นักวิทยาศาสตร์พวกนี้จะเป็นอย่างไร...กับการค้นหาอจินไตย

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 1:12 pm

CERN หรือ The Organisation europeacute; enne pour la recherche nucleacute; aire (อังกฤษ : European Organization for Nuclear Research) เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปเพื่อวิจัยและพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์

ปัจจุบัน เซิร์นกำลังติดตั้งเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ (Large Hadron Collider - LHC) ภายในอุโมงค์ใต้ดินรูปวงแหวนขนาดเส้นรอบวง 27 กิโลเมตร มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ใต้ดินของประเทศฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

กำลังทำการทดลองเรื่องจุดกำเนิดของจักรวาลตามทฤษฏี big bang
โดย CERN ทดลองด้วยการยิ่งโปรตรอนที่มีความเร็วแสงด้วยเครื่อง LHC
การนำโปรตรอนมาชนกัน CERN เชื่อว่าจะทำให้เกินการระเบิดอย่างรุนแรงที่มีลักษณะคล้าย big bang

ที่อาจทำให้เราได้รู้คำตอบถึงจุดกำเนิดของจักรวาลและโลกใบนี้

"จตฺตารีมานิ ภิกขฺเว อจินเตยยานิ น จินเตตพฺพานิ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่ควรคิด ๔ อย่างนี้คือ

๑. พุทธวิสัย
วิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ใครๆ อย่าคิด
ถ้าใครคิด เป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า

๒. ฌาณวิสัย
วิสัยของผู้ได้ฌาณ (อันนี้ลอกหนังสือครูบาอาจารย์มา ท่านสะกดอย่างนี้
เลยไม่ทราบว่าหมายถึง ฌาน หรือ ญาณ แน่ ต้องขออภัย
ถ้าค้นเจอจะมาแจ้งให้แน่อีกที)

๓. กัมมวิบาก
กรรมและผลกรรม

๔. โลกจินตา
คิดเรื่องโลก

ด้วยเหตุนี้ อจินไตยทั้ง ๔ อย่างนี้ บางท่านอาจจะคิดว่าตนเองคิดแล้วรู้ได้ ซึ่งก็รู้ได้เพียงวิสัยของตนเท่านั้น

พระอรหันต์ก็รู้เท่าวิสัยของพระอรหันต์ จะรู้เท่าความรู้ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ท่านจึงเตือนว่า สิ่งทั้ง ๔ นี้ไม่ควรคิด คิดไปอาจเป็นบ้า ลำบากโดยเปล่าประโยชน์

ทั้งนี้เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้สั่งสมสติปัญญาบารมีความรู้มาเสมอด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งต้องอบรมมาอย่างน้อยถึง ๔ อสงไขยแสนกัปป์ทีเดียว

นักวิทยาศาสตร์พวกนี้จะรอดไหมเนี่ยครับอาจารย์ทั้งหลาย ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 1:20 pm

การทดลองของเซิร์นยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การพิสูจน์การมีอยู่ของ "มิติพิเศษ"

โลกที่เราอยู่เป็นโลกสามมิติที่มองเห็นได้ในมิติกว้าง ยาว และลึก และหลังจากอัลเบิร์ต ไอนสไตน์ เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ จึงเพิ่มมิติของเวลาไปอีกเป็นสี่มิติ ต่อมานักวิทยาศาสตร์อย่าง ธีโอดอร์ คาลูซา และ ออสการ์ ไคลน์ เสนอว่าน่าจะมีมิติอื่น เช่น มิติที่ 5

"แน่นอนว่า ในชีวิตประจำวันมนุษย์ไม่สามารถพบมิติที่ 5

แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีมิติดังกล่าวอยู่ โดยทฤษฎีอธิบายว่า เป็นมิติที่ขดอยู่เป็นมิติเล็กๆ เปรียบเสมือนกับกระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งปกติมีแค่ด้านกว้างกับด้านยาว เมื่อนำมาม้วนให้เป็นแท่งทรงกระบอกให้มีขนาดเล็กมาก หรือมองจากระยะไกลจะเห็นแท่งทรงกระบอกเหมือนกับเส้นด้ายยาว เท่ากับว่า ธรรมชาติอาจมีหลายมิติ แต่ว่ามิติอื่นที่มองไม่เห็นมันขดตัวอยู่ ถ้าจะให้เห็นต้องใช้แว่นขยายส่องดู และในทางฟิสิกส์ แว่นขยายก็คือ พลังงานที่สูงขึ้น เพราะฉะนั้นจึงต้องสร้างเครื่องเร่งอนุภาคเพื่อเร่งพลังงาน"

ชะรอยจะพบสวรรค์ นรก โอปปาติกะ หรือเปล่าครับอาจารย์ทุกท่าน

ปรบมือ

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 1:28 pm

มันก็เป็นใบไม้ในผืนป่านะคับผมว่า
เป็นใบไม้ที่จัดว่าดี ถ้าใช้เป็น

ถึงไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์
แต่มันก็ทำให้โลก โลกียะนี้ได้ประโยชน์
สามารถเอาชนะความยากลำบากได้

อย่างรถยนต์ก้ช่วยให้เราเดินทางง่ายขึ้น จำเป้นอย่างยิ่ง
แต่คนที่มุ่งโลกุตร ไม่ต้องพึ่งรถยนต์ในการถึงแจ้งพระนิพพาน

พวกนักวิทยาศาสตร์เขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่จมปลักเคร่งเครียด
เอาเป้นเอาตายกับการหาคำตอบอย่างนั้น
เรียกว่าเขามีภูมิคุ้มกัน ไม่น่าห่วง

แต่เวลามีคนหน้าดำคร่ำเครียดมาบอกว่าเขามีกรรมหนัก หมอดูบอกว่าชาติก่อนทำนู่นนี่นั่น ช่วยบอกวิธีแก้กรรมที
จะแก้กรรมในอดีตชาติอย่างไร กลุ้มจนจะบ้าตายแล้ว
.... พวกจมปลักกับชาติที่แล้วนี่ เสี่ยงจะบ้า น่าห่วงกว่า

กับอีกพวก กลัวว่าตายแล้วจะไม่ได้กินนู่น นี่ นั่น
ก็เพียรพยามใส่บาตรอะไรที่อยากกินตอนตาย
หรือพอได้ยินว่าใครบอกว่าชาติหน้าจะได้อย่างนี้อย่างนั้น ถ้าทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็หลงวุ่นวายไปกับเขา กลุ้มว่าวตายแล้วจะลำบาก
.... พวกจมปลักกับหน้าที่แล้วนี่ เสี่ยงจะบ้า น่าห่วงกว่า

ผมว่างั้นนะ

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 8:22 pm

อ้างอิงจาก:

มันก็เป็นใบไม้ในผืนป่านะคับผมว่า
เป็นใบไม้ที่จัดว่าดี ถ้าใช้เป็น

คำคมจริงๆครับ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 8:28 pm

อาจารย์ครับแล้วเรื่องการค้นพบมิติที่ 4 5 และ 6 ละครับ อายหน้าแดง

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 8:54 pm

อย่าเรียกอาจารย์เลยคับ ผมรับไม่ไหว
เห็นเขาเป้นกันแล้วบ้าไปเลยก็มี ผมกลัว

เท่าที่ฟังมา
คำว่ามิติ 3 อันแรก คือ กว้างxยาวxสูง
เป็นมิติแบบ รูปธรรม/กายภาพ (Physical)

มิติที่ 4 5 6 7...1000 ก็ไม่พ้นขอบเขตของมิติทางกายภาพ
เพราะวิทยาศาสตร์เขาต้องใช้เครื่องมือตรวจวัด มีการพิสูจน์ให้ประจักษ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ถ้าไม่สามารถวัด ตรวจ ได้ ... เขาก็ไม่นับมิตินั้นว่ามีอยู่จริง

ส่วนมิติทางนามธรรม เราก็เห็นทุกวันอยู่แล้ว
เวลาเรามีอารมณ์ต่างๆ เราก้จะตกอยู่ในมิติต่างๆ
อสุรกายบ้าง เปรตบ้าง เทวดาบ้าง สัมพะเวสีบ้าง
มิติเหล่านี้ เราได้เข้าถึงทุกๆวัน วันละหลายๆมิติ

ผมว่างั้นนะ

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 10:35 pm

จุดกำเนิดแห่งจักรวาลอยู่ที่จิต อันเป็นนาม

ดังนั้นหากทดลองกันแค่ไหนก็ได้เพียงแต่ รูป

นามทั้ง 4 อันก่อเกิดรูปใหม่ นั้น ยังไม่เคยพิจารณากันเลย ก็จะไม่สามารถหาจุดเริ่มต้นได้

ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2008, 12:37 am

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

จุดกำเนิดแห่งจักรวาลอยู่ที่จิต อันเป็นนาม

ดังนั้นหากทดลองกันแค่ไหนก็ได้เพียงแต่ รูป

นามทั้ง 4 อันก่อเกิดรูปใหม่ นั้น ยังไม่เคยพิจารณากันเลย ก็จะไม่สามารถหาจุดเริ่มต้นได้

ถามหน่อยนึง

คุณกำลังจะบอกว่า วัตถทั้งหลายในจักรวาล เกิดจากจิตสร้างขึ้นหรือ
รูป เกิดจาก นาม หรือ

ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2008, 1:20 pm

คุณ คามิน ถูกต้อง สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดจากจิต

หรือ คุณคิดว่า จากอะไร ลองมาแสดงความเห็น

คุณสงสัยอะไรลอง ถามมาดีกว่า ผมจะพูดให้ฟัง