Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระอรหันต์สอนต่างกันได้ไหม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ทัพหลวง
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 161

ตอบตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2008, 8:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถาม – พระอรหันต์สอนต่างกันได้ไหมครับ?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าพระอรหันต์ท่านไม่ได้รู้ทุกสิ่งเหมือนพระพุทธเจ้า เพราะบารมีของพระอรหันต์เพียงพอแค่ช่วยตนเองเอาตัวรอด ไม่ได้บำเพ็ญบารมีเพื่อช่วยให้ผู้คนรอดมากๆ จึงไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติเช่น ความหยั่งรู้และฉลาดสมบูรณ์แบบเหมือนอย่างพระพุทธเจ้า

การยกระดับจากปุถุชนกิเลสหนาขึ้นไปเป็นพระอรหันต์ที่หมดกิเลสสิ้นเชิงนั้น หาใช่การมีข้อมูลในหัวเพิ่มขึ้น สิ่งที่ต่างไปคือมุมมองทางใจ เพราะใจอยู่ในภาวะพรากจากโลกของตัวตน ไม่เกาะเกี่ยวกับโลกของตัวตน เหมือนอยู่คนละฝั่งกับโลกของตัวตน

และการเป็นพระอรหันต์ ก็หาใช่การเปลี่ยนแปลงนิสัยใจคอไปทั้งหมด พวกท่านแค่เลิกชอบใจในกามอย่างเด็ดขาด นิสัยและพฤติกรรมอันเป็นไปในเชิงชู้สาวจึงหายไป แต่วิธีคิด วิธีพูด และวิธีโต้ตอบกับโลกด้านอื่นๆยังอาจดูเหมือนๆเดิม หรือเหมือนๆคนธรรมดาทั่วไป ใจอันพิสุทธิ์ของท่านเท่านั้นที่รู้ว่าจิตแยกตัวออกไปแล้ว ไม่ข้องเกี่ยวรับผิดชอบอะไรกับการกระทำทางกาย วาจา ใจอีกแล้ว

เหล่าพระอรหันต์ท่านได้ชื่อว่าฉลาดทางจิตเสมอกัน จึงเอาตัวรอดได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนๆกัน แต่หาใช่จะประกันว่าฉลาดทางความคิดเท่าเทียมกัน ฉะนั้นความสามารถสอนของพวกท่านจึงไม่จำเป็นต้องแยบคายเสมอกัน รวมทั้งนิสัยในการสอน กำลังใจในการสอน ตลอดจนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่สอน อาจแตกต่างกันได้หลากหลาย

อย่างเช่น พระอรหันต์บางองค์ท่านเห็นนรกสวรรค์และภพภูมิอื่นเป็นปกติ กับทั้งเคยชอบใจในการเล่าเรื่องต่างมิติ ท่านก็อาจสอนเรื่องนรกสวรรค์บ่อยๆ และจาระไนรายละเอียดของภพภูมิต่างๆอย่างละเอียด ในขณะที่พระอรหันต์บางองค์ท่านไม่รู้เห็นเรื่องนรกสวรรค์มากนัก กับทั้งเคยเห็นการพูดถึงนรกสวรรค์เป็นเรื่องฟั่นเฝือ พูดไปก็ยุ่งใจเปล่า ก่อความสงสัยไม่สิ้นสุดเปล่าๆ เช่นนี้ท่านก็อาจไม่พูดถึงนรกสวรรค์เลย หรือเมื่อพูดก็พูดแบบรวบรัดตามตำรา ไม่มีการแจกแจงพิสดารตามประสบการณ์ตรง เป็นต้น

แม้แต่หลักการปฏิบัติตนเพื่อเป็นพระอรหันต์นั้น พวกท่านก็เหมือนกันแค่ในแง่ของการดูให้เห็นความไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตนของทุกสิ่ง ไม่ว่ากายใจนี้หรือกายใจใคร ไม่ว่าวัตถุมีวิญญาณครองหรือไม่มีวิญญาณครอง จนจิตคลายจากอาการยึดว่าเป็นของเที่ยง เลิกถือเอาว่าเป็นเราหรือของเราเสียได้ทั้งหมด

ทว่า ‘วิธี’ ปฏิบัติของพระอรหันต์จริงๆอาจผิดแผกแตกต่างกันเป็นคนละเรื่อง เช่น ก่อนจะมาเป็นพระอรหันต์ได้นั้น บางองค์ท่านนิยมหลับตาดูความไม่เที่ยงของลมหายใจเป็นหลัก และอาศัยสติรู้ลมหายใจเป็นศูนย์กลางการรับรู้อื่นๆ ในขณะที่บางองค์ท่านไม่ชอบดูลมหายใจเลย ดูแต่ความไม่เที่ยงของปฏิกิริยาทางใจเป็นหลัก อย่างนี้เวลาพวกท่านอบรมลูกศิษย์ก็ย่อมเน้นอุบายวิธีที่ไม่เหมือนกันแน่ๆ ใครสำเร็จมาแบบไหนก็สอนให้สานุศิษย์เอาตามอย่างแบบนั้น

ลูกศิษย์พระอรหันต์ต้องมีพื้นนิสัยหรือความชอบใจที่ใกล้เคียงกับพระอรหันต์แต่ละองค์ จึงคล้อยตามได้ง่าย ประพฤติปฏิบัติตามได้ง่าย หรือกระทั่งประสบความสำเร็จสูงสุดได้ในเวลาไม่เนิ่นช้า หากอัธยาศัยตรงกัน ก็ย่อมผ่านประสบการณ์คล้ายๆกัน รับคำแนะนำได้อย่างเข้าอกเข้าใจเป็นขั้นเป็นตอนได้ชัดเจน

เหมือนขึ้นเขาจากฝั่งเดียวกัน คนชี้ย่อมบอกเส้นทางและอุปสรรคขวากหนามได้ละเอียดลออ ส่วนคนเดินตามก็ย่อมผ่านเส้นทางและสามารถผ่านอุปสรรคขวากหนามได้เช่นเดียวกับคนชี้เช่นกัน แต่หากขึ้นเขาจากคนละฝั่ง แม้ได้รับการชี้แนะอย่างฉลาดแยบคายเพียงใด ก็อาจไม่พบอะไรดังที่คนชี้จากอีกฝั่งกล่าวไว้ เช่น ไม่เจอผาชัน มีแต่ผาลาดเอียง หรือไม่เจอแปลงดอกไม้ป่างดงาม เจอแต่พืชล้มลุก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยอดเขามีอยู่ยอดเดียว ขึ้นมาถึงเมื่อไรก็ได้ชื่อว่าพิชิตยอดเขาได้เหมือนกัน มองไปรอบทิศเห็นเหมือนกัน สูดอากาศโปร่งบนความสูงระดับเดียวกัน แม้จะมาคุยกันขำๆว่าคุณมาลำบากกว่าผม เส้นทางของผมพามาถึงที่หมายเร็วกว่าคุณ ก็ไม่ได้ทำให้ความสุขบนยอดเขาลดน้อยหรือเพิ่มขึ้นเลย

สรุปคือพระอรหันต์ทั่วไปท่านสอนตามอัธยาศัย จะมีก็แต่พระพุทธเจ้า ที่ท่านเป็นจอมอรหันต์ผู้ทรงบำเพ็ญบารมีมาเพื่อสอนคนทุกประเภท ท่านจึงไม่สอนตามอัธยาศัยหรือความชอบใจส่วนตัว แต่จะมีญาณหยั่งรู้เป็นคนๆไป ว่าพื้นนิสัยอย่างนี้ เจอสถานการณ์แบบนี้แล้วต้องแก้อย่างไร หรือจะอาศัยอุบายใดช่วยให้เปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น หรือกระทั่งบรรลุมรรคผลแบบฉับพลันทันทีด้วยวิธีไหนครับ

http://dungtrin.com/mag/?17.prepare
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2008, 11:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอบ ไม่ ต่างกัน ให้ดำ รงศ๊ล สมาธิ ทาน ปัญญา เหมือนกัน
แต่ วิธี นำ สอน อาจ พลิกแพลง ตาม จริต แต่ละคน
อืมม์
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 7:49 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นอจิณไตย

เกินวิสัยปุถุชน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 12:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความรู้ยังน้อย ตามหลังผู้ใหญ่อย่าง คุณ RARM ดีกว่าเนอะ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง