Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 แสงสีเขียวปรากฏ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
i
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 18 ส.ค. 2008
ตอบ: 6

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 1:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราพยายามนั่งสมาธิ มีอยู่วันนึง มองไปที่รูปภาพข้างฝาผนัง ปรากฏว่าเห็นแสงสีเขียวสว่าง วาบ ๆ อยู่อย่างนั้นประมาณ 2 นาท กระพริบตาแล้วมองไปที่เดิมก็ยังเห็นอยู่ สงสัยว่าเป็นอะไร ใครรู้ช่วยตอบทีค่ะ ขอบคุณ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 1:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

น่าจะเป็นมารครับ มาหลอกล่อให้เราหลง
ไม่ควรสนใจครับ ยิ้ม
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 1:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นนิมิต แสดงว่าจิตเริ่มๆ เป็นสมาธิบ้างแล้ว

จะเป็นสีอะไรก็ช่าง เห็น กำหนดตามที่เห็น "เห็นหนอๆๆๆ" กำหนดรู้

ตามนั้นปล่อยอารมณ์นั้น

แล้วดึงสติมาบริกรรมภาวนากรรมฐานที่ใช้ต่อไป

วิธีแก้เท่านี้ ยิ้ม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 3:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนถามท่านกรัชกาย

ลักษณะนี้คือ

อุคคหนิมิตรใช่ไหมครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 4:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลองมองไฟนีออน สัก 1 นาที
แล้วมองไปที่อื่นดู
เขียวเป้นดวงเลยล่ะ

มันเป้นปรากฏการณ์ของร่างกายตามธรรมดานะผมว่า
เรื่องของเซลรับแสงที่มันยังปรับตัวกลับมาไม่ทัน

ทิศทางที่มองไป มีหลอดไฟไม๊?

ผมเป็นประจำ เวลามองแสงนีออน
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 4:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณคามินธรรม

คนละอย่างกับภาพที่อยู่บนจอภาพในดวงตาครับ

ที่ผมประสบเป็นแสงสว่างเวลาหลับตา

ก็รู้ครับว่าสร้างขึ้นเองโดยไม่ตั้งใจ

แต่เหมือนจริงมากครับ

เมือเกิดขึ้นแล้วต้องพยายามประคองไว้

ด้วยวิธีกำหนดว่ารู้เฉยๆ

พอจิตสั่นนิดเดียวก็หายไปแล้ว

แต่แปลกครับ

ลักษณะนี้เกิดขึ้นจิตไม่สงบนิ่งเท่ากับ

ความสงบของจิตที่เกิดขึ้นเองทั้งที่ยังลื่มตาและไม่ได้ตั้งใจ

สงบนิ่ง สุขสบาย ปลอดโปร่ง เหมือนลอยอยู่

อันนี้เกิดแล้วอยู่นานหน่อย

บางครั้งอยู่ดีๆก็เกิดอาการตริตรึงอยู้กับบางสิ่งบางอย่างเหมือนเหม่อแต่ไม่ใช่

คือจิตมุ่งจรดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น

ทั้งวัน

หรือหลายๆวันติดต่อกัน

เลยกลายเป็นกระทู้ซ้อนกระทู้

ขออภัยท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

คิดเสียว่าเม้าท์กันน่ะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 4:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
คิดเสียว่าเม้าท์กันน่ะครับ


มี "เม้าท์" ด้วยนะเดี๋ยวนี้
5555 ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน สาธุ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 5:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

(คุณ mes เปิดหนังสือพุทธธรรมหน้า 857 ก็จะเห็นนิมิต 3 กับภาวนา 3
ซึ่งเป็นชุดของมัน)

คัดมาเท่าที่กระทู้ถามและสงสัยกันดังนี้


นิมิต คือ เครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนด หรือ ภาพที่เห็นในใจซึ่งเป็น
ตัวแทนของสิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์กรรมฐาน แบ่งเป็น 3 อย่างตามลำดับความเจริญ คือ

1. บริกรรมนิมิต แปลว่า นิมิตขั้นเตรียมหรือเริ่มต้น ได้แก่ สิ่งใดก็ตามที่
กำหนดเป็นอารมณ์ในการเจริญกรรมฐาน เช่น ดวงกสิณที่เพ่งดู
ลมหายใจที่กำหนด หรือพุทธคุณที่กำหนดนึกเป็นอารมณ์ว่าอยู่ในใจ เป็นต้น

2. อุคคหนิมิต แปลว่า นิมิตที่ใจเรียนหรือนิมิตติดตา ได้แก่ บริกรรม
นิมิตนั่นเอง ที่เพ่งหรือนึกกำหนดจนเห็นแม่นยำกลายเป็นภาพติดตาติด
ใจ เช่น ดวงกสิณที่เพ่งจนตาหลับตามองเห็น เป็นต้น

3. ปฏิภาคนิมิต แปลว่า นิมิตเสมือน นิมิตคู่เปรียบ หรือนิมิตเทียบ
เคียง ได้แก่ นิมิตที่เป็นภาพเหมือนของอุคคหนิมิต แต่ติดลึกเข้าไป
อีกจนเป็นภาพที่เกิดจากสัญญาของผู้ที่ได้สมาธิ จึงบริสุทธิ์จนปราศจาก
สี เป็นต้น และไม่มีมลทินใดๆ ทั้งสามารถนึกขยายหรือย่อส่วน
ได้ตามปรารถนา

นิมิตสองอย่างแรก คือ บริกรรมนิมิต และอุคคหนิมิต ได้ทั่วไปใน
กรรมฐานทุกอย่าง
แต่ปฏิภาคนิมิตได้เฉพาะในกรรมฐาน 22 อย่างที่มีวัตถุสำหรับเพ่งคือ
กสิณ 10 อสุภะ 10 กายคตาสติ และอานาปานสติเท่านั้น
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 5:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:

เราพยายามนั่งสมาธิ มีอยู่วันนึง มองไปที่รูปภาพข้างฝาผนัง ปรากฏว่า
เห็นแสงสีเขียวสว่าง วาบ ๆ อยู่อย่างนั้นประมาณ 2 นาท กระพริบตาแล้ว
มองไปที่เดิมก็ยังเห็นอยู่ สงสัยว่าเป็นอะไร ใครรู้ช่วยตอบทีค่ะ ขอบคุณ



อ้าว...เพิ่งดูโดยละเอียด ข้ามข้อความนี้ => มองไป

ที่รูปภาพข้างฝาผนัง


คุณไอครับ ตอนคุณนั่งทำสมาธิเห็นไหม

ทำสมาธิมานานหรือยัง คุณใช้กรรมฐานอะไรครับ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
จักรวัฏ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ส.ค. 2008
ตอบ: 88
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 5:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครับคุณI ที่คุณกรัชกายได้ถามไว้ ไม่ทราบนั่งสมาธิ ใช้กรรมฐานอะไร ฝึกนานหรือยังครับ........ ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 10:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสัย มัวแต่เม้าท์แตก กันน้อ ยิ้มเห็นฟัน สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
i
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 18 ส.ค. 2008
ตอบ: 6

ตอบตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 11:12 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอนนั่งสมาธิหลับตาค่ะ ไม่เห็นแสงสีเขียวหรอก
แต่เห็นแสงสีเขียวตอนที่ลืมตาอยู่ปกตินี่แหล่ะ
เจอแบบนี้ 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกก็เฉย ๆ คิดว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญ
ครั้งแรกที่เห็นก็ลืมตานะคะ มีสติดีทุกอย่าง
ปกติใช้คำภาวนาว่าพุทโธ หรือไม่ก็แค่ดูลมหายใจเฉย ๆ เงียบ ๆ ไม่ภาวนาอะไร อ้อ ไม่ได้มองดูหลอดไฟอะไรหรอกค่ะ เจอตอนกลางวัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 11:34 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นนิมิตตามข้อ 2 นั่นแหละครับ

ต่อไปเห็นอีกกำหนดในใจ "เห็นหนอๆๆ" เสีย จิตก็ไม่ยึดไม่ติด

ไม่สงสัยอีกต่อไป หรือ "เห็นๆๆ" สั้นๆ ก็ได้

สาธุครับ ฝึกต่อไป ไม่มีอะไรหรอกครับ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 21 ส.ค. 2008, 10:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มันเป็นอนิจจังครับ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง