|  | 
        
          |  |  |  |  
| 
| ผู้ตั้ง | ข้อความ |  
| ทิพย์ธัญญา บัวผลิหน่อ
 
  
 
 เข้าร่วม: 26 ส.ค.  2008
 ตอบ: 3
 ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
26 ส.ค. 2008, 11:02 am |   |  
| คือ ไม่นานมานี้หนูไปส่งคุณแม่ที่โรงพยาบาลมา ปรากฏว่าคุณแม่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังแต่ยังเพิ่งเป็นไม่ใช่ระยะสุดท้าย หนูอยากจะขอผู้ใจบุญทั้งหลายช่วยกรุณาบอกวิธีรักษาโรคนี้หน่อยเนื่องจากหนูทุกข์มากไม่รู้จะทำยังไงไม่มีความรู้เรื่องโรคนี้เลย พอรู้หนูก็คิดมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ หนูอยากจะช่วยคุณแม่ซึ่งหนูรักมาก หนูสามารถให้ชีวิตเขาได้เลยถ้ามันแลกได้ เรากำลังจะมีความสุข อีกไม่นานหนูจะเรียนจบ หนูอยากให้วันนั้นมีคุณแม่เคียงข้างหนูในวันรับปริญญา ตอนนี้หนูเศร้ามาก คุณหมอก็ให้รอเอ็กซ์เรย์ แต่มันนานไป 19 ต.ค. 51 หนูกลัวว่ามันจะสายไป แต่ตอนนี้คุณหมอบอกว่าให้ทานยังเพื่อประคับประคองอาการไปก่อนไม่ให้ไตฝ่อ แต่หนูอยากจะช่วยแม่ให้เร็วกว่านี้ จะทำยังไงดีค่ะ ช่วยตอบหนูหน่อย
 |  
          |  |  
|  |  |  
|    |  
|  |  
| กรัชกาย บัวแก้ว
 
  
  
 เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
 ตอบ: 2348
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
26 ส.ค. 2008, 11:34 am |   |  
| 
 
| อ้างอิงจาก: |  
| คุณหมอก็ให้รอเอ็กซ์เรย์ แต่มันนานไป 19 ต.ค.51 |  
 เปลี่ยน รพ.ใหม่สิครับ
 
 ขั้นแรกขอคำปรึกษาแพทย์ รพ.นั้นแหละดูก่อนว่ามี รพ.ใดที่ตรวจได้เร็ว
 
 กว่านี้บ้าง
 
 รพ.อะไร  รอเอ็กซ์เรย์นานขนาดนั้น
  |  
          |  |  
| _________________
 สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
 |  |  
|   |  
|  |  
| RARM บัวบาน
 
  
 
 เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
 ตอบ: 417
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
26 ส.ค. 2008, 4:30 pm |   |  
| เอาใจช่วยและกันครับ
 
 
 องอธิฐานดูนะครับ  ว่า  จะบวชชีพราหมณ์ให้แม่ซัก 3 วันหรือ 5 วัน
 
 แล้วลองปรึกษาแพทย์ดูด้วยาและกันครับ  ว่าทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง
 
 
  สู้นะครับอย่าท้อแท้ |  
          |  |  
|  |  |  
|   |  
|  |  
| mes บัวบานเต็มที่
 
  
 
 เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
 ตอบ: 643
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
26 ส.ค. 2008, 4:32 pm |   |  
| ลักษณะทั่วไป
 หน่วยไต (glomerulus) เป็นหน่วยเล็ก ๆ ที่กระจายอยู่ในเนื้อไต ทำหน้าที่กรองของเสียและน้ำออก
 มาเป็นปัสสาวะ เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นที่หน่วยไต ทำให้ร่างกายขับปัสสาวะออกได้น้อย มีของเสีย
 คั่งอยู่ในเลือดมากกว่าปกติ รวมทั้งมีเม็ดเลือดแดง และสารไข่ขาวรั่วออกมาในปัสสาวะ ทำให้เกิด
 อาการบวม และปัสสาวะออกมาเป็นสีแดง
 
 สาเหตุ
 โรคนี้มักเกิดตามหลังการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บีตา-สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ
 (Beta-streptococcus group A) เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ ผิวหนังอักเสบ ไฟลามทุ่ง พุพองตาม
 ผิวหนังประมาณ 1-4 สัปดาห์ (เฉลี่ย 10-14 วัน) โดยทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นที่หน่วยไต ทำให้หน่วยไต
 เกิดการอักเสบไปทั่ว นอกจากนี้ยังอาจเกิดร่วมกับโรคเอสเอลอี , ซิฟิลิส , การแพ้สารเคมี (เช่น
 ตะกั่ว) เป็นต้น
 
 อาการ
 ผู้ป่วยจะสังเกตเห็นปัสสาวะออกมาเป็นสีแดงเหมือนน้ำล้างเนื้อ หรือน้ำหมาก และจำนวนปัสสาวะ
 มักออกน้อยกว่าปกติ อาจพบอาการบวมที่หน้า หนังตา เท้า และท้อง มักมีอาการปวดศีรษะ   มีไข้
 อ่อนเพลีย เบื่ออาหารคลื่นไส้ อาเจียน ถ้าเป็นรุนแรง อาจมีอาการหอบเหนื่อย หรือชัก
 
 สิ่งตรวจพบ
 ไข้ หน้าบวม หนังตาบวม เท้าบวมกดบุ๋ม อาจมีอาการท้องบวม ปัสสาวะขุ่นแดง และตรวจพบสาร
 ไข่ขาว (albumin) ขนาด 1+ ถึง 3+ อาจมีความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
 
 อาการแทรกซ้อน
 อาจมีความดันโลหิตสูงมาก ๆ จนเกิดอาการทางสมอง เช่น ชัก ไม่ค่อยรู้สึกตัวบางรายอาจพบ
 ภาวะปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) ใช้เครื่องฟังปอดมีเสียงกรอบแกรบ (crepitation)
 มีอาการหอบเหนื่อยและเกิดภาวะหัวใจวาย   อาจทำให้เกิดภาวะไตวาย   ซึ่งร้ายแรงถึงตายได้
 
 การรักษา
 1.หากสงสัย ควรส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจปัสสาวะซึ่งจะพบเม็ดเลือดแดงเกาะกันเป็นแพ
 (red blood cell cast) และพบเม็ดเลือดขาวอยู่กันเดี่ยวหรือเกาะกันเป็นแพ และตรวจเลือด
 อาจพบความผิดปกติต่าง ๆ เช่น สารบียูเอ็น (BUN) และครีอะตินีน (creatinine) สูง ซึ่งแสดง
 ว่าไตขับของเสียไม่ได้เต็มที่ควรให้การรักษา โดยให้นอนพักผ่อน งดอาหารเค็ม ให้ยาปฎิชีวนะ
 ได้แก่ เพนวี   หรือ อีริโทรไมซิน ,ให้ยาขับปัสสาวะ (เช่น ลาซิกซ์) และยาลดความดัน
 2. ถ้ามีอาการชักหรือหอบ ให้ฉีดไดอะซีแพม และลาซิกซ์ 1/2-1 หลอด เข้าหลอดเลือดดำ แล้ว
 ส่งโรงพยาบาลทันที
 
 ข้อแนะนำ
 โรคนี้ส่วนใหญ่ (ประมาณ 95%) จะหายได้ อาการทั่วไปจะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ควรตรวจ
 ปัสสาวะ ตรวจปัสสาวะบ่อย ๆ ต่อไปอีกหลายเดือน ประมาณ 2% อาจกลายเป็นเรื้อรัง และ 2%
 อาจตายระหว่างที่มีอาการ ดังนั้นจึงควรแนะนำให้ผู้ป่วยรักษากับแพทย์อย่างจริงจัง
 
 การป้องกัน
 เมื่อเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ หรือแผลพุพอง ควรกินยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 10 วัน เพื่อป้องกันมิให้
 เกิดโรคหน่วยไตอักเสบแทรกซ้อน
 
 รายละเอียด
 เป็นหน่วยไตอักเสบ ควรให้แพทย์ตรวจปัสสาวะบ่อย ๆ
 
 
 http://www.thailabonline.com/sec6nephrotic.htm
 
 เป็นเริ่มแรกต้องมีทางรักษาหายครับ
 
 คิดในทางที่ดีเข้าไว้
 
 ขอทุกท่านในเวปนี้ภาวนาเอาใจช่วยด้วยครับ
 |  
          |  |  
|  |  |  
|    |  
|  |  
| natdanai บัวบาน
 
  
 
 เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
 ตอบ: 387
 ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2008, 11:05 pm |   |  
| จำได้ว่ามีตำรายาจีนอยู่...กินรักษาโรคไตให้หายได้(พี่ชายกระผมกินหายมาแล้วครับ หากแต่ว่าตอนที่พี่ชายเป็นนั้นยังเป็นเด็กอยู่) เดี๋ยวจะกลับไปหาดูที่บ้านให้ครับ แล้วจะเอามาฝากนะครับ....
     
 แต่ยังไงก็ใจเย็นๆนะครับ..อย่าคิดมากไปกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นครับ
    |  
          |  |  
| _________________
 ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
 |  |  
|     |  
|  |  
| อิทธิกร บัวใต้น้ำ
 
  
  
 เข้าร่วม: 28 ส.ค.  2008
 ตอบ: 137
 ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
01 ก.ย. 2008, 4:32 pm |   |  
| ยิ้มสุ่
 |  
          |  |  
| _________________
 ชีวิตที่รู้
 |  |  
|   |  
|  |  
|  |  
|  | 
 
 
 
 อ่านหัวข้อถัดไป
 อ่านหัวข้อก่อนหน้า
 คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
 คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
 คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
 คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
 คุณไม่สามารถลงคะแนน
 คุณ  ไม่สามารถ  แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
 คุณ  ไม่สามารถ  ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
 
 |  
 
 |  |  |