Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
...แพทย์แนะ 7 วิธีเลี่ยงหายนะจากพนันบอล...
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 26 มิ.ย.2008, 5:09 pm
จิตแพทย์ เผยผู้ที่ติดเกม-สารเสพติด-หวย-อินเตอร์เน็ต-การพนัน
และแฟนมีแนวโน้มติดพนันบอลได้
ชี้ติดมากชีวิตหายนะ หนี้สินท่วมตัว ร้ายแรงขั้นถูกขู่เอาชีวิต
บ้านเมืองวิกฤติอาชญากรรมเกลื่อน
ระบุอาจเกิดความเครียด ซึมเศร้า และฆ่าตัวตายได้
แนะ 7 วิธีหลีกเลี่ยง เอาชนะการติดพนันบอล
นพ. กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลมนารมย์
เปิดเผยว่า ผู้ที่มีลักษณะการติดอย่างใดอย่างหนึ่ง
เช่น ติดหวย อินเตอร์เน็ต สารเสพติด การพนันชนิดอื่นๆ
หรือแม้กระทั่งติดแฟน ก็อาจจะทำให้ติดการพนันฟุตบอลได้
เพราะในทางจิตเวชศาสตร์
เรียกการติดอะไรสักอย่างว่า Dependence
ซึ่ง การติดการพนันแบบงอมแงมก็อาจจะนำความหายนะมาสู่ชีวิตได้
เนื่องจากเป็นหนี้ และไม่มีเงินจ่าย
อาจถูกขู่เอาชีวิตจากเจ้าของโต๊ะพนันบอล
ทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า
และอาจตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา
" การใจจดใจจ่ออยู่กับการพนันเป็นเวลานาน
มีโอกาสทำให้ใจหงุดหงิด
ก้าวร้าวถูกกระตุ้นทางอารมณ์เพียงเล็กน้อยก็ทนไม่ได้
นอกจากนี้ทำให้เสียเวลา เสียสมาธิในการเรียนการทำงาน
อีกทั้งสัมพันธภาพในครอบครัวก็ด้อยลงไป
ที่น่ากลัวที่สุดคือการเป็นหนี้สิน ต้องหาเงินมาใช้
เมื่อไม่มีก็ถูกขู่ทำร้าย บางรายถึงแก่ชีวิตก็มี"
จิตแพทย์รพ.มนารมย์ กล่าว
นพ. กัมปนาท กล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบต่อคนในครอบครัวนั้น
อาจทำให้สัมพันธภาพในครอบครัวสั่นคลอน
สมาชิกในครอบครัวมีโอกาสตกเป็นเหยื่อ
หรือเป้าหมายในการชดใช้ค่าพนันบอลแทน
บางครอบครัวไม่ยอมรับก็อาจจะถูกข่มขู่ทำร้ายได้
นอกจากนี้เมื่อบุตรหลานในครอบครัวติดการพนันแล้ว
วิธีการจัดการด้วยความโกรธ
ยิ่งทำให้สัมพันธภาพยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ
ในที่สุดเด็กและเยาวชนเหล่านั้นก็เตลิดออกจากบ้านในที่สุด
ทางด้านสังคมและประเทศชาติ
กล่าวคือเมื่อมีคนเป็นหนี้การพนันมากขึ้น
ส่งผลกระทบต่อปัญหาอาชญากรรมที่ตามมา
ประสิทธิภาพในการทำงานพัฒนาองค์กร
หรือการพัฒนาของประเทศชาติอาจด้อยลงไปได้
นพ.กัมปนาท ระบุว่า คนที่มีประวัติการติดหลายๆ อย่างมาตลอด
ไม่ว่าจะติดเกม ติดเน็ต ติดแฟน ติดสารเสพติด
อาจทำให้ติดพนันฟุตบอลได้
คนเหล่านี้ลึกๆ มักจะมีปัญหาทางด้านจิตใจอื่นๆร่วมด้วย
เช่น เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ ขาดความภาคภูมิใจในตนเอง
รักสนุก ขาดความรับผิดชอบในตัวเอง
ไม่ค่อยมีความอดทนในการดำเนินชีวิต
อยากมีเงินแต่ไม่อยากทำงาน และที่สำคัญอยากรวยทางลัด
สาเหตุหลัก ๆ ของการติดการพนันนั้นเกิดจาก
ประการที่ 1
คือการได้รับแบบอย่างที่ไม่ดีมาจากครอบครัวหรือผู้เลี้ยงดู
คือเรียกว่าอยู่กับสิ่งเหล่านี้มาตลอดทั้งชีวิต
พ่อติดเหล้า แม่ติดหวย มีหรือที่ลูกจะไม่ติดเกมและการพนัน
แบบอย่างที่ไม่ดีเหล่านี้
ย่อมนำมาซึ่งความหายนะของคนในครอบครัวในที่สุด
ประการที่ 2
คือลักษณะการจัดการกับการติดทั้งหลายของคนในครอบครัว
เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
นั่นคือการฝึกเยาวชนให้เป็นคนมีระเบียบวินัย
สามารถที่จะควบคุมตนเองให้ไม่ไปหลงงมงาย
หรือมัวเมาอยู่กับอบายมุข
เช่น ไม่มีความสม่ำเสมอในการจัดการกับปัญหา(inconsistency)
เรียก ว่าไม่เอาจริงเอาจัง โมโห เกรี้ยวกราด
ไม่พอใจที่ลูกติดการพนัน แต่ในที่สุดก็ปลง หรือเฉยๆ
บอกว่าหมดหวัง ถ้าไม่ลุกขึ้นมาจัดการ
ปัญหาก็จะยังอยู่อย่างนั้น ที่น่ากลัวกว่านั้น
พ่อแม่หลายคนกลัวลูกจะเสียใจ ถูกขัดใจแล้วเครียด
จึงยอมเครียดเอง บางทีก็เครียดจนตัวเองซึมเศร้า ฆ่าตัวตายไปก็มี
ประการที่ 3
คือเรื่องของสังคม
สิ่งแวดล้อมแย่ๆ ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี
ในการเล่นการพนัน จนเอื้ออำนวยความสะดวกในการเล่นการพนัน
รวมกับความล้มเหลวของหน่วยงานภาครัฐ
ในการจัดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
ก็เลยไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
สำหรับคำแนะ 7 แนวทางในการป้องกันเพื่อไม่ให้ติดการพนันบอล มีดังนี้
1. สถาบันครอบครัวถือว่ามีความสำคัญที่สุด
ในการสร้างเกราะป้องกันให้เยาวชน
การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดคงไม่เพียงพอ
ถ้าไม่แสดงให้บุตรหลานเห็นว่า
การเล่นการพนันเป็นตัวนำพาความหายนะมาสู่ครอบครัว
ดังนั้นท่าทีของพ่อแม่ผู้ปกครอง
ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแสดงให้เห็นว่า เอาจริง อย่าทำแค่เพียงขู่
หรือปลงหรือเซ็ง และก็ปล่อยให้ผ่านไป
เพราะนั่นจะเป็นตัวแสดงให้เห็นว่าพ่อแม่หรือผู้ปกครองจริงจังด้วย
2. การเอาจริงไม่จำเป็นต้องอาศัยความเกรี้ยวกราด
ความรุนแรงก้าวร้าวก็ได้
วิธีการที่นุ่มนวลในการค่อยๆทำความเข้าใจ
มีความอดทนในการแก้ปัญหาของบุตรหลานที่เกิดขึ้น
จะเป็นสิ่งที่ทำให้บุตรหลาน
ที่มีปัญหาเหล่านั้นยังคงอยู่ในสายตาของครอบครัวได้
ดีกว่าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาจนเตลิดเปิดเปิงไป
3. ร่วมกันช่วยคิดช่วยแก้ปัญหา
เมื่อบุตรหลานเกิดปัญหาจากการเล่นพนัน
ถ้าแก้ไม่ได้หรือคิดไม่ออกให้พยายามปรึกษาหน่วยงานภาครัฐ
ที่สามารถให้คำ ปรึกษาได้ จะดีกว่า
เช่น หน่วยงานทางด้านการดูแลสุขภาพจิต
หน่วยงานของสถานศึกษา เป็นต้น
4. สนับสนุนให้มีการดึงผู้ติดการพนันออกไปสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์
เช่น การออกกำลังกาย การสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมสัมพันธภาพอันดี
ให้กับคนในครอบครัว ลดการตำหนิติเตียน แต่หันมาชื่นชม
เมื่อบุตรหลานที่ติดการพนันเหล่านั้น
สามรถทำสิ่งที่ดีๆและสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้
5. สังคมและครอบครัวต้องร่วมมือกันสร้างค่านิยมใหม่
เช่น ค่านิยมของการพอเพียง
การไม่คิดรวยทางลัด เพราะมีโอกาสจะประสบความสำเร็จ
ได้น้อยกว่าการมีความขยันหมั่นเพียรอย่างแท้จริง
ไม่ให้ความสำคัญกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นแบบอย่างของเยาวชน
แต่ทำตัวไม่ดี ค่านิยมการสนใจกีฬา
โดยไม่ต้องมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง
รวมถึงร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการเล่นการพนันฟุตบอล อย่างสม่ำเสมอ
6. ผู้ที่ติดการพนันฝึกเอาชนะใจของตนเองให้ได้บ่อยครั้ง
และชื่นชมตัวเองทุกครั้งที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้
7. เมื่อทำทุกวิถีทางไม่ได้แล้ว
อีกหนทางหนึ่งที่พอจะช่วยบรรเทาได้
ก็คือการมาปรึกษาบุคลากรทางด้านสุขภาพจิต
มีหลายรายที่ได้รับการรักษา เช่นรับประทานยา
การทำจิตบำบัดหาสาเหตุต้นตอของการลุ่มหลง การติดให้ได้
ก็ช่วยลดความรุนแรงของการติดพนันบอลลงได้พอสมควร
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
คัดลอกจาก...สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
http://www.thaihealth.or.th/node/4744
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th