธุ

ตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 10:29 pm

ขออนุโมทนาคับคุณคนสองศอ
สาธุ

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 3:04 pm

คุณ คนสองศอ

การโต้ตอบ ไม่ใช่จะไม่เกิดประโยชน์ แต่มันเกิดประโยชน์สิครับ ไม่เช่นนั้นผมจะโต้ตอบไปเพื่ออะไรถ้าไม่เกิดประโยชน์ มันคือ การสอนให้คนได้รู้ได้เห็นกิเลสที่แฝงอยู่ในตัวคน

มันทำให้เห็น สันดานหรือธาตุแท้ ที่ เกลียดชัง โมโหโกรธรา มันทำให้เห็น สันดานที่ เหน็บแนม แล้ว คนเหล่านี้ หากว่า เมื่อกลับมาอ่านแล้ว ก็จะทำให้เห็นตัวเองภายหลังว่า นี่เราเป็นอะไรไป ทำไมอารมณ์จึงชักพาไปได้

อีกประการหนึ่งคือ เมื่อ คนที่อ้างพระพุทธศาสนายังไม่สามารถฝึกตนให้ได้ดี แล้วจะไปรักษาใคร

การทดสอบธรรม ไม่ใช่ดูตอนอนุโมทนาสาธุ หรือพูดจาดีใส่กัน

ก็อย่างที่ มีผู้หญิง คนหนึ่ง พูดจาดี ดูอารมณ์เย็น ไปพูดกับหลวงปู่ตื้อว่า หลวงปู่เจ้าขา อิฉันนี่ละได้หมดแล้ว ปล่อยวางได้แล้ว หลวงปู่ตื้อท่านก็ว่า จริงหรือ อีตอแหล เท่านั้นแหละครับ ขึ้นผางๆ เป็นเจ้าเข้า

นี่แหละ ที่ผมจะชี้ให้พวกท่านเห็น ก็เป็นไงหละ ที่ว่า มีธรรม พอขัดใจไปเท่านั้นแหละ กี่สัปดาห์แล้วหละ ที่มันไม่ได้ลดละ ความไม่พอใจลงไปได้ ใช่ไหม อีตอแหล

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 4:53 pm

คามินธรรม พิมพ์ว่า:

บ้าถึงขนาดเที่ยวบังคับเขา ให้เรียกว่าอาจารย์
มันถึงจะสอนธรรมะแบบหยาบๆคายๆให้ ?!?!
ถามคนชื่อ mes ดูสิว่าโดนอย่างที่ว่าหรือเปล่า

ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ

ผมเห็นด้วยกับท่านคามินธรรมครับ

สนทนาในเวปควรให้เกียรติต่อกัน

ไม่ใช้มาตั้งตัวเป็นอาจารย์ของคนในเวป

ถ้าเป็นพระสงฆ์ที่เราตั้งใจไปหาไปขอฟังการแนะนำธรรมจากท่าน

ตั้งใจปาวนาตัวเป็นลูกศิษย์ท่านเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เป็นคนละประเด็นกัน

ขอถามจริงๆเถอะ

รู้ได้อย่างไรว่าคนที่เราไปตั้งตัวเป็นอาจารย์เขา

คุณธรรมเราสูงกว่าเขา

ทุกคนที่เข้ามาในเวปก็เพื่อเสวนาธรรม

นอกจากมีการเคารพยอมรับกันเป็นรายบุคคล

ผมเห็นมีแต่ศิษย์กระหายอาจารย์

กรณีอาจารย์กระหายอยากมีศิษย์ดูแปลกๆอยู่

เหมือนกับเป็นการข่มขื่นอย่างไหงไม่รู้

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 5:07 pm

ถึงคุณguest

ผมชักเป็นห่วงคุณ ด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง

คุณอย่าเพิ่งระแวงผมน่ะ

ผมเป็นคนตรงไปตรงมา

คิดอย่างที่พูด และพูดอย่างที่คิด

เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วผมเจอเหตุการณ์อย่างที่คุณเจอในขนาดนี้

ชีวิตผมเหมือนตกอยู่ในหมอกครึ่งฝันครึ่งจริงอยู่นานมาก

เดี๋ยวนี้จางลงไปมากประการหนึ่ง เริ่มชินชาประการหนึ่ง และศึกษาธรรมะมากขึ้นจนกระทั่งรู้ความจริงประการหนึ่ง

ในฐานะที่เป็นเพื่อนทางเวป

หากรับรู้เรื่องใดทางจิตหรือมโนภาพไม่ว่าจะชัดเจนเพียงไหน

ให้ระวังว่ามีทั้งจริงและไม่จริง

จากวันแรกที่ผมพบเหตุการณ์เช่นนั้น

วิถีชีวิตผมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

แต่ผมทราบว่าเกิดจากวิบากของตัวเอง

ต้องตั้งสติให้มั่นครับ

แต่ก็อีกนั่นแหละครับ

เมื่อวิบากมาถึง

สติก็ถูกทำให้เผลอจนได้

เหมือนกับเหตุการณ์บังคับพาไป

แต่ผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยกับการก้าวเข้าถึงระดับธรรมของท่านครับผมพูดอย่างนี้ท่านคงทราบว่าผมหมายถึงอะไร

ขอธรรมจงคุ้มครองท่านผู้ประพฤติธรรมครับ

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 8:47 pm

คุณ mes คุณช่วยเอาข้อความที่ผมยัดเยียดความเป็นอาจารย์ให้คนอึ่นมา คุณอย่ามีนิสัยแบบผู้หญิงที่ยกสิ่งไม่จริงมาพูดตามอารมณ์ กับอคติ

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 9:35 pm

อ้างอิงจาก:

คุณ mes คุณช่วยเอาข้อความที่ผมยัดเยียดความเป็นอาจารย์ให้คนอึ่นมา คุณอย่ามีนิสัยแบบผู้หญิงที่ยกสิ่งไม่จริงมาพูดตามอารมณ์ กับอคติ

ผู้หญิงที่ผมรู้จักมีความกล้า

ไม่ปิคบังความชั่...ตัวเองด้วยการลบแก้ไขความผิดตัวเองหรอก

โซดาขันที

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 9:45 pm

นายขันที

ผู้ที่กล้าดูถูกเพศแม่คืออมนุษย์

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 10:06 pm

อ้างอิงจาก:

ผู้หญิงที่ผมรู้จักมีความกล้า

ไม่ปิดบังความชั่...ตัวเองด้วยการลบแก้ไขความผิดตัวเองหรอก

โซดาขันที

คุณ mes นี่แหละ ทำไมผมถึงบอกว่า คุณมีนิสัยเป็นผู้หญิง ที่ประมาท
เพราะว่า ผมไม่เคยลบแก้ไขความผิดตัวเอง มีแต่คุณนั่นแหละทำ
กับ เพื่อนคุณ นั่นแหละทำ

คุณศรัทธา ท่านพระพุทธทาสไม่ใช่หรือ ท่านพระพุทธทาส ท่านถูกกล่าวหาว่า anti ผู้หญิงยิ่งกว่าผมเสียอีก ไม่เชื่อไปหาข้อมูลดู

ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 10:16 pm

ขอโทษนะครับ คุณ mes คุณลบไปกี่กระทู้ที่ด่าผม
และ เพื่อนรักคุณ ลบไปกี่กระทู้ที่ด่าผม

ส่วนผม ยังไม่ได้ตั้งกระทู้ด่า พวกคุณเลย แล้วก็ยังไม่ได้ลบข้อความอะไรเลย

คุณ mes แล้วกรุณาอย่าสติแตก ไปกระทู้อื่น มันหนักหูหนักตาชาวบ้านเขา กระทู้ดีๆ ก็ไปป่วนเสียหายหมด ผมขี้เกียจตามไปแก้กระทู้อื่น

คำที่คุณด่าผม ว่า อมนุษย์ คุณก็ด่า ท่านพระพุทธทาสด้วย เพราะท่าน ว่าผู้หญิง ที่ประมาท ยิ่งกว่าผมว่าเสียอีกหลายเท่านัก

และในกรณีนี้ผมว่าคุณ ผมไม่ได้ไปว่าผู้หญิง

mes เอ๋ย สงสัยต้อง กลืนน้ำลายบูดๆเน่าๆของตัวเองลงคอแล้วแหละ