Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ใครทำใครได้ ทำมากได้มาก ทั้งดีทั้งชั่ว
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ทัพหลวง
บัวเริ่มพ้นน้ำ
เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 161
ตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 7:29 am
ใครทำใครได้ ทำมากได้มาก ทั้งดีทั้งชั่ว
อำนาจกรรม
กรรมดี กรรมชั่ว จะคอยติดตามบุคคลผู้กระทำนั้นอยู่ เสมือนเงาตามตัว การที่มองไม่เห็นกรรมนั้น ก็เพราะมัวดำเนินชีวิตอยู่ในทางที่ชั่วหรือจะเรียกว่า ในที่มืด บุคคลทั้งหลายจึงไม่เห็นเงาของตัวเอง แต่ถ้าเมื่อใดถูกแสงสว่าง เขาก็จะมองเห็นเงาของตนทุกครั้งไป
ตามความเป็นจริงแล้ว กรรม จะให้ผลติดเมื่อสุกงอมเต็มที่ มีระยะฟักตัวตามสมควรจึงเห็นได้ยาก ชีวิตมนุษย์มีเวลาน้อยนิดไม่พอแก่การพิสูจน์กรรมให้ตลอดได้ หากบุคคลทำกรรมได้ผลทันทีทันใด ใครเล่าจะกล้าทำชั่ว อย่างไรก็ตามกรรมนั้นจะคอยเวลาและโอกาสอยู่ เหมือนบุรุษและสตรีผู้ร่วมอยู่กินฉันสามีภรรยาแล้ว ต่อมา 3 4 เดือน มารดาบิดาของหมู่ญาติแม้กระทั่งสามี จึงจะเห็นว่าสตรีนั้นมีครรภ์ ไม่ใช่ว่าสตรีนั้นมีครรภ์ ( ปฏิสนธิ ) ในเวลากลางคืน พอรุ่งเช้าครรภ์จะปรากฏแก่คนทั้งหลายได้ หรือเมื่อตั้งครรภ์ในคืนนั้น รุ่งขึ้นจะคลอดก็หาไม่ ต้องถึงเวลาอันสมควร การให้ผลของกรรมนั้นบางอย่างต้องใช้เวลาเป็นพัน ๆ ปี ถึงแม้จะนานมากแค่ไหน กรรมก็สามารถหาตัวบุคคลผู้ทำได้ถูกต้องเสมอเหมือนฝูงโคที่อยู่รวมกันมาก แม่โคก็สามารถหาลูกโคของมันได้พบ
การกระทำดี เป็นหน้าที่ของผู้รักดี
แต่การให้ผลดี เป็นหน้าที่ของกรรม
บุคคลไม่สามารถเร่งเร้าได้เลยเสมือนการไถคราดและหว่าน เป็นหน้าที่ของชาวนา ส่วนการออกรวงเป็นหน้าที่ของต้นข้าว
ถ้าจะถามว่ากรรมดี ลบล้างกันได้ไหม ?
คำถามนั้นยากไปที่จะอธิบาย แต่ขอใช้คำว่า ละลาย ง่ายกว่า เช่น เกลือเป็นต้น การละลายนั้นเราเรียกว่า อัพโพหาริก
ถ้าจะถามว่าบาปบุญที่ทำแล้ว เมื่อยังไม่ให้ผล บาปบุญนั้นไปอยู่เสียที่ไหน
บาปบุญนั้นก็คอยติดตามผู้ทำอยู่ เช่น มะม่วงนอกฤดูกาลลูกมะม่วงมีผลไหม? คือไม่มี พอถึงปีหน้ามันก็จะมีผลมาอีก
ถามว่าเวลานี้ซึ่งผลมันจะมีในปีหน้านั้น ตอนนี้มันเก็บอยู่ที่ไหน?
มะม่วงกับผลมะม่วงเป็นอย่างฉันใด เรื่อง ผู้ทำกรรมกับกรรม ก็เป็น ฉันนั้น
กรรมดีกับกรรมชั่วไม่ได้ให้ผลเพียงครั้งเดียวจะส่งผลอยู่เสมอๆ จนกว่าหมดฤทธิ์หมดแรงไป เสมือนต้นมะม่วงที่แก่ ในที่สุดก็ล้มตายไป แล้วเมื่อไหร่กรรมจะหยุดการให้ผล?
กรรมจะหยุดการให้ผล ด้วยเหตุ ๓ ประการ
๑. เมื่อหมดแรง
คือ ให้ผลจนสมควรแล้วแก่เหตุ จึงหยุดให้ผลเหมือนนักโทษที่ถูกจำคุกตามความหนักเบาเช่น จำคุก ๒ ปี เมื่อพ้น ๒ ปี ก็พ้นโทษ บางคนโทษหนักจำคุกตลอดชีวิต แต่ระหว่าง อยู่ในคุกก็พยายาม ทำความดีได้ลด หย่อนผ่อน โทษ อาจลดเหลือ ๒๐ ปี แล้วแต่กรณี เรื่องของกรรมก็ทำนองนี้
๒. เมื่อสิ้นอาสวะ
กล่าวคือบุคคลได้ทำกรรมมาแล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์สิ้นอาสวะทั้งปวง ไม่เกิดอีกมีชีวิตอยู่เป็นชาติสุดท้าย กรรมย่อมหมดโอกาสให้ผลต่อไปในชาติหน้า จิตของพระอรหันต์ย่อมหมดเชื้อ เสมือนเมล็ดสิ้นยางเหนียวหรือเมล็ดลีบปลูกไม่ขึ้นอีกต่อไป กรรมจะให้ผลได้เฉพาะเวลามีชีพอยู่เท่านั้น ในชาติสุดท้ายพระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลายเป็นผู้ได้กระทำดี ถึงที่สุด เหมือนเมล็ดพืชที่ดีที่สุดนั่นเอง
ทำไมเมล็ดพืชที่ดีที่สุดจึงหยุดการให้ผลหรือหยุดการสืบพันธุ์
ผลมะม่วงที่ดีนั้นมีเนื้อมากเมล็ดเล็ก คือถึงขีดแห่งความเจริญเต็มที่ เนื้อมากที่สุดแต่เมล็ดลีบใช่ไหม เมล็ดลีบจะเอาไปปลูกอีกก็ไม่ขึ้น คนก็ทำนองเดียวกันเมื่อเจริญคุณธรรมอย่างเต็มที่ถึงขีดสุดก็พรั่งพร้อม ไปด้วยความดีอย่างเต็มที่ ปราศจากกิเลสและสิ่งชั่วต่าง ๆ เหมือนมะม่วงที่อุดมไปด้วยเนื้อ เมล็ดจะลีบเพราะปลูกไม่ได้ เช่นเดียวกัน กรรมก็ไม่อาจให้ผลได้เช่นกัน
๓. เมื่อมีกรรมอื่นมาแทรก กรรมจะหยุดให้ผล
เมื่อมีกรรมอื่นแทรกซ้อนเข้ามาเป็นครั้งคราว เช่น เมื่อบุคคลนั้นกำลังทำกรรมชั่วแรง ๆ เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้กรรมชั่วให้ผลก่อน กรรมดีที่กำลังจะส่งก็หยุดส่งผลในช่วงนั้น ในทางตรงข้าม เมื่อบุคคลนั้นกำลังทำกรรมดีแรง ๆ ก็เปิดโอกาสให้กรรมดีส่งผลก่อน กรรมชั่วที่กำลังจะส่งผลในขณะนั้นก็หยุดส่งผลเช่นกัน
http://geocities.com/virunha/index.htm
chill
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 22 ก.พ. 2008
ตอบ: 85
ตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2008, 8:47 pm
อนุโมทนานะคะ
_________________
มีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี..
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 10:53 pm
สาธุค่ะ...คุณทัพหลวง
ธรรมะสวัสดีค่ะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th