ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
pernsanit
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2008
ตอบ: 1
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 10:01 am |
  |
มนุษย์ปุถุชนทุกคนย่อมมีศรัทธา(ความเชื่อ)ต่อบางสิ่งบางอย่างในหัวใจเสมอ
บางคนก็ศรัทธาต่อตัวบุคคล บางคนก็ศรัทธาต่อหลักการหรืออุดมการณ์บางอย่าง
คนที่ไม่มีศรัทธามีอยู่เพียงสองประเภทเท่านั้นในโลกนี้
หนึ่ง คือ คนวิกลจริต
สอง คือ พระอรหันต์ ซึ่งมีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาบริสุทธิ์ ไม่จำเป็นต้องใช้ศรัทธาในการดำรงชีวิตอีกต่อไป
ในทางพุทธศาสนา เมื่อพระพุทธทรงตรัสถึงศรัทธาไว้ในหมวดใด พระองค์ก็มักตรัสเรื่องปัญญาให้เข้าคู่กับศรัทธาด้วยเสมอไป การที่ทรงกำกับศรัทธาด้วยปัญญา เป็นการแสดงให้เห็นว่า ศรัทธาที่ปราศจากปัญญานั้นเป็นอันตราย และปัญญาที่ขาดศรัทธาก็น่ากลัว จะนำไปสู่ความแข็งกร้าวจนไม่ยอมลงให้กับใครหรืออะไรทั้งสิ้น
ดังนั้น ศรัทธาและปัญญาจึงต้องอิงอาศัยกัน กำกับกัน เช่น ในเบื้องแรกศรัทธาอาจนำไปสู่ปัญญา ในท่ามกลางปัญญาทำนห้าที่ตรวจสอบศรัทธา และในที่สุดปัญญานำไปสู่ภาวะเป็นอิสระจากศรัทธา ศรัทธามีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของปัจเจกบุคคลแต่ละคนเป็นอันมาก เพราะเราศรัทธา(เชื่อ)อย่างไร ชีวิตก็จะดำเนินไปในทิศทางนั้น จนเราอาจกล่าวได้ว่า "เราเป็นอย่างที่เราเชื่อ"(you are what you believe)
เมื่อศรัทธามีความสำคัญต่อชีวิตถึงเพียงนี้ เราแต่ละคนจึงควรทบทวนตัวเองว่า ระบบความเชื่อที่ตัวเราสมาทานอยู่นั้น เป็นระบบความเชื่อที่มีเหตุผลรองรับหรือไม่ หากเราเอาแต่เชื่อโดยที่ไม่เคยตั้งคำถามกับระบบความเชื่อที่ตัวเองสังกัด อย่างที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมขู่กันว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" เสียแล้ว วันหนึ่งเราอาจต้องสังเวยชีวิตให้กับระบบความเชื่อที่ผิดๆก็ได้
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ " เชื่อ!เรื่องใหญ่ที่สุดในโลก "
ที่ท่าน ว.วชิรเมธี และ ผศ.ธีระศักดิ์ กำบรรณารักษ์ ได้ถ่ายทอดไว้ในมุมมองที่แตกต่างกันสุดขั้ว!
อ่านแล้วเห็นว่าเป็นหนังสือที่ทุกคนควรจะอ่าน เลยมาแนะนำกันครับ |
|
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 10:41 am |
  |
 |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 11:12 am |
  |
ปัญญากับความเชื่อ ไม่จำเป็นต้องเดินคู่กันไปนะครับ
ความเชื่อของปถุชนล้วนผิด แต่ไปคิดว่าถูก เชื่อในศาสนาพุทธที่เป็นสัทธรรมปฏิรูป(ของปลอม)
ไปหลงคิดว่า ตนเองคิดถูก ตีความถูก ทั้งๆที่ผิดทั้งนั้น
ปัญญาในพระพุทธศาสนา ต้องปฏิบัติจนบรรลุอย่างน้อยโสดาบัน จึงจะรู้ว่า สิ่งที่เราเชื่อมาตลอดชีวิต
นั้นผิด แท้จริงศาสนาพุทธของแท้ที่เป็นพระสัทธรรมบริสุทธิ์นั้น คนละเรื่องกับที่สมมุติสงฆ์สอนและ
ตีความเลย |
|
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 12:12 pm |
  |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า: |
ปัญญากับความเชื่อ ไม่จำเป็นต้องเดินคู่กันไปนะครับ
ความเชื่อของปถุชนล้วนผิด แต่ไปคิดว่าถูก เชื่อในศาสนาพุทธที่เป็นสัทธรรมปฏิรูป(ของปลอม)
ไปหลงคิดว่า ตนเองคิดถูก ตีความถูก ทั้งๆที่ผิดทั้งนั้น |
อันนี้เป็นความเชื่อที่ขาดปัญญาหรือเปล่าครับ |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
เมธี
บัวตูม

เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 12:15 pm |
  |
คุณ พลศักดิ์ครับ
ปัญญา ที่เราๆพูดกัน หมายถึง คิดพิจารณา ไตร่ตรองด้วยเหตุและผลครับ
มิใช่ปัญญาในความหมายที่ว่าทะลุปรุโปร่งทุกสิ่งครับ
อย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ท่านว่า ศรัทธาต้องอาศัยปัญญา(คือต้องคิดพิจารณาเหตุและผล) มิฉะนั้นจะกลายเป็นงมงายไปได้ครับ
ผมทราบว่าคุณพลศักดิ์เข้าใจในเรื่องปัญญาของพระพุทธศาสนาดี
แต่ยังมีคนที่ยังไม่เข้าใจอยู่อีก และเราก็ควรที่จะมองในมุมมองของเขา
แล้วค่อยเสริมเพิ่มความรู้ให้กับเขาไปนะครับ
ไม่อย่างนั้นแล้วจะทำให้ผู้อื่นสับสบไปเปล่าๆ |
|
|
|
    |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 2:01 pm |
  |
คุณ"เมธี"ครับ
ปัญญา ที่เราๆพูดกัน หมายถึง คิดพิจารณา ไตร่ตรองด้วยเหตุและผลครับ.....นั่นคือปัญญาทางโลกครับ และก็เป็นปัญญาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิมิ
ใช่ปัญญาในความหมายที่ว่าทะลุปรุโปร่งทุกสิ่ง.....นี่คือปัญญาแท้จริง เมื่อหยุดจึงรู้ว่า สิ่งที่รู้เห็น
ที่สอนกันทางโลก ล้วนไม่ถูกต้อง |
|
|
|
  |
 |
เมธี
บัวตูม

เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 2:17 pm |
  |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า: |
คุณ"เมธี"ครับ
ปัญญา ที่เราๆพูดกัน หมายถึง คิดพิจารณา ไตร่ตรองด้วยเหตุและผลครับ.....นั่นคือปัญญาทางโลกครับ และก็เป็นปัญญาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิมิ
ใช่ปัญญาในความหมายที่ว่าทะลุปรุโปร่งทุกสิ่ง.....นี่คือปัญญาแท้จริง เมื่อหยุดจึงรู้ว่า สิ่งที่รู้เห็น
ที่สอนกันทางโลก ล้วนไม่ถูกต้อง |
ผมว่าเราฟันธงไม่ได้หรอกนะครับ ว่าที่สอนกันทางโลก ล้วนไม่ถูกต้อง
จริงอยู่ว่า ถ้าไม่มีปัญญาระดับรู้แจ้งทุกอย่าง ย่อมไม่อาจบอกได้ว่าสิ่งไหนถูกต้องไม่ถูกต้อง ได้ทั้งหมด
เพียงแต่ มีบางอย่างที่ไม่ต้องถึงระดับปัญญารู้แจ้งทุกอย่าง ก็บอกได้ว่าถูกต้องไม่ถูกต้อง
อย่างขณะนี้ผมก็บอกได้ว่า การเนรคุณผู้มีพระคุณไม่ถูกต้อง ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่ได้มีปัญญาระดับรู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่าง แสดงให้เห็นว่า ที่สอนกันทางโลก มีบ้างที่ถูก มีบ้างที่ผิด ไม่ได้ ไม่ถูกต้องทุกอย่างอย่างที่คุณเข้าใจนะครับ
หัวข้อกระทู้นี้คือ ปัญญา กับ ศรัทธา ต้องไปด้วยกัน
ผมเองก็พยายามทำความเข้าใจนะครับว่า
ระดับปุถุชนนั้น ยังต้องอาศัย ปัญญา และ ศรัทธา ตรวจสอบซึ่งกันและกัน
ส่วนระดับโสดาบันขึ้นไปนั้น ท่านรู้แจ้งหมดทุกอย่างแล้ว ปัญญาแทงตลอดทุกอย่างแล้ว เรื่องศรัทธานั้นไม่จำเป็นต้องเดินคู่กันไปแล้ว
ที่คุณพยายามจะบอกคืออย่างนี้รึเปล่าครับ
แต่ที่คุณตอบมานั้น คุณไปโยงว่าคนนั้นคนนี้สอนผิดอย่างนั้นอย่างนี้
อย่างแรก คุณยังสื่อออกมาได้ไม่ตรงประเด็นนะครับ
อย่างที่สอง แล้วคุณทราบได้อย่างไรครับ ว่าเขาสอนกันผิด
สาธุครับ |
|
|
|
    |
 |
|