Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
สารจากยมบาล
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
JARUWAN_G
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 15 ส.ค. 2008
ตอบ: 72
ที่อยู่ (จังหวัด): นนทบุรี
ตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 8:26 am
ผู้คนอย่าดูเพียงชาตินี้ชาติเดียว
ควรพิจารณาว่ากฎแห่งกรรมนั้นมีจริง ผลที่รับในชาตินี้สืบเนื่องจากการกระทำในชาติก่อน ดังนั้นผู้ที่ยากจน หรือมีโรคมากก็จงอย่าโทษฟ้าดินหรือคนอื่น ควรรีบสร้างบุญสร้างกุศล ผู้ที่มีบุญวาสนาก็ยิ่งต้องรักบุญกุศล สะสมบุญบารมีอีก มิฉะนั้นพอหมดบุญลง เคราะห์กรรมมาถึงก็จะได้ลิ้มรสผลชั่วของตนเอง
ตลอดชีวิตของคน ตอนที่ใกล้จะตายให้สังเกตอวัยวะทั้งห้าว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรร่างกายแข็งทือหรืออ่อนนิ่ม ใบหน้าปกติหรือไม่ จะได้รู้ว่าผู้ตายจะไปสู่สุคติหรือลงสู่ขุมนรก ให้พิจารณาดูดังนี้ :
1. ตอนตายใหม่ๆ ถ้าหากหน้าตาปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ก็เนื่องจากได้บรรลุธรรมดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
2. ตอนตายใหม่ๆ ถ้าหากร่างกายแข็งทือ หน้าตาซีดเผือดเหมือนคนตกใจ นั่นแสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
3. ถ้าตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัวเพราะความตกใจกลัว ทำให้เนื้อกายเปลี่ยนไป ชึ่งเรียกว่าเปลี่ยนลักษณะ จะไปเกิดเป็นสัตว์สี่ชนิดด้วยกันเราก็ดูได้จาก ตา หู จมูก ปาก เป็นทหารทั้งสี่ที่ดวงวิญญาณจะไปเกิด เพราะตามีน้ำตา หูก็มีขี้หู จมูกก็มีน้ำมูกปากก็มีน้ำลาย เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง ดังนั้นเมื่อตายลงแล้วถ้าวิญญาณออกจากทวารต่างๆ นี้ ชาติหน้าไปเกิดเป็นสัตว์สี่ประเภทคือ สัตว์เกิดจากรก เกิดจากไข่ เกิดเป็นสัตว์น้ำ และเกิดเป็นพวกแมลง
ดังต่อไปนี้
ตา
พวกที่หลงกามคุณมากเกินไป พอจวนจะตายดวงตาจะเบิกกว้าง วิญญาณจะออกจากร่างทางทวารตา ชาติหน้าจะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดจากไข่) เช่น พวกนกต่างๆ อันได้แก่ นกเหยี่ยว นกพิราบ นกนางแอ่น ฯลฯ เป็นต้นพวกนี้ตาจะได้เห็นทั่วทั้งสี่ทิศ
หู
พวกที่ชอบฟังเรื่องราวไม่ดีเรื่องร้ายๆ ต่างๆ มากมาย พอตายลงหูทั้งสองข้างจะชันขึ้น วิญญาณออกจากทวารหู ชาติหน้าก็เกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากรก ได้แก่ ช้าง ม้า วัวควาย หูจะเข้าใจภาษาคน ให้คนได้เรียกใช้สอย
ปาก
พวกที่กล่าวร้ายทำลายผู้อื่น พูดจาเสียดสีนินทา กล่าวหาเกินเลย ก่อนจะตาย ปากจะอ้ากว้างไม่หุบ วิญญาณออกทวารปาก จะไปเกิดเป็นพวกสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาเป็นต้น ปากจะลิ้มรสของเหม็นของ สกปรก
จมูก
พวกที่ชอบหลงไหลกับกลิ่นหอม ชอบหาเงินที่สกปรก ก่อนจะตายจมูกจะเบิกกว้าง วิญญาณออกทางจมูก ชาติหน้าจะเกิดเป็นพวกแมลง เช่น ยุง แมลงวัน มด หนอนต่างๆ เป็นต้น เพราะจมูกชอบดมของเหม็นที่สกปรก ชอบอกชอบใจตนเอง พวกนี้เกิดในที่ชื้นแฉะ มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากบาปหนักวิญญาณจะถูกตีแตกกระจายไปเกิดเป็นแมลงต่างๆ
จากหน้าตาของผู้วายชนม์ ก็สามารถหยั่งรู้ทางไปของเขา แต่ก็ต้องอาศัยเหตุต้นผลกรรม และบาปบุญคุณโทษที่มีอยู่มาชำระคดีความจึงสามารถได้ผลที่ถูกต้อง แต่ส่วนใหญ่แล้วจากรูปลักษณ์ก่อนตายก็สามารถที่จะรู้ได้ถึงที่ทางที่เขาจะได้ไปดีหรือร้ายอย่างไร
ดังนั้น ทิศทางหมุนเวียนของคนก็ขึ้นอยู่กับตัวของคนเอง ผู้ที่มีตาทิพย์ย่อมเห็นได้เองโดยตลอด ขอให้ผู้คนเดินในทางตรง (สร้างบุญกุศล) อย่าเดินทางอ้อม (ก่อกรรมทำเข็ญ) ตอนจะจากโลกนี้ไปจะได้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
_________________
ทุกอย่างแก้ไขได้ วันนี้ต้องทำให้ดีกว่าเมื่อวาน
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 9:30 am
อ่านแล้วน่ากลัวครับ สาธุครับพี่
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
ตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 10:12 am
อนุโมทนา สาธุ เรื่ิองึความตายนี้ ไม่มีอะไรต้องกลัว
มันจะเหมือนคนตื่น คือ เมื่อเราหลับแล้ว ใกล้ๆจะตื่น ความฝันจะจางลง ความกลัวจะเป็นไปชั่วประเดี๋ยว ความเจ็บปวดจะเป็นไปชั่วประเดี๋ยว
แล้ว ชวนะจิต จะค่อยๆ ดับลง ไม่มีอะไรต้องกลัว
ขออย่างเดียวคือ ตั้งสติ ให้มั่น ถ้าจิตมีกุศลแล้วจะไปสุคติ ภูมิ อย่าให้อคติและอกุศลจิตผ่านเข้ามาใจ ชวนะจิตขณะนั้น
ทีนี้เมื่อคน มีแต่กุศลในนิสัยจนเป็นสันดานแล้ว อกุศล ก็ไม่ค่อยจะเข้ามา
ลองนึกถึงคนที่ไม่โกรธ ได้ยินได้ฟังอย่างไรก็ไม่โกรธ นี้เพราะว่า อกุศลไม่ผ่านเข้ามา
คนที่ไม่ร้อนรน ไม่มีราคะ ก็ไม่มีอกุศลเข้ามา
แต่คนที่ มีทั้งกุศล และอกุศล ก็ต้องดูว่า กุศลที่คิดว่ามีนั้นมันมาจากอกุศลเป็นเหตุหรือเปล่า เช่นทำบุญ เพราะว่า อยากได้ทรัพย์ หรือทำบุญ เพราะว่า อยากสะสม
หรือว่า ทำบุญเพราะ อยากดีอยากดัง
แบบนี้ อกุศลเป็นเหตุ ก็ทำอะไร ก็จะมีอกุศลตั้งต้น
ดังนั้น การสำรวจจิตตนเอง อยุ่เป็นประจำจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เห็นว่า การกระทำที่เราทำลงไปนั้น เริ่มมาจาก อกุศลหรือกุศล เป็นเหตุ
เราต้องสาว เหตุปัจจัยนี้ด้วยการ มีสติ สำรวจจิต เรียกว่า สติก่อนกาล
ไม่ใช่ ทำลงไปแล้วมีสติ แบบนั้นเรียกว่า สติหลังกาล อันยังไม่ทัน
การดูลงไปที่จิต นั้น ต้องอยุ่ในที่สว่างก่อน จึงจะเห็นเงาตน ดังคำหลวงตามหาบัวได้เทศ เอาไว้ หมายความว่า จิตนี้ต้องนิ่ง ต้องหมั่นฟอกก่อน เมื่อเกิดอกุศลจึงจะรู้ได้
แต่หากอยู่ในที่มืดตลอดก็ไม่มีทางที่จะเห็นเงาตนเองได้
ก็เช่นเดียวกัน คนที่ยังมีอกุศลเต็มไป แม้ว่าจะทำบุญอย่างไรก็ไม่มีทางเห็น อกุศลของตนเอง
นี่ ก็จะเป็นวิถีัเป็นปัจจัย ให้ เมื่อก่อนตาย นั้น วิถีของจิตตักตวงกุศลไว้จนเป็น อุปนิสัยปัจจัย ให้มีแต่ความดี
_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th