ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สมบูรณ์
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 25 พ.ค. 2008
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): ขอนแก่น
|
ตอบเมื่อ:
17 ก.ย. 2008, 8:51 pm |
  |
ผมรับราชการตำรวจมาร่วม 30 ปี ขณะนี้มียศพันตำรวจเอกแล้วครับ ผ่านร้อน ผ่านเย็น พบเห็นและสัมผัสชีวิตมาหลายแบบ สุดท้าย...ณ วันนี้ ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้จริงๆ ผมเบื่อสังคมตำรวจมาก แต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนทำหน้าที่ให้ถึงที่สุด เพราะได้หลงเดินเข้ามาแล้ว
ทางโลกที่เกลือกกลั้วกับวงการมายาหลายหลาก และสารวิชามารที่ตำรวจมีทั้งที่โดยสมัครใจและฝืนใจ มันบอกว่าไม่ใช่หนทางที่ดีนักเลย สำหรับคนที่มีธรรมในหัวใจมากๆ เพราะพวกเขา...ตำรวจจำนวนมากกว่าที่ไม่ยึดหลักคุณธรรม ยิ่งยศ ตำแหน่งสูงขึ้น ก็ยิ่งประจักษ์ว่า วิชามารในวงการตำรวจนั้น ชั่วร้ายเกินกว่าจะรับได้ เอาล่ะครับ ผมขอขยับแค่นี้ก็แล้วกัน
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ผมได้หันหลังให้กับวงการมายา โดยตั้งใจทำหน้าที่ แต่ไม่สนใจยศฐา บรรดาศักดิ์ที่สูงกว่านี้แล้ว และได้หันมาทำหน้าที่ทหารของพระพุทธเจ้า บำรุงส่งเสริมพุทธศาสนา โดยตั้งปณิธานว่าจะสร้างศาลาวัดสักหนึ่งหลัง ซึ่งเมื่อตั้งใจเช่นนั้น ผมได้มองหาสำนักสงฆืหรือวัดที่จะทำการสร้างศาลาดังกล่าว แล้วผมก็ได้พบแล้ว เป็นวัดเก่าแก่ แต่เล็กๆ แถวจังหวัดขนแก่นครับ
ผมออกแบบศาลาที่ว่านั้น โดยปรารถนาให้เป็นศาลาที่โดดเด่น สวยงาม มาตรฐาน พอร่างรูปแบบอย่างคร่าวๆ แล้วไปให้สถาปนิกเขียนแบบให้ ปรากฏว่างบประมาณใช้จ่าย ขั้นต่ำ 7,000,000 บาท ผมตกใจมาก แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะใช้งบสูงขนาดนั้น ผมเองไมม่ทุนมากพอหรอกครับ เพราะเป็นตำรวตตงฉินจะมีเงินที่ไหนกัน แต่ความปรารถนานั้นก็แรง คือ ฝันแล้วอยากทำตามฝันนั้นให้จงได้
เมื่อเดือนเมษายน 2551 ที่ผ่านมา กระผมได้เชิญชวนชาวบ้านที่ตั้งวัดแห่งนั้นทำบุญผ้าป่าสามัคคี เป็นครั้งแรก ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือด้วยดี มีรายได้เริ่มต้นจากการทำบุญทอดผ้าป่าครั้งนั้น เหลือสุทธิ 600,000 บาท แล้วก็ลงมือสร้างตั้งแต่บัดนั้น(เมษายน 2551) วันนี้อยู่ในขั้นตอนการเทตอม่อ+คานดินครับ
แต่งบประมาณที่มีอยู่ก้อคงได้แค่เทคานเท่านั้น เพราะไม่มีแหล่งงบประมาณสนับสนุน ตั้งใจว่าจะจัดงานทำบุญผ้าป่าในเทศกาลปีใหม่อีกครั้ง จากนั้น จะค่อยๆทำไปเรื่อยๆ
รูปแบบศาลาที่กระผมออกแบบนั้น มันเป็นรูปแบบที่แปลกมากๆ คือ เป็นศาลาจัตุรมุข ชั้นครึ่ง แต่พื้นดินยกสูงถึง 2 เมตร และยกระเบียงโดยรอบ หลังคาสองชั้น ภายในศาลาเป็นทั้งสถานที่ทำสังฆกรรมได้เช่นเดียวกับพระอุโบสถ ญาติโยมประชาชนทำบุญได้ตามปกติแบบศาลาการเปรียญทั่วไป แล้วยังเป็นที่สำหรับประดิษฐานพระประธานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกด้วย ผมจึงอยากเรียกสิ่งก่อสร้างที่แปลกๆๆนี้ว่า "พระอุโบสถศาลามหาวิหาร"
กระผมเชื่อว่า...ศาลาโบสถ์ที่กระผมกำลังสร้างนี้ เมื่อเสร็จคงสวยงามน่าสัมผัสมากทีเดียว เป็นห่วงว่างบประมาณจำนวนมากที่ขาดเหลือจะได้มาจากไหน...จึงได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานว่า กระผม...เป็นข้าราชการตงฉิน กระทำคุณงามความดีมาตลอดชีวิตราชการ ไม่เคยหลงไหลได้ปลื้มกับลาภ ยศ จนเสียธรรม ขอหวังให้อานิสงส์ผลกรรมดีที่กระผมสั่งสมมา ดลบันดาลให้ดลใจคนใจบุญทั่วทิศานุทิศให้มาสนับสนุนให้โครงการที่ดำเนินการสำเร็จตามวัตถุประสงค์....
ครับ....หากตรงนี้มีคนใจบุญ ประสงค์มีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพพระอุโบสถศาลามหาวิหารกับกระผมดังกล่าว สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่กระผมครับ เบอร์โทรศัพท์ 083-7459104 ขอบคุณครับ |
|
_________________ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว |
|
  |
 |
สมบูรณ์
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 25 พ.ค. 2008
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): ขอนแก่น
|
ตอบเมื่อ:
17 ก.ย. 2008, 9:30 pm |
  |
ขออภัยจริงๆๆ ตกแต่งขนาดภาพไม่เป็น อยากย่อส่วนให้เล็กกว่านี้หลายๆๆเท่า เพื่อนสหธรรมมิก ช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ |
|
_________________ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว |
|
  |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
23 ก.ย. 2008, 4:18 pm |
  |
ขออนุโมทนาสาธุการครับ
นิพพานะปัจจโยโหตุ |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
|