ขันธ์ - ทำสัทธรรมปฏิรูป !!!

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 2:57 pm

สืบเนื่องจากนายขันธ์ ผู้ตั้งตัวเป็นอาจารย์
คอยยัดเยียดสิ่งที่เขาเรียกว่าธรรมะ ใส่ปากชาวบ้าน

เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ โสดาบัน
แต่ข้ามขั้นเป็นอริยะ!!

อริยะ ที่สอนสวนทางกับหลงปู่มั่นโดยสิ้นเชิง
ตั้งโรงงานแปรรูปพระสัทธรรม พิมพ์ฉลาก ใส่ยี้ห้อเอง
ส่งออกพระสัทธรรมเจือยาพิษออกจำหน่าย

กระผมในฐานะ เด็กเขลา เบาปัญญา ผู้เป็นพุทธบริษัทตัวเล็กๆ
ขออาจหาญฉีกหน้ากากอริยะเก๊

นายัขนธ์แสดงสัทธรรมปฏิรูปดังนี้

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

31 สิงหาคม 2008, 9:32 pm

เรื่องจิตเดิม ก็คือ จิตบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับ เด็ก คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีความทุกข์

แต่ หากว่า จิตนั้น มีอวิชชา ครอบงำ จึงก่อให้เกิด ความหลง ความทุกข์

และ จิตเดิมนั้น บริสุทธิ์ก็จริง แต่ไม่มีปัญญา ดับและ ถอนอวิชชา จึงก่อให้เกิด ความหลงต่างๆ มากมาย

ถูกต้องแล้วครับ

ก็ให้สังเกตุดูว่า ทำไมตอนเด็ก จึงไม่ค่อยมีความทุกข์ แต่เด็กนั้นก็ไม่มีปัญญาเหมือนผู้ใหญ่ แสดงให้เห็นว่า จิตบริสุทธิ์ นั้นมีอยู่ แต่ไม่เท่าทันต่ออวิชชา หากว่า เราถอนอวิชชา คือ ไม่ปรุง ไม่คิดให้มากมาย ก็จะสามารถทำจิตให้ เข้าถึงความว่างเดี๋ยวนี้ได้

และจะไม่เหมือนเด็กตรงที่ว่า เท่าทันในอวิชชา

อริยะเก๊อย่างนายขันธ์ พอผมจับได้ว่าพูดผิด ก็ไม่สามารถชี้แจงให้เด็ดขาดได้
เขามักจะเรียกร้องให้คนอื่นพูดแต่ธรรมะ
ตรงกันข้าม ในเวลาที่ควรแสดงธรรม เขาก้แสดงตันหาแทน ดังนี้

อ้างอิงจาก:

ขันธ์ - ตอบเมื่อ: 01 กันยายน 2008, 2:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน
แก้ต่างอะไร หรือ คามิน
มีอะไรต้องแก้ต่าง ในเมื่อ ธรรมนั้นคือ ธรรมตรงๆ

ลองไปถามเพื่อนคุณ สิ ว่า ท่านพระพุทธทาสกล่าวถึงเรื่องจิตเดิมว่าอย่างไร

ส่วนคำแย้งที่ว่า เด็กนั้น ไม่ใช่จิตเดิมแท้ ก็ไม่ใช่คำแย้ง เพราะว่า มันจะเอามาปนกันไม่ได้ นี่คือคำเปรียบเทียบ

แย้งแบบนี้ มันก็เหมือน การไปแย้งคำอุปมา ว่า คางคกขึ้นวอ แล้วแย้งบอกว่า คางคกมันจะขึ้นวอได้อย่างไร หรือ กิ้งก่าได้ทอง มันจะได้ทองได้อย่างไร

คนแย้งแบบนี้มันก็ แสดงให้เห็นสติปัญญา อันแคบ มองไม่เห็นอรรถ ที่แท้จริงของเนื้อความ

ผมจะขอแก้ไปทีละเปราะ ด้วยสมองเมล็ดถั่วของผม
ดูสิว่า เมล็ดถั่ว ฉีกหน้ากากอริยะเกีจิตเภทได้อย่างไร

ที่นายขันธ์กล่าวว่า .."จิตเดิม ก็คือ จิตบริสุทธิ์ "
นั้น ผิดถนัด

หลวงปู่มั่นกล่าวไว้ว่า... " ฐีติภูตํ ได้แก่ จิตดั้งเดิม เมื่อฐีติภูตํ ประกอบไปด้วยความหลง จึงมีเครื่องต่อ กล่าวคือ อาการของอวิชชาเกิดขึ้น"

หลวงปู่ไม่ได้พูดว่า บริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์
แต่พูดชัดเจนว่า มความหลง มีอวิชชา
ใครจะอุตริคิดว่าบริสุทธิ์ ก็ตามที
แต่ผมแปลความว่า จิตเดิม...ไม่บริสุทธิ์

เอาล่ะ เมื่ออ่านบริบทอื่นๆ ของนายขันธ์
ก็ปรากฏว่า นายขันธ์ยังพอพูดถูกอยู่บ้าง แม้จะใช้คำผิด

เขาใช้ว่า "จิตเดิม ก็คือ จิตบริสุทธิ์ " แต่ก้แก้ไขเป้นว่า

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

31 สิงหาคม 2008, 9:32 pm

จิตเดิมนั้น บริสุทธิ์ก็จริง แต่ไม่มีปัญญา ดับและ ถอนอวิชชา จึงก่อให้เกิด ความหลงต่างๆ มากมาย

แม้ตะพูดอะไร ขัดๆ แก้ๆ กันเอง
ความสามารถในการเข้าใจ และใช้คำ ... คำว่า "บริสุทธิ์" นั่นบกพร่องอยู่มาก
แต่ถ้าไม่มีอคติเกินไป ก็อาจจะกล่าวได้ว่า นายขันธืพูดถูกต้อง

แต่ความถูกต้องแบบนี้ ผมก้ทำได้ แค่จำๆ ฟังๆ มา
เวลาพูดนำมาถ่ายทอดต่อ มักจะมักไม่ผิด

แม้นายขันธ์ความจำไม่ดี จำผิด จำถูก เขียนผิด เขียนถูก แก้กันไป แก้กันมาเอง

เอาล่ะ อาจจะพลาดเรื่องภาษา เราพอเข้าใจได้

แต่หาเป้นเช่นนั้นไม่ครับ

นายขันธ์ยังอุตริ ยกตัวอย่าง
ลำพังพูดแค่สุตมัยปัญญาแล้ว ฟังมาพูดไป คงจะเขวี้ยงงูได้พ้นคอ
แต่เริ่มแสดงจินตมัยปัญญาอันวิปลาสคลาดเคลื่อน
จึงพลาด

เขาพลาดที่ไปเปรียบเทียบ จิตเดิม ว่าเหมือนเด็ก และไม่ได้มีความทุกข์

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

เรื่องจิตเดิม ก็คือ จิตบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับ เด็ก คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีความทุกข์
....
...

ก็ให้สังเกตุดูว่า ทำไมตอนเด็ก จึงไม่ค่อยมีความทุกข์
แต่เด็กนั้นก็ไม่มีปัญญาเหมือนผู้ใหญ่

แสดงให้เห็นว่า จิตบริสุทธิ์ นั้นมีอยู่ แต่ไม่เท่าทันต่ออวิชชา
หากว่า เราถอนอวิชชา คือ ไม่ปรุง ไม่คิดให้มากมาย ก็จะสามารถทำจิตให้ เข้าถึงความว่างเดี๋ยวนี้ได้
และจะไม่เหมือนเด็กตรงที่ว่า เท่าทันในอวิชชา

นายขันธ์ อุตส่าห์ตั้งชื่อว่า ขันธ์
อวดโอ้สอนคนเรื่องขันธ์มากมาย ประหนึ่งว่าแตกฉาน
แถมสำทับเสมอว่าตนเป้นอริยะเจ้า
กลับบอกว่า ....

"เด็กไม่มีความทุกข์"
"จิตเด็ก บริสุทธิ์"

หากจิตเด้กไม่มีความทุกข์ ทำไมมันแหกปากง่ายๆล่ะครับ
อะไรทำให้มันแหกปาก อะไรทำให้มันร้องไห้ง่ายๆ ดีใจง่ายๆ อะไรทำให้มันสนใจสิ่งต่างๆอย่างกับสัมพะเวสีที่เบลอๆตามอารมณ์ที่ชอบไป
ขันธ์ มันทำหน้าที่อย่างไร ในคำกล่าวเหล่านี้ล่ะคับ นายขันธ์?

หากจิตบริสุทธิ์ แต่กำเนิด มันก็นิพพานตั้งแต่เกิดแล้วสิครับ
ที่จริง มันต้องไม่เกิดต่างหาก "หากจิตเดิมนั้นบริสุทธิ์"

หลวงปู่มั่นพูดชัดเจน ว่า "ฐีติภูตํ เป็นตัวการดั้งเดิมของสังสารวัฏฏ์" (การเวียนว่ายตายเกิด)

จิตเดิม คือ จิตอันมีความหลงเป็นเชื้อ จึงเกิดอวิชชา จึงเกิดชาติภพ
มันบริสุทธิ์ตรงไหน มันไม่มีความทุกข์ตรงไหน?

สรุปนะครับ ตอนคุณพูดอภิธรรม ผมคิดว่าคุณแค่ใช้คำผิด ใช้คำว่าบริสุทธิ์ไม่ถูก

แต่พอตอนคุณประยุกต์ใส่ตัวอย่าง
มันย้ำว่าคุณไม่ได้พลาดในการพูด แต่คุณเข้าใจผิดจริงๆ เลยพูดผิด

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:14 pm

แทนที่นายขันแตก ผู้อ้างตนเป้นอริยะเจ้า
จะสำนึก ต่อการเรียกร้องของผม ที่ให้แก้ไขให้ถูก
สอนผิดๆ มันบาป แต่นายขันธ์กลับตอบว่า

อ้างอิงจาก:

ขันธ์ - ตอบเมื่อ: 01 กันยายน 2008, 2:21 pm

แก้ต่างอะไร หรือ คามิน
มีอะไรต้องแก้ต่าง ในเมื่อ ธรรมนั้นคือ ธรรมตรงๆ

- ตรงมากครับ ใช้คำว่า จิตบริสุทธิ์ แต่ดันมีอวิชชา
ตกลงมันบริสุทธิ์ยังไงกันครับ
บริสุทธิ์มาตรฐานไหน

แต่ผมว่า ที่ "ตรงๆ" ไม่ใช่ "ธรรม" หรอก
แต่เป้นการปล่อยไก่ตรงๆ ตัวเบ้อเร่อของคุณต่างหากคับ

ไม่พอ ยังไปแขวะท่านพุทธทาสอีก ด่าพระอีก
เขาทำดีไม่ยินดี ยังไปด่าเขาอีก
นี่แหละคนไม่เคยมีเมตตาธรรมในหัวใจ

อ้างอิงจาก:

ขันธ์ - ตอบเมื่อ: 01 กันยายน 2008, 2:21 pm
ลองไปถามเพื่อนคุณ สิ ว่า ท่านพระพุทธทาสกล่าวถึงเรื่องจิตเดิมว่าอย่างไร

ไม่พอครับ ยังข้างๆคูต่อไปว่า

อ้างอิงจาก:

ขันธ์ - ตอบเมื่อ: 01 กันยายน 2008, 2:21 pm

ส่วนคำแย้งที่ว่า เด็กนั้น ไม่ใช่จิตเดิมแท้ ก็ไม่ใช่คำแย้ง เพราะว่า มันจะเอามาปนกันไม่ได้ นี่คือคำเปรียบเทียบ

แย้งแบบนี้ มันก็เหมือน การไปแย้งคำอุปมา ว่า คางคกขึ้นวอ แล้วแย้งบอกว่า คางคกมันจะขึ้นวอได้อย่างไร หรือ กิ้งก่าได้ทอง มันจะได้ทองได้อย่างไร

ก็ช่วยอธิบายสิครับ
หัดพูดให้มัน "ตรงๆ" เสียที

จะเปรียบเทียบอะไร ทำไมมันขัดกันไป ขัดกันมา
ยังจะมาบอกว่า "ตรงๆ" อีก

คนรู้จริง เขาย่อหนังสือเป็นเล่มๆ ลงมาเหลือ 3 คำได้ ไม่กลัวผิด
แต่คนขี้โอ่ คำแค่ 3 คำ ก็อธิบาย 3 วันก็ไม่จบ

หัดเป็นคนพูดให้รู้เรื่องสิครับ
ตัวเองพูดชัดเจนว่า เด็กมีจิตบริสุทธิ์ ไม่มีความทุกข์
แถมบอกว่าผู้ใหญ่ไม่เหมือนเด็ก ตรงที่เท่าทันอวิชชา
ไม่จริงครับ ทั้งเด้ ทั้งผู้ใหญ่ ไม่มีใครรู้เท่าทันอวิชชาสักคน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

31 สิงหาคม 2008, 9:32 pm
.... ก็ให้สังเกตุดูว่า ทำไมตอนเด็ก จึงไม่ค่อยมีความทุกข์ แต่เด็กนั้นก็ไม่มีปัญญาเหมือนผู้ใหญ่ แสดงให้เห็นว่า จิตบริสุทธิ์ นั้นมีอยู่ แต่ไม่เท่าทันต่ออวิชชา หากว่า เราถอนอวิชชา คือ ไม่ปรุง ไม่คิดให้มากมาย ก็จะสามารถทำจิตให้ เข้าถึงความว่างเดี๋ยวนี้ได้
และจะไม่เหมือนเด็กตรงที่ว่า เท่าทันในอวิชชา

- มันจะไม่ค่อย มีความทุกข์ได้ยังไงครับ
เด็กน่ะ ทุกข์ยิ่งกว่าผู้ใหญ่ ผัสสะอ่อนยิ่งกว่าผู้ใหญ่
อะไรกระทบก็แหกปากทันที หัวเราะทันที

เด็กมีความทุกข์เหมือนผู้ใหญ่ทุกประการ
เพียงแต่เขาไม่มี สุตตมัยปัญญา และ จินตมัยยปัญญา
เพราะยังไม่เติบโต

แต่พวกโตแล้ว ก็มีความทุกข์จากการปรุง สิ่งที่กระทบผัสสะ ไม่ต่างกันเลย
พวกโตแล้วแค่มีความสามารถในการใช้ความคิด ใช้สุตตมัยปัญญา และ จินตมัยยปัญญา
ในการใช้ความคิดเพื่อเจริญสมถะ ให้จิตใจสงบ
พวกเขาแค่กดข่ม บังคับ ความทุกข์ เท่านั้นเอง

แล้วที่พูดไปว่า ผุ้ใหญ่ เท่าทันอวิชชาน่ะ อายปากไหม

ทั้งเด็ก ทั้งผุ้ใหญ่ ไม่มี ภาวนามัยปัญญา
หรือพุทธิปัญญา
ซึ่งเป็นปัญญาประเภทเดียวที่จะทำให้ไม่มีทุกข์

ทั้งหมดนี่ สอ-ออ-นอ- สอน นะขันธ์
กราบผมเป็นอาจารย์แล้วผมจะสอนอีก
คราวนี้จะได้กระแทกกิเลสให้ จะกระแทกที่หน้าผากเลยล่ะ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:31 pm

คุณ guest พิมพ์ว่า

อ้างอิงจาก:

ผมเห็นด้วยกับคุณ คามินธรรม
เด็กก็มีกิเลสเต็มหัวใจเด็กเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ขันธ์ ๕ ของเด็กยังไม่สมบูรณ์
จึงแสดงออกได้เท่าที่เห็น

ขันแตก จอมแดกดัน ตอบว่า

อ้างอิงจาก:

พูดออกมาแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ภูมิธรรมยังไม่เห็นปรมัตเลยว่า

จิตเดิมนั้นเป็นอย่างไร ลำพังเกิดมาเป็นมนุษย์มันก็มีกิเลสดองอยู่แล้ว

เรียกว่า อวิชชาดองอยู่ กิเลสนี้ เกิดเมื่อ มีสิ่งมากระทบ อยู่เฉยๆ มันมีกิเลสขึ้นหรือ

อย่าแสดงความไม่รู้ออกมาอีกเลย guest คุณยังเขลาอยู่มาก

ไอ้ที่ตอบมานี่ ไม่ผิดหรอก แต่ตอบผิดที่ ผิดเวลา ผิดประเด็น
ไปไหนมา สามวา สองศอก

ผมว่า คุณขันกะลา
ไปหัดเขียน หัดอ่าน หัดเรียน หนังสือใหม่ดีกว่านะคับ
แก่แล้วมันเสื่อมลง เห้นใจ

ไม่งั้น นิสัย ฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจับไปกระเดียด
มันจะทำให้คิดผิดๆ แล้วพูดผิดๆ แล้วก้ทำผิดๆ อีก

อย่าแสดงความไม่รู้ออกมาอีกเลย ขันแหกแหวกตลาด
คุณยังเขลาอยู่มาก

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:44 pm

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 4:32 pm

ดัน

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 4:47 pm

เป็นเอามาก คามิน ดัน

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:00 pm

ตอบไม่ได้ล่ะสิ ดันให้คุณเห็นนั่นแหละ
ตายาวๆ มันจะได้เห็นง่ายๆ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:22 pm

ตอบไม่ได้ อะไรหรือ คามิน มันเห็นแล้วไม่รู้จะตอบอะไร
อยากรู้ อยากให้ตอบต้องพูดจาดีๆ ก่อน แล้วจะตอบแก้ต่าง ข้างบนทุกอย่าง
ใบ้ให้นิดหนึ่ง

ปุถุชน คนหนายังไม่เข้าใจ กระบวนการของจิต ที่เกิดดับ จึงเหมาเอาว่า จิตไม่บริสุทธิ นั้นถาวร คือ มีอวิชชากิเลสตัณหาติดอยู่ในจิตตลอด แบบนี้เนื่องจาก สักกายทิฎฐิ ไม่ขาด จึงไม่อาจจะเห็น ความบริสุทธิ์ของจิตตนได้ ก็จะเหมาเอาว่า จิตบริสุทธ์นั้น เที่ยง

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:35 pm

ไม่จำเป้นหรอก ไม่แก้ก็เรื่องของคุณ

คนขายขี้หน้าคือคุณเอง

ที่ปล่อยให้นกแก้วนกขุนทองแบบผม
สามารถฉีกหน้ากากอริยะเก๊ได้ง่ายๆ

พูดไปเถอะ ยิ่งพูดมันยิ่งยุ่งเหมือนเอาด้ายมาขยำๆ

คนรู้จริง เขาพูดให้ง่ายได้ ฟันธงเหลือสองสามคำได้

คนอย่างคุณมันแค่ชายประมาทที่หลอกขายตัวบ้าไปวันๆ

เวลาด่าเขา ไม่บอกให้ตัวเองเงียบ
พอตัวเองจนมุม สู้ไม่ไหวก็บอกเขาเงียบ

กราบผมเป้นอาจารย์ก่อนสิ แล้วผมจะสงเคาระห์สั่งสอนให้พ้นจากความเป้นชายแก่ผู้ประมาท

ผมใบ้ให้นิดนึง เอากระบวยตักน้ำขึ้นมารดหัวตัวเอง แล้วชะโงกดูในเงาน้ำ จะเห้นเครื่องผลิตตันหาเครื่องเหี่ยวๆ เบ้อเร่อๆ เลย

อย่าพูดต่อเลย คุณยังเขลาอยู่มาก โง่จริงๆ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:40 pm

คนขายหน้าคือผม หรือ ถ้าผมพูดธรรมไปแล้วขายหน้า ก็ไม่เป็นไร
ดีกว่าพูดจามีแต่ด่าเป็น แบบนี้ มันยังไม่อายแล้วผมจะไปอายทำไมหละ

และที่สำคัญคือ ธรรมนั้นไม่มีอะไรผิดพลาดเลย ใบ้ให้แล้วก็ไปศึกษาเอาเองให้ดี แล้วค่อยมาบอกว่า กระชากหน้ากาก

มันเหมือนกับ ผู้ใหญ่เขียนสมการ เครื่องหมายจุด แทนการคูณ เด็กมันก็เถียงเป็นเถียงตายว่า กระชากหน้ากากของผู้ใหญ่คนนี้ได้แล้ว เขียนเครื่องหมายจุด ไม่ได้หมายถึงการคุณ มันหมายถึง จุดทศนิยม

แบบนี้ใครน่า ขายหน้าหละ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:43 pm

จำเอาไว้ ความรู้เท่าหางอึ่งอย่าทะลึ่งเถียงนักปราชญ์

อย่าเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หรือ อย่าสอนหนังสือสังฆราช อย่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ

จำคำเหล่านี้เอาไว้ให้ดีนะ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:44 pm

จำเอาไว้ ความรู้เท่าหางอึ่งอย่าทะลึ่งเถียงนักปราชญ์

อย่าเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หรือ อย่าสอนหนังสือสังฆราช อย่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ

จำคำเหล่านี้เอาไว้ให้ดีนะ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:47 pm

โอย ผมรู้เช่นเห้นชาติคุณมานานแล้ว

สันดานคุณมันก็แอ๊คท่าว่ารู้ไปวันๆ

ทำท่าทรนงตัวว่ารู้ ข้ารู้ ข้าเห้น
สักแต่ว่า "กูรู้ แต่กูไม่บอก พวกมึงโง่เอง"

แต่พอบอกให้สอน ให้พูด ให้อธิบาย ก้ทำไม่ได้
วกไปวนมา หาแง่ หาเงื่อนไขไปวันๆ

นิสัยแบบนี้ เป็นครูอาจารย์ไม่ได้หรอกนะ
เพราะมันขาดสิ่งที่เรียกว่าเมตตา

นี่ สอนนะ
จำเอาไว้ ความรู้เท่าหางอึ่งอย่าทะลึ่งเถียงนักปราชญ์

อย่าเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หรือ อย่าสอนหนังสือสังฆราช อย่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ

จำคำเหล่านี้เอาไว้ให้ดีนะ

แล้วอย่าเที่ยวไปยุ่งกับใคร
หัดดูจิตดุใจตัวเอง เวลามันจะสะเหร่อเรื่องชาวบ้าน

เกิดมาไม่เคยเจอ ทั้งโง่ ทั้งบ้า ทั้งบอด
ถ้ามันอยู่เงียบๆ คงไม่เป็นไร
แต่มันดันคิดว่ามันเป็นพระอริยะ เที่ยวสั่งสอนสัทธรรมปฏิรูปกับชาวบ้าน

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 9:29 pm

มีอะไรอีก จะเเสดงความโง่ก็รีบเเสดงมา

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 7:10 am

ขันธ์

คุณนี่มันมั่วสุด ๆ

ผมบอกได้เลยคุณไปอ่านธรรมะพระปฏิบัติแล้วเอามาพูดเป็นเรื่องเป็นราว

ที่แท้ก็หนอนแทะกระดาษ

บอกตรง ๆ ดีไม่ดีคุณยังไม่รู้เลยว่าสมาธิจริง ๆ เป็นยังไง
เพราะฉนั้นไม่ต้องพูดถึงปัญญาหรอก

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 9:23 am

อ้างอิงจาก:

ขันธ์

คุณนี่มันมั่วสุด ๆ

ผมบอกได้เลยคุณไปอ่านธรรมะพระปฏิบัติแล้วเอามาพูดเป็นเรื่องเป็นราว

ที่แท้ก็หนอนแทะกระดาษ

บอกตรง ๆ ดีไม่ดีคุณยังไม่รู้เลยว่าสมาธิจริง ๆ เป็นยังไง
เพราะฉนั้นไม่ต้องพูดถึงปัญญาหรอก

คุณ จะว่า มั่ว ก็เรื่องของคุณ
อย่างน้อย ผมก็ไม่เคย ตามกระแส ใคร
และผมพิจารณาธรรม ไม่ใช่ว่า พอมีอะไรกระทบตนแล้ว เกลียดชังคนอื่นอย่างไม่พิจารณา

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:27 am

คุณ ขันธ์

ผมเกลียดคุณที่ตรงไหน

ผมมีแต่เมตตาคุณเท่านั้น

ส่วนการแสดงความเห็นก็เป็นเรื่องธรรมดา
ผมก็แสดงไปตามความเห็นของผม

ผมก็แสดงความเห็นตามสิทธิของผม
คุณจะไปถือสีถือสาผมทำไมให้มาก
มันก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา
ทีคุณยังกระทบกระทั่งผมเลย

เรื่องเล็กน่า.....คุณขันธ์

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:40 am

อ้างอิงจาก:

ผมเกลียดคุณที่ตรงไหน

ผมมีแต่เมตตาคุณเท่านั้น

ส่วนการแสดงความเห็นก็เป็นเรื่องธรรมดา
ผมก็แสดงไปตามความเห็นของผม

ผมก็แสดงความเห็นตามสิทธิของผม
คุณจะไปถือสีถือสาผมทำไมให้มาก
มันก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา
ทีคุณยังกระทบกระทั่งผมเลย

เรื่องเล็กน่า.....คุณขันธ์

เรื่องเล็กไง คุณ guest ใครว่าเรื่องใหญ่หละ

คุณ แสดงความเห็นตามสิทธิของคุณ ที่เน้นมาที่ตัวผมโดยตรง ในกระทู้ที่มีชื่อว่า ขันธ์ทำสัทธรรมปฏิรูป และ คุณบอกว่า ขันธ์ มั่วจริงๆ
นี่คือ การตบหัวแล้วลูปหลังหรือ

คุณอย่าเอากรณีผมที่ พูดธรรมให้กับ คามึนฟัง นั่นผมไม่ได้เอ่ยชื่อหรือตำหนิ แต่คือ ธรรม ว่า ไม่ควรไปตำหนิคนอื่น ว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ในขณะที่ตัวเองยังทำไม่ได้ดีเท่าเขา

แต่นี่คุณกำลังด่าผม ในกระทู้ที่ตั้งขึ้นเพื่อด่า

คุณ guest คุณควรอยู่เฉยๆ ดีกว่า

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:49 am

โอยๆๆๆ

เอาเท้อ ขันธ์เอ๊ย
มีความสุขก็ทำไป ตามสบาย

แต่อย่าลืมว่าแก่แล้ว ใกล้ฝั่งแล้ว
กิจควรทำให้รีบทำ
อย่ามามัวทำกิจอันไม่ควร

ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 10:51 am

อ้างอิงจาก:

พูดออกมาแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ภูมิธรรมยังไม่เห็นปรมัตเลยว่า

จิตเดิมนั้นเป็นอย่างไร ลำพังเกิดมาเป็นมนุษย์มันก็มีกิเลสดองอยู่แล้ว

เรียกว่า อวิชชาดองอยู่ กิเลสนี้ เกิดเมื่อ มีสิ่งมากระทบ อยู่เฉยๆ มันมีกิเลสขึ้นหรือ

อย่าแสดงความไม่รู้ออกมาอีกเลย guest คุณยังเขลาอยู่มาก

==================================

คุณ ขันธ์

ข้างบนนี้ใครกล่าวล่ะ

ผมก็ใช้สิทธิพาดพิง เป็นธรรมดา

เรื่องเล็กน่า....