Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ข้อควรรู้เกี่ยวกับมะเร็ง 16 ประการ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas
ตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 12:39 pm
ได้รับ forward mail มาเลยส่งต่อเผื่อเป็นประโยชน์
ข้อควรรู้เกี่ยวกับมะเร็ง 16 ประการ
1. ทุกคนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลล์จำพวกนี้จะไม่สามารถตรวจหาพบโดยเครื่องมืออทางการแพทย์
จนกว่าจะมี ปริมาณเซลล์เป็น 2-3 ร้อยล้านเซลล์
หากไปพบหมอ แล้วหมอบอกว่าคุณไม่มีเซลล์มะเร็งในร่างกายหลังจากการตรวจ
นั่นแค่หมายความว่า เครื่องมือทางการพทย์ไม่สามารถตรวจพบเซลล์มะเร็งได้
เนื่องจากขนาดของเซลล์มะเร็งยังไม่มากพอ หรือขาดยังไม่ใหญ่พอให้เครื่องมือตรวจเจอ
2. เซลล์มะเร็ง เกิดขึ้นมาก ถึง 6 -10 ครั้ง ใน 1 ช่วงชิวิตของมนุษย์
3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง เซลล์มะเร็งก็จะถูกทำลาย
เพื่อป้องกั นไม่ให้เซลล์มะเร็งขยายตัว และสร้างก้อนเนื้อร้าย
4. เมื่อคนไข้ ถูกบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็ง แสดงให้เห็นว่ามีการขาดสารอาหารบางชนิด หรือ โภชนาการไม่ดี
ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม อาหาร หรือปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต
5. การเอาชนะเซลล์มะเร็ง สามาถทำได้โดยการสร้างความแข็งแกร่งให้เซลล์เม็ดเลือดขาว หรือระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย
6. การให้คีโม หรือสารเคมีบางชนิด เป็นทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลายอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็ทำลายเซลล์ที่ดีของร่างกายไปด้วยอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเป็นอาจทำลายระบบของอวัยวะสำคัญไปด้วย เช่น ตับ ไต หัวใจ หรือปอด
7. การฉายรังสี ก็จะทำลายเซลล์มะเร็ง และทำให้เนื่อบางส่วนไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลล์ เนื่อเยื่อที่ดีไปด้วยเช่นกัน
8. โดยทั่วไปแล้ว การให้คีโม หรือการฉายรังสี อาจจะทำให้ขนาดของก้อนเซลล์มะเร็ง ลดลง แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้มีผลทำลายก้อนเนื่อไปมากกว่านั้น
9. เมื่อร่างกายต้องรับสารพิษจำนวนมาก จากการให้คีโมหรือการฉายแสง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะถูกทำลายไปด้วย
ดังนั้นร่างกาวยก็ง่ายต่อการติดเชื้อ หรือพ่ายแพ้เซลล์มะเร็ง
10. การให้คีโม หรือการฉายแสง อาจเป็สาเหตุให้เซลล์มะเร็ง มีการกลายพันธุ์ หรือดื้อยา
ทำให้ยากแก่การทำลาย การผ่าตัด ก็อาจสามารถทำให้ เซลล์มะเร็งกระจายไปยังส่วนอื่น
11. วิธีที่มีประสิทธิภาพที่จะต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง คือ หยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยการหยุดให้อาหารที่เซลล์มะเร็งจำเป็นต้องนำไปใช้
สารอาหารที่เซลล์มะเร็งต้องการ
1. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทรายขาว equal
โดยใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยมากมาก
เกลือ มีสารจำเป็นที่เซลล์มะเร็งนำไปใช้ ควรงด หรือในปริมาณน้อย
2. นม ควรดื่ม นำนมถั่วเหลืองทดแทน
3. เซลล์มะเร็ง เจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด
ควรรับประทานอาหารประเภทปลา ดีกว่าหมู เนื้อ และเนื้อสัตว์ มีแบคทีเรีย ใช้โฮโมนในการเจริญเติบโตปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อคนไข้ที่เป็นมะเร็ง
4. 80 % ของผักและนำผลไม้สด ถั่งเมล็ดแห้ง ธั ญญาพืช จะช่วยให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง 20% จากอาหารที่ปรุงแล้ว
น้ำผักและนำผลไม้สด จะให้เอนไซม์ที่ ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ที่ดี
ดังนั้นควรดื่มน้ำผักสด และกินผักดิบ 2 -3 ครั้งต่อวัน เพราะเอนไซม์จะถูกทำลายที่ 40 c
5. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ ชอกโกแลต ที่มีคาเฟอีนที่สูง เป็นดื่มชาเขียวที่มี สารต้านมะเร็ง
ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำกรองดีที่สุด หลีกเลี่ย งน้ำประปา และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีสภาพเป็นกรด
6. เนื้อสัตว์ ย่อยยาก และต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก
และเนื้อที่ย่อยไม่หมด จะคงตกค้างอยู่ในลำไส้ อันนำไปสู่สารพิษตกค้าง
7. เซลล์มะเร็ง มีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะป้องกัน
การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น
8. อาหารเสริมบางอย่างช่วยเสริมสร้งความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง เช่น วิตามินอี วิตามินซี SPAN>
9. เซลล์มะเร็ง เป็นเชื้อโรคของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาน
การควบคุมอารมณ์ และมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
อารมณ์โกรธ ขมขื่น หรือความเครียดจะสร้างสภาพความเป็นกรดให้ร่างกาย
ควรเรียนรู้ที่จะรัก และให้อภัย พักผ่อนและสนุกกับการใช้ชีวิต
10. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจิญเติบโตในที่มีออกซิเจนได้
การออกกำลังกายทุกวัน และหายใจเข้าลึกลึก จะช่วยเพิ่มระดับ อ อกซิเจนในเซลล์
การบำบัดด้วยออกซิเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำลายเซลล์มะเร็ง
_________________
วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็ง ชนิดต่างๆ
อาการของ การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ
อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูดเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าว ไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อน เนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง
3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออนหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์
มีปัญหา เกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเ ซียวกว่าปกติ
มักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
และมักจะเกิดร่วมกับอาหาร ปวด ตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย
บางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของ ช่องท้อง
5. มะเร็ง ปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลาย
น้ำหนักลดอย่าง ฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบาก หรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็ง ตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
ตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ ชัด
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็ง สมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วย
เช่น อาเจียน หรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ
อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหัน
อวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงาน เช่น มีอาการชา และเป็น อัมพาตชั่วคราว
ควรให้ความระวังเป็นพิเศษ หากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา
หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือก เนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือ เป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันที ทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก
หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับ และรู้สึกได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาเป็นเลือด
ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
12. มะเร็งทรวงอก อาการมีเลือด หรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนา ขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้
เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้น ที่เต้านมเป็นเวลานาน
ควรระวังเพราะผู้ หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อมีอายุมากขึ้น
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อน ว่าคืออะไรกันแน่
13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
มีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ
**** ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงท วารอยู่แล้ว
คือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับ แล้วเลือดมีสีแดงสด นั่นคืออาการของริดสีดวงทวาร
แต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่น คือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง
อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานาน ตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้น
และมีการเปลี่ยนสี หรือรูปร่าง ขนาด
นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา ( Melanoma) คือ เนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่
เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกาย
หรือ มีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อน คุณจะ มี อัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ
ส่วนอันนี้เค้าฟอเวิร์ดติดมาด้วย –
ถึงท่าน ผู้โชคดี ขอให้ท่านนำเรื่องนี ้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิดสำหรับมะเร็งจะหายภาย ใน 6 วัน
วิธีรักษา - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1 ตำลึงก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม ให้ดื่มจนหมดชาม
สรรพคุณ ใน การรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้ว ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน
ยานี้จะ ขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ
*** ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็นเงินค่ารักษา
เรื่อง: แจกยาฟรีผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
แจกยาฟรีผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ( ลูคีเมีย)
และมะเร็งกระเพาะอาหาร ขอประชาสัมพันธ์ครับ
สำหรับผู้ป่วย หรือมีคนใกล้ตัว คนข้างบ้าน
หรือคนรู้จักเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย)
และมะเร็งกระเพาะอาหาร จะได้ช่วยกันบอกต่อ...
เนื่องจากเป็นโรคร้ายที่นำมาซึ่งความทุกข์ทรมาน
และคร่าชีวิตผู้คนในอันดับต้นๆ
ในทุกวันนี้คงต้องนับรวมมะเร็งเม็ดเลือดขาว
และมะเร็งกระเพาะอาหารไว้ด้วยโดยผู้ป่วยด้วยโรค
มะเร็งเม็ดโลหิตขาวเรื้อรังและโรคที่เกี่ยวกับ
ความผิดปกติของเลือด นี้ส่วนใหญ่นอกจาก
จะต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายค่ายาสูงลิบก็ยัง
ประ สบ ปัญหาเรื่องการทำงานการใช้
ชีวิตที่มีข้อจำกัดอย่างยิ่งภาวะของโรคจะบั่นทอนลงไปเรื่อยๆ
สร้างความหดหู่ทั้ง ต่อผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิด
ล่าสุด บริษัทยาข้ามชาติ โนวาร์ตีส
ได้จัดตั้งโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยนานาชาติจีแพป
(GIPAP:Glivec International Patient Assistance Program)
ซึ่งเป็นโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยมะเร็ง
เม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง( Chronic Myeloid Leukemia)
ที่มีผลฟิลาเดเฟียโครโมโซม ( philadephia chromosome)
เป็นบวก ผู้ป่วยมีอาการในระยะรุนแรงของโรคหรือ
ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดจีสต์
(GIST-Grstro-Intesinal Stromal Tumor)
ที่ผ่าตัดไม่ได้ และอยู่ในระยะลุกลาม
มี c-Kill > หรือ CD117 < /SPAN>เป็นบวก)
โดยโครงการจะจัดมอบยาของบริษัท
ให้แก่ผู้ป่วยโดยไม่คิดมูลค่า
รวมทั้งจะมอบให้ต่อเนื่องจนกว่าจะมียาอื่น
ที่เป็นทางเลือกของผู้ป่วยได้ต่อไป
ดร. แดเนียล วาเซลลา ผู้บริหารระดับสูงของโนวาร์ตีส
( สหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า > ประเทศไทยเป็นหนึ ่งใน 80
ประเทศทั่วโลกที่ได้รับอนุมัติในโครงการดังกล่าว
ปัจจุบันจีแพปมีผู้ป่วยมากกว่า 1.8 หมื่นราย
โดยมีผู้ป่วยจากประเทศไทยประมาณ 800 คน
ซึ่งนับว่ายังน้อยมากจึงต้องการประชาสัมพันธ์
เพื่อผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวอาจ
จะสนใจเข้าร่วมโครงการทั้งนี้ ได้จัดตั้งมูลนิธิแมกซ์
ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลนานาชาติในการประเมิน
และอนุมัติผู้ป่วยที่มีสิทธิได้รับยาฟรีดังกล่าว
ทั้งนี้ สำนักงา นมูลนิธิแมกซ์ ตั้งอยู่ที่ซีแอตเติล
ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อตั้งขึ้นในปี 2540
โดย 'เพโดร ริวาโรลา' ( Pedro Rivarola)
เพื่อเป็นเกียรติแก่บุตรชาย ' แม็กซิมิเลียโน ริวาโรลา'
(Maximi lliano Rivarola)
ซึ่งเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเม็ดโลหิตด้วยวัยเพียง 17 ปี
สำหรับมูลนิธิแมกซ์ในประเทศไทยได้จัด
ตั้งมูลนิธิสาขา ได้แก่ แมกซ์ ( ประเทศไทย)
ซึ่งจะเป็นผู้ทำการพิจารณาอนุมัติอย่างอิสระ
สำหรับผู้ป่วยที่จะขอความช่วยเหลือจากจีแพปได้
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ผู้ป่วยจะต้องได้รับการวินิจฉัยโรค
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ชนิดเรื้อรัง (CML-Chronic Myeloid Leukemia)
หรือ มะเร็งกระเพาะอาหาร ( GIST)
ซึ่งได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า
มีผล CD 117 เป็นบวก
2. ผู้ป่วยเป็นผู้มีสัญชาติไทยและมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
3. ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล ได้
4. ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองได้และ
ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากที่ใดทั้งสิ้น
หากมีคุณสมบัติครบให้ปฏิบัติดังนี้
1. แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการรับยาฟรีจาก
จีแพปกับแพทย์ผู้รักษาแพทย์ของท่านจะดำเนินการ
จัดส่งใบสมัครในนามของท่านออนไลน์
ไปที่
www.themaxfoundation
2. ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเอง ที่อยู่ เบอร์
โทรศัพท์และชื่อของแ พทย์ผู้รักษา
3. ภายหลังจากที่แพทย์ของท่านส่งใบสมัครมาที่มูลนิธิแมกซ์แล้วเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไปหาท่านเพื่อนัดสัมภาษณ์
4. กรณีที่ได้รับการอนุมัติ มูลนิธิจะแจ้งผลไปยังบริษัท
โนวาร์ตีส ( ประเทศไทย )เพื่อจัดส่งยา ผ่านแพ ทย์ผู้รักษาตัวท่าน
5. แพทย์จะเป็นผู้แจ้งผลการพิจารณาผลการอนุมัติให้ท่านทราบเอง
ส่วนโรงพยาบาลที่เข้าร่วมในโครงการมี 16 แห่ง คือ
1. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
2. โรงพยาบาลรามาธิบดี
3. ศิริราชพยาบาล
4. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
5. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
6. โรงพยาบาลราชวิถี
7. โรงพยาบาลวชิรพยาบาล
8. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
9. โรงพยาบาลตำรวจ
10. โรงพยาบาลภูมิพล
11. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
12. สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุ ขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร
13. โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
14. โรงพยาบาลหาดใหญ่
15. โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
16. โรงพยาบาลสระบุรี
ผู้ป่วยหรือมีคนใกล้ชิด ป่วยด้วยโรคดังกล่าว
สามารถติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้
ที่ ธนศักดิ์ อุทิศชลานนท์ และบุษกร สนธิกร
หมายเลขโทรศัพท์ 02-439-4600
ต่อ 8202 หรือจะเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ที่
www.gipapthailand.org
ขอบพระคุณคะ
สรินญา
Sarinya Tham.
Sarinya Thamworayothin
Sales Executive-SME
Telesales Department-SME
Tel.0-2234-7755 ext.221,523
Fax.0-2234-1396
_________________
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
ตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 2:36 pm
ขออนุโมทนาด้วยคับ เอาอาหารสมองมาฝาก
ต่อไปนี้ ไม่กลัวมะเร้ง(ปากมดลูก)
55555555
_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th