Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทำบาปไปแล้ว ทำอย่างไรจึงจะทำให้วิบากกรรมจากบาปนั้นเบาบางลง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ค.2008, 2:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมคิดว่า ไม่เคยมีใครไมเคยทำบาป แต่ทำบาปไปแล้ว ทำอย่างไรจึงจะทำให้วิบากกรรมจากบาปนั้นเบาบางลง

การสำนึกผิดอย่างเด็ดขาด ทำให้วิบากกรรมในโลก ที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง ส่วนในปรโลก
วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป



มีพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าอยู่บทหนึ่ง ที่อยู่ในสุตตันต มัชฌิชนิกาย สัจจวิภังคสูตร สัจจภังคสูตร 22/542-546
(ผมอ่านมาจากหนังสือธรรมธาตุ ธรรมชาติของสรรพสิ่ง ของคณะสังคมผาสุก เพื่อความผาสุกของสังคม
หน้า 229) เรื่องการก้าวล่วงบาปกรรม สมมุติสงฆ์พุทธเถรวาทของเราส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยรู้เรื่องนี้

จริงๆ เรื่องการก้าวล่วงบาปกรรมนั้น ก็คือการสำนึกบาปอย่างจริงใจนั่นเอง สิ่งนี้เป็นการขจัดมลทินแห่งอกุศล
ออกไปจากจิต ทำให้กรรมดำกลายเป็นกรรมขาว และวิบากของกรรมดำที่เราเคยทำไปแล้วในอดีต เบาบางลงได้

พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า

“ กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร
เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด ”


เมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ดังนี้แล้ว ใจของเราจะก้าวออกจากกรรมนั้นได้

ในโลกมนุษย์ เพราะว่าคุณได้สำนึกผิดอย่างเด็ดขาดไปแล้ว วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง
ส่วนในปรโลก วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป


ตัวอย่าง หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ในวัยเด็กท่านเคยฆ่าไก่ตายเป็นจำนวนมากด้วยการหักคอไก่
ต่อมาหลังจากท่านมาบวชเป็นพระแล้ว ท่านก็สำนึกในบาปกรรมที่เคยได้ทำในวัยเด็ก และท่านก็
รู้ในจิตของท่านจากการปฏิบัติกรรมฐานด้วยว่า เหล่าวิญญาณไก่ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่านตามมา
ทวงหนี้แล้ว ท่านก็ต้องรับผลกรรมนั้น โดยต้องคอหักตายในวันที่ 14 ตุลาคม 2521 (ขออภัยถ้าจำผิด)
และแล้ว.....เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ ท่านรถคว่ำคอหัก แต่ทว่าท่านไม่ตายครับ อยู่ต่อมาถึงทุกวันนี้
ให้เราได้กราบไหว้ เป็นผลมาจากการสำนึกบาปหรือการก้าวล่วงกรรมของท่าน ทำให้วิบากกรรมของท่านนั้น
เบาบางลงนั่นเอง


ส่วนวิบากกรรมในปรโลก ผมคงนำตัวอย่างของคนอื่นมาแสดงไม่ได้ นอกจากประสพการณ์ส่วนตัวของผม

เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ผมเคยอกหักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็ไม่รู้ว่าผมทำกรรมอะไรไว้ จึงส่งผลให้ผมต้องอกหัก
วันหนึ่งผมก็ไปกราบนมัสการพระพรหมที่โรงแรมแกรนไฮเอ็ตเอราวัน อธิษฐานจิตขอให้พระพรหมช่วย
แต่ถ้าท่านช่วยผมไม่ได้ อย่างน้อย ผมก็ขออนุญาตให้ท่านช่วยมาตอบปัญหาผมหน่อยว่า ทำไมคนดีๆ
อย่างผม ที่เป็นคนชอบทำบุญ และช่วยเหลือคนอื่นมามาก อีกทั้งยังชอบทำสมาธิ เหตุใด? หรือทำไม?
ผมจึงต้องประสพกับชะตากรรมอกหักเช่นนี้

เนื่องจาก ผมเป็นคนที่ฝรั่งเขาเรียกว่า มีSIXSENSE สามารถติดต่อกับเหล่าวิญญาณในปรโลกได้
ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่า พระพรหมจะต้องมาหาผมอย่างแน่นอน เพราะไม่มีเหตุผลอะไร ที่ท่านจะปฏิเสทการมาหาผม
แล้วท่านก็มาหาผมจริงๆ...... เวลา
ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ ที่บ้านผมก็มีแขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่งมาหา ด้วยกระแสพลังของท่าน ผมรู้ว่า
ท่านเป็นเทพชั้นสูงมากๆ แต่นึกไม่ถึงว่า ท่านจะเป็นถึงพระพรหม ดวงวิญญาณของท่านเป็นวิญญาณ
มนุษย์ชั้นเทพภูมิสูงมากๆ ผมจำคำสอนของพระพุทธองค์ได้ว่า มนุษย์ผู้ใดประกอบไปด้วยพรหมวิหาร 4
มนุษย์ผู้นั้นเมื่อตายในฌาน 4 เขาจะได้ไปเกิดในชั้นพรหม และอาจจะได้เป็นพระพรหม

ผมสงสัยว่า ตำแหน่งพระพรหมนี้ไม่ใช่ตำแหน่งตายตัวที่ผูกขาดอยู่กับวิญญาณดวงเดียว อาจมี
การสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป นอกจากนี้ พระพรหมองค์นี้ก็ไม่น่าใช่พระพรหม หรือพระเจ้าผู้สร้าง
สรรพสิ่งในโลกอย่างแน่นอน แต่ท่านมาประจำอยู่ตรงนี้ได้ ก็ด้วยความบริสุทธิ์ในวิญญาณของท่าน
ซึ่งประกอบไปด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา


พระพรหมท่านไม่ได้เสด็จเข้ามาในบ้านผมหรอก ท่านยืนอยู่หน้าประตูบ้าน แล้วท่านก็ตอบคำถามผม
แต่ไม่ใช่ด้วยคำพูดนะครับ ท่านเนรมิตให้มีดวงวิญญาณดวงหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากใต้โซฟาของผม และทะลุ
โซฟาที่ผมนอน เข้ามากอดผมทางด้านหลังแบบพิศวาส จู่ๆ ผมก็รู้คำตอบขึ้นมาทันทีเลยว่า บาปกรรม
ทางเพศที่ผมทำหลายสิบครั้งสมัยวัยรุ่น มันไม่ได้หายไปไหน ความจริงผมต้องรับผลของกรรมเมื่อเกิดใหม่
ในชาติหน้า หรือรับโทษในนรกภูมิ โดยต้องถูกพวกลักเพศเรียงคิว หรือไม่ก็รุมโทรมในนรก


แต่ด้วยเหตุที่ผมได้และจะได้เข้าใจในแก่นธรรม และจะทำสมถและวิปัสสนากรรมฐานดีขึ้นเรื่อยๆ
ใน(อนาคต)ชาตินี้ ทำให้กรรมนี้ตามผมไปในสวรรค์หรือในชาติหน้าไม่ได้ การอกหักของผมในชาตินี้
ก็เป็นผลมาจากบาปกรรมดังกล่าวนั่นเอง เพราะมันเป็นกรรมหนัก ถ้าผมไม่ได้ละวางจากความรัก
จะมีผลที่เลวร้ายอื่นๆ ตามมา แต่ผมสามารถละวางจากความรักได้ บาปกรรมนั้นได้ส่งผลถึงตัวผมแล้ว
แต่มันดันเข้าไปทำร้ายจิตใจผมไม่ได้เอง( หมายถึง ได้ แต่ไม่มากเท่าที่ควร)


พอพระพรหมให้ผมรับรู้ผลของกรรมนี้ในนรก ตอนนั้น ผมไม่ได้ปฏิเสทแต่อย่างใด คิดแต่ว่า เราทำกรรม
เหล่านั้นจริง และเราก็ขอยอมรับผลของกรรมนั้นด้วยความเต็มใจ ยอม รับโทษในนรก หลังจากนั้น
ผมทำสมาธิและท่อง “รัก เมตตา กรุณา และให้อภัย” ไป 2-3 เที่ยว เมื่อจิตเป็นสมาธิมั่นคงแล้ว
ร่างของดวงวิญญาณที่พระพรหมท่านเนรมิตมาก็สลายไป


เหมือนกับพระพรหมจะบอกกับในจิตว่า ผลของบาปนั้นไม่มีแล้ว ผมก็เลยสงสัยว่า..... ยังไม่ทันคิดจบ
เหมือนกับพระพรหมท่านรู้ว่า ผมสงสัยอะไรอยู่ ท่านก็ตอบให้ผมรู้ในใจว่า คำตอบนั้นอยู่ในพระไตรปิฎก
แล้วผมจะพบคำตอบเอง


เมื่อผมพบแล้วว่า การก้าวล่วงบาปกรรมทำให้วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงเรานั้นจะเบาบางลง ส่วนในปรโลก
วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรม ผมจึงนำเรื่องนี้มานำเสนอในทุกเว็บศาสนาที่ผมเข้าไป
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ค.2008, 11:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นด้วยครับกับการสำนึกผิดอย่างเด็ดขาด และผลที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเช่นนั้นจริงๆครับแต่กระผมเข้าใจว่าน่าจะรู้สึกดีขึ้นจากสภาวะจิตที่ตั้งใจจะประกอบกรรมดี ดังคำสอนที่ว่า " ธรรมทั้งหลายมีใจถึงก่อน สำเร็จแล้วด้วยใจ "
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
kokorado
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2008, 2:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วกรณีขององคุลีมาล ที่ฆ่าคนไปพันกว่าคน การก้าวล่วงบาปกรรมจะเพียงพอเหรอ ถ้าท่านไม่เป็นพระอรหันต์ คงไม่พ้นนรกแน่ๆ
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2008, 5:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระเทวทัตสำนึกผิดโดยเด็ดขาดแล้วตอนถูกธรณีสูบ แถมยังอธิษฐานเอา
กระดูกคางบูชาขออโหสิกรรมต่อพระพุทธเจ้าก่อนตายด้วย ทำไมยังต้อง
ไปลงอเวจีล่ะครับ???
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2008, 6:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สร้างกรรมใหม่ให้แรงกว่ายิ่งๆขึ้นไป ให้กรรมเก่าไม่มีแรงให้ผล หากให้ผลรับกรรม ก็ใช้กรรม จำนน ไม่สร้างเพิ่ม สักวันก็หมด ลดลงจนสิ้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2008, 6:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

dd พิมพ์ว่า:
พระเทวทัตสำนึกผิดโดยเด็ดขาดแล้วตอนถูกธรณีสูบ แถมยังอธิษฐานเอา
กระดูกคางบูชาขออโหสิกรรมต่อพระพุทธเจ้าก่อนตายด้วย ทำไมยังต้อง
ไปลงอเวจีล่ะครับ???



พระเทวทัตสำนึกผิดโดยเด็ดขาดเพียงเรื่องที่ก่อกรรมกับพระพุทธเจ้า การสำนึกผิดของเทวทัต
ทำให้เมื่อท่านพ้นโทษในนรกแล้ว จะสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

พระเทวทัตลงไปลงอเวจี เพราะทำให้สงฆ์แตกแยก(สังฆเภท) เป็นอนัตตริยะกรรม ที่ท่านไม่มีเวลาสำนึกผิด
นอกจากนี้ท่านยังทำบาปหนักๆข้ออื่นๆด้วย เช่น ยุยงส่งเสริมให้พระเจ้าอชาตศตรูฆ่าพ่อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2008, 6:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

dd พิมพ์ว่า:
พระเทวทัตสำนึกผิดโดยเด็ดขาดแล้วตอนถูกธรณีสูบ แถมยังอธิษฐานเอา
กระดูกคางบูชาขออโหสิกรรมต่อพระพุทธเจ้าก่อนตายด้วย ทำไมยังต้อง
ไปลงอเวจีล่ะครับ???


ง่ายนิดเดียว ก็ กรรมนั้น คือ ทำสังฆเพท ทำพระพุทธเจ้าให้ฮ้อพระโลหิต ได้ทำไปแล้ว มีผลคือวิบากรออยู่แล้ว

ส่วนการสำนึกผิด ก็อีกอันหนึ่งงัย เป็นกรรมดี งัย

เศร้า
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2008, 1:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

[quote="พลศักดิ์ วังวิวัฒน์"]
dd พิมพ์ว่า:
พระเทวทัตสำนึกผิดโดยเด็ดขาดแล้วตอนถูกธรณีสูบ แถมยังอธิษฐานเอา
กระดูกคางบูชาขออโหสิกรรมต่อพระพุทธเจ้าก่อนตายด้วย ทำไมยังต้อง
ไปลงอเวจีล่ะครับ???



พระเทวทัตสำนึกผิดโดยเด็ดขาดเพียงเรื่องที่ก่อกรรมกับพระพุทธเจ้า การสำนึกผิดของเทวทัต
ทำให้เมื่อท่านพ้นโทษในนรกแล้ว จะสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

เป็นเพราะพระเทวทัตปราฐนาพุทธภูมิครับ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2008, 2:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

kokorado พิมพ์ว่า:
แล้วกรณีขององคุลีมาล ที่ฆ่าคนไปพันกว่าคน การก้าวล่วงบาปกรรมจะเพียงพอเหรอ ถ้าท่านไม่เป็นพระอรหันต์ คงไม่พ้นนรกแน่ๆ


องคุลีมารถือกำเนิดเป็นบุตรของพราหมณ์ ซึ่งเป็นวรรณที่สำคัญกับการบริหารบ้านเมืองในสมัยนั้น เมื่อโตขึ้นมาบิดาจึงให้ไปเรียนวิชากับอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นที่นับถือกันว่าเป็นอาจารย์ที่เก่งและเป็นที่เคารพอย่างมากของคนในยุคนั้น เพื่อหวังจะให้ลูกชายได้ทำงานรับใช้บ้านเมือง องคุลีมารเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดกว่าเด็กคนอื่นในรุ่นเดียวกัน จึงเป็นที่รักของอาจารย์จึงเป็นเหตุให้เด็กคนอื่นๆที่เรียนในที่นั้นเกิดความอิจฉาริษยา จึงมีการร่วมกันกลั่นแกล้งองคุลีมารด้วยการใส่ร้ายโดยเด็กต่างๆเหล่านั้นพากันพูดกับอาจารย์ว่า องคุลีมารเป็นเด็กที่เกเร และใส่ร้ายอีกต่างๆนาๆ ด้วยความที่เด็กที่เรียนด้วยกันส่วนมากพูดไปในแนวเดียวกันหมดจึงทำให้อาจารย์เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในตัวขององคุลีมาร และก็เชื่อเช่นนั้นในที่สุด จึงมีความคิดที่จะกำจัดองคุลีมารเสีย แต่ด้วยความที่เป็นอาจารย์จะทำการลงมือเองก็เกรงว่าจะถูกครหา จึงวางอุบายที่จะกำจัดองคุลีมาร โดยวันหนึ่งก็เรียกองคุลีมารมาแล้วก็บอกว่าจะสอนวิชาขั้นสุดยอด หากสำเร็จวิชานี้แล้วจะเป็นเจ้าโลกได้ ด้วยความที่อยากจะรีบเรียนให้สำเร็จเพื่อจะได้นำวิชาที่ร่ำเรียนมาไปช่วยราชการบ้านเมืองและเป็นการช่วยงานของพ่อด้วย จึงตั้งใจเรียน แต่เมื่อเรียนมาสักระยะหนึ่ง อาจารย์ก็เลิกสอนโดยให้เหตุผลว่าเรียนต่อไม่ได้แล้ว เพราะเป็นวิชาขั้นสูง หากอยากจะเรียนให้สำเร็จจะต้องฆ่าคนให้ครบ 1000 คน ซึ่งเป็นอุบายเพื่อหวังจะกำจัดองคุลีมารโดยคาดว่าองคุลีมารจะต้องถูกฆ่าตายเสียก่อนที่จะฆ่าคนครบ 1000 เป็นแน่ องคุลีมารพอรู้ว่าจะต้องฆ่าคนจึงสำเร็จก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะชีวิตเกิดมาในตระกูลพราหมณ์รักษาศีลมาตั้งแต่เด็กจึงเป็นเรื่องหนักหนามากที่จะต้องไปฆ่าคนถึง 1000 คน แต่ด้วยความที่มีปรารถนาอยากจะตอบแทนบุญคุณของพ่อ และพราะมหากษัตริย์ ประกอบกับความคิดที่ว่า เรียนมานานถึงขนาดนี้แล้ว หากไม่เรียนต่อให้จบที่ผ่านมาก็ไร้ประโยชน์จึงทำให้องคุลีมารตัดสินใจที่จะเรียนให้สำเร็จ จึงเริ่มออกฆ่าคน

แต่องคุลีมารนั้นเป็นผู้มีการสั่งสมบุญบารมีมานานและจะได้เป็นพระอรหันต์ในชาติขององคุลีมาร ซึ่งพระศาสดารู้อุปนิสัยขององคุลีมารว่าจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์แน่จึงได้เสด็จไปโปรด
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2008, 2:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณnatdanaiครับ




เมื่ออ่านพุทธประวัติแล้ว จะทราบว่า พระเทวทัตอยากเป็นพระพุทธเจ้าจนตัวสั่นเชียวแหละครับ
แต่การอยากของพระเทวทัตนั้น เป็นไปในทางที่ไม่ชอบ ไม่ถูก ไม่ควร ตั้งตนเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒
แข่งกับพระสมณโคดม ทำให้เกิดอนันตริยกรรมที่ใหญ่หลวง คือ สังฆเภท ยุยงสงฆ์ให้แตกแยกกัน

พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสพยากรณ์เรื่องพระเทวทัตจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในตอนไหนๆเลย
แต่เมื่อพระเทวทัตสำนึกบาปอย่างเด็ดขาด ที่เรียกว่าการก้าวล่วงบาปกรรม (สุตตันต มัชฌิชนิกาย
สัจจวิภังคสูตร สัจจภังคสูตร 22/542-546 (ผมอ่านมาจากหนังสือธรรมธาตุ ธรรมชาติของสรรพสิ่ง
ของคณะสังคมผาสุก เพื่อความผาสุกของสังคม หน้า 229)
พระพุทธองค์จึงตรัสพยากรณ์ว่า เมื่อพระเทวทัต
พ้นกรรมจากมหาเวจี นรก จะมีโอกาสสร้างสมบารมี จนสามารถตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า “อัฏฐิสสระ”

มาวิเคราะห์เจาะลึกกันลงไป ถึงข้อคุณสมบัติของพระเทวทัตอันใดหรือ ? ที่พระพุทธองค์ถึงกับทรงเปล่ง
พุทธพยากรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาจากพระโอษฐ์

เพราะการสำนึกบาปอย่างเด็ดขาดของพระเทวทัต เพียงแต่ทำให้บาปของพระเทวทัตที่จะนำไปสู่นรกอเวจี
กลายเป็นเศษกรรมเท่านั้น พึงตระหนักว่า พระเทวทัตได้สร้างกุศลก่อนตายด้วย โดยพระเทวทัต
ได้เปล่งวาจา ขอยึดเอาพระพุทธองค์เป็นสรณะ แม้จะไม่ได้เปล่งต่อหน้าพระพักตร์ แต่ก็ถือได้ว่าสร้าง
กุศล และพระพุทธองค์ทรงรับทราบ และอนุโมทนา จึงเกิดผลานิสงส์
ที่อาจจะส่งผลให้แก่พระเทวทัต
ถึงกับมีโอกาสเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลได้ นี่จึงเป็นที่มาของพุทธพยากรณ์ว่า

"เมื่อพระเทวทัตพ้นกรรมจากมหาเวจี นรก จะมีโอกาสสร้างสมบารมี จนสามารถตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
ทรงพระนามว่า “อัฏฐิสสระ” ในอนาคต"
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2008, 2:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระพุทธเจ้าเคยตกนรกเพราะฆ่าน้องชาย คือ พระเทวทัต

ผมไม่ได้หมายถึงชาติที่เป็นพระเทวทัตนะครับ ผมหมายถึงชาติก่อนหน้านั้น พระพุทธเจ้าตอนที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์
จะเสวยพระชาติเป็น มนุษย์,เทวดา,หรือเป็นวานรก็ดี เมื่อมาเจอกับพระเทวทัตทีไรและเมื่อไร เป็นต้องเกิดการ
จองเวรแต่เพียงฝ่ายเดียวของพระเทวทัตทุกทีเลย ทำไมเทวทัตจึงเป็นเดือดเป็นแค้นพระพุทธองค์ข้ามภพข้ามชาติ

เรื่องมีอยู่ว่า ตัวพระพุทธเจ้าเองทำกรรมกับเขาก่อน พระพุทธองค์ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า

เหตุแห่งการห้อพระโลหิตที่พระบาทนั้น เป็นเศษเวรกรรมจากอดีตชาติของท่าน

ครั้งหนึ่งเมื่อพระพุทธเจ้าของเรา กับ พระเทวฑัต เป็นพี่น้องกัน ได้เกิดมีการแย่งสมบัติฝ่ายผู้เป็นพี่(พระพุทธเจ้า)
ได้วางแผนฆ่าน้อง(พระเทวฑัต)โดยผลักศิลามาจากหน้าผา มาทับน้องชายเสียชีวิต ทำให้ท่านต้อง
ตกนรกรับทุกข์ทรมานหลายชาติ เนื่องจากผลแห่งการจองเวรกัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2008, 3:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ kokorado และคุณ natdanai ครับ


ข้อความของคุณ kokorado

แล้วกรณีขององคุลีมาล ที่ฆ่าคนไปพันกว่าคน การก้าวล่วงบาปกรรมจะเพียงพอเหรอ ถ้าท่าน
ไม่เป็นพระอรหันต์ คงไม่พ้นนรกแน่ๆ



ผมขอตอบดังนี้

1. การก้าวล่วงบาปกรรม ทำให้กรรมในชาตินั้นเบาบางลง องคุลิมาลจึงโดนแต่ถูกหินขว้าง จริงๆต้องไป
รับผลกรรมต่อในชาติหน้า ตามกฎแห่งกรรม ทำกับขันธ์ของคนอื่นอย่างไร ก็องรับผลอย่างนั้น

2. การเป็นพระอรหันต์ ทำให้ไม่มีโอกาสเกิดอีก กรรมที่ต้องรับต่อในโลกจึงเป็นโมฆะ

3. การก้าวล่างบาปกรรม ทำให้องคุลิมาลต้องรับโทษในนรกแค่เศษกรรม แต่การเป็นพระอรหันต์
ทำให้ท่านไม่มีโอกาสรับโทษเศษกรรมในนรก
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง