ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
kritten prapatanunt
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 27 ม.ค. 2008
ตอบ: 7
|
ตอบเมื่อ:
28 มิ.ย.2008, 1:34 am |
  |
สมถกรรมฐานมี 40 ห้อง อะไรบ้างครับ  |
|
|
|
  |
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
28 มิ.ย.2008, 7:51 am |
  |
การจัดแบ่ง สมถะกรรมฐาน40ห้อง มีอยู่ในคัมภีร์ของอาจารย์ชั้นหลังครับ
ปัญหาที่สำคัญ คือ
1.ในพระสูตรไม่ได้จัดแบ่งเช่นนี้. ถ้าเป็นระดับพระสูตรที่กล่าวถึงการเดินมรรค จะเป็น สมถะ คู่กับวิปัสสสนา เสมอ.....จะไม่มีประเภทให้เอาวิปัสสนาอย่างเดียวโดยต้อง"ระวังจะเป็นสมถะ".เพียงแต่ ส่วนของสมถะ หรือ วิปัสสสนา จะมากน้อยแตกต่างกันตามแนวทางนั้นๆ. จะเห็นได้ชัดเจน ก็จาก กรณีกายคตาสติ ที่ถูกอาจารย์รุ่นหลังจัดให้เป็นเพียงอุบายแห่งสมถะฝ่ายเดียว ในขณะที่ท่านพระอานนท์ผู้เป็นพระโสดาบันที่ทรงพหูสูตรกลับเลือกกรรมฐานนี้เป็นกรรมฐานในคืนที่ท่านมุ่งอรหัตตผลในเวลาที่จำกัด
(ลองอ่าน กระทู้ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16338)
เป็นไปได้ไหม กรรมฐานที่พระโสดาบันที่ทรงพหูสูตรที่สุดเลือกในการมุ่งอรหัตผล จะเป็นเพียงสมถะกรรมฐานอย่างเดียว
2.การจัดแบ่งเช่นนี้มีปัญหาที่สำคัญที่ตามมาอีก คือ ถ้าเชื่อตามคัมภีร์ของอาจารย์ชั้นหลัง ... ก็จะสรุปว่า การเจริญ อานาปนสติ หรือ กายคตาสติ เป็นเรื่องของการเสียเวลาเปล่าๆ เพราะในคัมภีร์ชั้นหลังบางเล่มเหมือนจะบอกให้เลือกเจริญวิปัสสนากรรมฐานอย่างเดียว(ควรเลี่ยงการเจริญสมถะกรรมฐาน)
ในขณะที่พระสูตรกลับบอกให้เจริญทั้ง อานาปานสติ และ กายคตาสติ....
เรื่องของ สมถะ-วิปัสสสนา ต้องย้อนกลับไปอ่านระดับพระสูตรโดยตรงครับ
การอ่านผ่านอาจารย์รุ่นหลังอาจขัดแย้งกับพระสูตรได้....แม้นอาจารย์ที่มีผู้กล่าวว่าทรงพระไตรปิฎกบางท่าน กลับเลือกกล่าวตามตำรารุ่นหลัง แทนที่จะกล่าวตามพระสูตร
ปฏิบัติตามแนวมหาสติปัฏฐานสี่ แน่นอนที่สุดครับ.มีทั้งสมถะ และ วิปัสสสนาอยู่ในตัว และ เป็นจากพระพุทธพจน์โดยตรง |
|
|
|
  |
 |
RARM
บัวบาน

เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
28 มิ.ย.2008, 8:51 am |
  |
สมถกรรมฐานมี 40 ห้อง อะไรบ้างครับ
กสิน 10
อสุภะ 10
อนุสติ 10
อัปมัญญา 4
อาหาเรปฏิกูลสัญญา
จตุธาตุววัฏฐาน 4
อรูป 4
 |
|
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2008, 10:42 am |
  |
(ขอแสดงความคิดเห็น ...เผื่อ... เอาไว้ก่อนนะคับ)
สมถะ 40 ไม่ได้มีไว้ให้ทำครบนะคับ
เป็น optional ให้เลือกทำตามจริต
ชอบอันไหน ทำอันนั้น เพื่อน้อมนำจิตให้สงบ
สงบแล้วได้ฌาน
แล้วเอาฌาน มาเป้นผู้ถูกรู้
แล้วตามรู้ ตามดู จิต
ตามรู้ตามดู ผลที่เกิดจากจิต (สุข ทุกข์ กลางๆ วิตก ) ที่เกิดจากการมีฌานเหล่านั้น
..ด้วยใจเป้นกลาง
จิตจะรู้แต่เรื่องไตรลักษณ์ เดิมๆ ซ้ำๆ
จนมัน....รู้แจ้ง... ในไตรลักษณ์ แล้วสำรอกออกมา
ได้ฌานใหม่
มีผู้ถูกรู้(ฌาน)เกิดๆ ดับๆ ไปจบไม่สิ้น
ผู้รู้ ก็รู้แต่เรื่องเดิมๆ ไม่จบไม่สิ้น
จนไม่เหลืออะไรให้รู้ (เพราะรู้ทันหมดสิ้นแล้ว ไม่มีน้อยใหญ่ให้กำเริบได้)
จึงเสร็จภารกิจ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
แก้ไขล่าสุดโดย คามินธรรม เมื่อ 31 ก.ค.2008, 11:14 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
  |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2008, 10:56 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
สงบแล้วได้ฌาน
แล้วเอาฌาน มาเป้นผู้ถูกรู้
จนมัน....รู้แจ้ง... ในไตรลักษณ์ แล้วสำรอกฌานนั้นออก
ได้ฌานใหม่ |
ผมฌาณครับ สาธุ  |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2008, 11:15 am |
  |
ฌาณ พิมพ์ว่า: |
อ้างอิงจาก: |
สงบแล้วได้ฌาน
แล้วเอาฌาน มาเป้นผู้ถูกรู้
จนมัน....รู้แจ้ง... ในไตรลักษณ์ แล้วสำรอกฌานนั้นออก
ได้ฌานใหม่ |
ผมฌาณครับ สาธุ  |
5555
 |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
|