Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ผลบุญที่เห็นทันตา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ทัพหลวง
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 161

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 6:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผลบุญ ที่เห็น ทันตา!?

วันก่อน ผมไปฟังการแสดงธรรมของ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ฟังแล้วเห็นว่าน่าจะนำมาให้แฟนๆ "คม ชัด ลึก" ได้อ่านกันบ้าง เพราะหน้าที่ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้

เกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินๆ ทองๆ อยู่เสมอ และพอดีช่วงนี้เป็นช่วงการเข้าพรรษาด้วย ได้โอกาสอันดี วันนี้จึงขอนำเรื่องของ นางปุณณะทาสี ที่หลวงพ่อวิชัย เขมิโย แสดงธรรมไว้ มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ดังนี้

ในสมัยของพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดเชตวันวรวิหาร มี นางปุณณะทาสี เกิดมาในตระกูลยากไร้เข็ญใจ โตขึ้นมา จึงมาเป็นทาสรับใช้ เลี้ยงหมูให้ท่านเศรษฐี พระพุทธองค์เสด็จโคจรบิณฑบาตผ่านมาถึงสถานที่ที่นางเลี้ยงหมูเป็นประจำ และ นางปุณณะทาสี เห็นพระพุทธเจ้า นางมีจิตศรัทธาอยากจะใส่บาตรกับพระพุทธเจ้าสักครั้ง เพราะเกิดมาทุกข์ยากไร้เข็ญใจอยู่ทุกวันนี้ เพราะไม่เคยได้ทำบุญไว้อดีตชาติปางก่อน ชาตินี้จึงมีชีวิตที่ต้องเป็นคนใช้ให้เหนื่อยยากทุกวันคืน ก็ได้แต่คิดเท่านั้น เพราะว่าไม่มีทรัพย์ที่จะซื้ออาหารข้าวปลามาถวายใส่บาตร พระพุทธเจ้า

วันหนึ่งนางมีศรัทธาความเชื่อ ความเลื่อมใสมาก จึงตัดสินใจเอา รำที่เลี้ยงหมู มาผสมกับน้ำ เพื่อทำให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาย่างไฟให้สุก ตั้งใจจะใส่บาตรพระพุทธองค์ให้ได้ในวันนี้ แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า พระพุทธองค์ จะทรงรับทานของเราหรือเปล่า? เพราะของที่จะใส่บาตรนั้น ไม่ประณีตเหมือนของคนอื่น แต่นางก็มีจิตศรัทธาต่อ พระพุทธองค์ อย่างแรงกล้า เมื่อถึงเวลาโคจรบิณฑบาต พระพุทธเจ้า ก็เสด็จมาเหมือนทุกวัน นางปุณณะทาสี จึงนำเอารำที่ย่างไฟเตรียมไว้แล้ว ซ่อนไว้ในชายผ้า เพราะกลัวว่าถ้าถือไปแล้ว เมื่อ พระพุทธเจ้า เห็นขึ้นมา อาจจะไม่รับทานอาหารของตนเอง เพราะเป็นแค่ รำย่างไฟ เท่านั้น
แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าล่วงรู้วาระจิตของนาง จึงทรงประทับยืน รับเจตนาของนาง โดยเปิดฝาบาตรให้นางได้ถวายของที่นำมา เมื่อนางปุณณะทาสีใส่บาตรแล้ว พระพุทธองค์ให้พรว่า เอวัง โหตุๆ ขอความปรารถนาอย่างนี้ๆ จงสำเร็จแก่เธอเถิด

นางปรารถนาว่าด้วยผลทานที่ข้าพเจ้าถวายพระพุทธองค์ในวันนี้ จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าเกิดภพใดชาติใด ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานแล้วไซร้ ชื่อว่าความยากไร้เข็ญใจ ความไม่สมหวังในสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนานั้น อย่าได้บังเกิดในชีวิตของข้าพเจ้าเลย

เมื่อ พระพุทธเจ้า ให้พรแล้ว ก็เสด็จจากไป แต่ นางปุณณะทาสี ยังไม่วางใจ กลัวว่าพระพุทธองค์จะไม่ฉันอาหารของเธอ จึงเดินตามไปดูห่างๆ แต่ พระพุทธเจ้า รู้วาระจิตของนาง และอยากให้ศรัทธาของนางมีมากขึ้น จึงไปประทับนั่งที่โคนต้นไม้ แล้วเปิดฝาบาตรทรงฉันรำข้าวย่างที่นางถวายมา นางปุณณะทาสีเห็นเช่นนั้น ก็มีความปีติดีใจมาก จึงเดินกลับมาที่เลี้ยงหมู แต่ยังไปไม่ถึงบ้านก็ถูกงูพิษกัดตาย!! แต่ด้วยจิตที่เลื่อมใส ดีใจต่อทานที่ตนเองถวายแล้ว พอดับจิตจากชาติที่เป็นมนุษย์ ก็ได้ไปเกิดเป็นเทวดาในสรวงสวรรค์เทวโลกทันที และมีบริวารมากถึงหนึ่งพัน แล้วลงมาเฝ้าพระพุทธองค์ พอ นางปุณณะทาสี เป็นเทวดา ก็มีรัศมีสว่างไสวไปทั่วบริเวณ วัดเชตวันวรวิหาร ภิกษุทั้งหลายเมื่อเห็นเช่นนั้นก็แปลกใจ จึงกราบทูลพระพุทธองค์ว่า นางเทวดาเมื่ออยู่ในโลกมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้ จึงมีแสงสว่างและมีบริวารมากมายถึงปานนี้


เบญจะ ชินปัญชนะ

http://www.komchadluek.net/2008/07/21/x_phra_j001_211923.php?news_id=211923
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ทัพหลวง
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 161

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 6:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผลบุญ ที่เห็น ทันตา!? (ตอนจบ)


พระพุทธเจ้าจึงแสดงอานิสงส์ถึงทานที่มีผลมากไว้ว่า “บุพพะเจตนา ในเบื้องต้น ก่อนที่จะให้ ก็ทำจิตให้ผ่องใส มูลจนะเจตนาในท่ามกลาง
ขณะกำลังให้ทานอยู่ ก็มีจิตใจผ่องแผ้ว อประภาคาเจตนา เมื่อให้ไปแล้ว ก็มีจิตใจเบิกบาน เมื่อจิตเจตนาพร้อมทั้งสามประการนี้แล้ว ทานนั้นจึงมีผลอานิสงส์มาก”

1.นางปุณณะทาสี ถึงแม้จะถวายอาหารเพียงแค่รำข้าว แต่ด้วยมีจิตใจที่มุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำ แม้ไม่มีเงินทองแต่ก็อุตส่าห์คิดของถวายทานได้

2.ดีใจขณะที่ได้ถวายทาน

3.ถวายเสร็จแล้วก็ยังปลาบปลื้มในผลบุญที่ได้ทำ

นี่เรียกว่าครบ 3 ประการ ตามที่ พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ บุญนั้นจึงมีอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ ส่งผลให้พ้นจากการตกทุกข์ได้ยากจากการเป็นมนุษย์ที่ต้องเป็นทาสรับใช้ผู้อื่น คือ ถูกงูพิษกัดตาย พอตายปุ๊บ ผลบุญนั้นส่งให้นางเป็นเทวดาทันที เรียกว่า บุญที่เห็นทันตา ทันทีทันใด

บางท่านจะสงสัยว่า อ้าว!...ทำบุญแล้วทำไมต้องตายด้วย แบบนี้จะดีหรือ? เพราะบุญนั้นเปลี่ยนสภาพพ้นจากการเป็นทาสที่ทุกข์ยากลำเค็ญ กลายเป็นเทวดาทันที ไม่เอารึท่าน? เพราะถ้ายังเป็นมนุษย์อยู่ ถึงแม้จะร่ำรวยเป็นเศรษฐี แต่ความทุกข์จากการมีครอบครัวลูกหลาน ทุกข์ไม่จบสิ้น และโอกาสที่จะทำบาปทำชั่วคงหนีไม่พ้น นรกอเวจีจึงรออยู่ใกล้ๆ แบบนี้แล้วท่านจะเลือกอันใด?

การที่คนเราตายไปแล้วไปเกิดเป็นเทพเป็นเทวดา ต้องถือว่าบุคคลนั้นมีบุญมากแล้ว ยิ่งในยุคสมัยนี้ ไม่ใช่ง่ายเลยนะ เรียกว่าในยุคนี้มีไม่ถึง 10% หรอกครับ ที่มนุษย์เราตายไปแล้วจะขึ้นสวรรค์ ส่วนใหญ่จะไปพบกับยมบาลซะมากกว่า!!

เรื่องของนางปุณณะทาสี จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของกลุ่มคนที่ยากจนมีเงินน้อย ก็ต้องทำบุญเช่นกัน ไม่ใช่ไปคิดว่าจะกินก็ยังลำบากเลย จะเอาเงินที่ไหนไปทำบุญ ถ้าคนไหนคิดแบบนี้แล้ว ชาตินี้ก็คงยากไร้ตลอดไปทั้งชาติ!!

แต่ที่สำคัญยิ่งคือ เมื่อเราทำบุญแล้ว ทุกครั้งต้องจิตอธิษฐานในสิ่งที่ตนเองปรารถนา ความสำเร็จจึงจะเกิดขึ้นในเร็ววัน อย่างเช่นนางปุณณะทาสี ที่ตั้งสติอธิษฐานทันที จึงได้ผลทันทีเช่นกัน แต่บางท่านอาจจะสงสัยว่า ถ้าทำบุญแล้วไม่อธิษฐาน บุญที่ทำนั้นจะสูญเปล่าหรือ? ไม่สูญหรอกครับ บุญที่ทำมาแต่ก่อนๆ แม้แต่ตอนเป็นเด็กน้อยก็ตาม จะไม่สูญ หรือไม่มีวันที่จะสูญหาย บุญกุศลนั้นจะอยู่กับเราตลอดไปทุกภพทุกชาติ

แต่ถ้าเราไม่อธิษฐาน หรืออุทิศบุญให้เจ้ากรรมแล้ว จะมีผลเสียกับตนเองตรงที่ว่า เจ้ากรรมของเรานั้น คอยจ้องเฝ้าคอยรับบุญของเราอยู่ทุกขณะ เมื่อเราไม่อุทิศให้เขา บ่อยๆ เข้า เขาก็จะแค้นโกรธ และหาทางทำลายเราทันทีเมื่อมีโอกาส!? ระวังนะครับ เพราะมนุษย์เรายังไงๆ ต่างก็มีกรรมกันทั้งนั้นล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม จะต่างกันตรงที่จะมีกรรมมากหรือน้อยเท่านั้น การดำเนินชีวิตของคนเรานั้น ไม่ใช่มุ่งแต่เรื่องของการหาเงินอย่างเดียว แต่ทางธรรมไม่เอา งานบุญไม่สน แบบนี้จะเข้าทำนองเก่งแต่ไม่เฮง ขยันแต่ไม่รวย และวันนี้ ขอบอกบุญแก่ท่านผู้ใจบุญทั้งหลายว่า ขณะนี้ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย กำลังสร้างโบสถ์ที่วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ท่านผู้ใจบุญสามารถทำบุญให้หลวงพ่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สาย จ.เชียงราย บัญชีเลขที่ 176-2-20136-0 หรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางบัว กทม. เลขที่บัญชี 053-2-23380-2 ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ ดูรายละเอียดวัดได้ที่
www.watthamphajom.com


เบญจะ ชินปัญชนะ

http://www.komchadluek.net/2008/07/29/x_phra_j001_211924.php?news_id=211924
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 2:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ต่อไปจะทำบุญ โดยไม่ครางแครงใจ ดีกว่าน้อ

อนุโมทนาสาธุ ท่านทัพหลวง สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง