ความตาย....จักปรากฎ...แก่เรา..

ผู้เยี่ยมชม

http://www.dhamma-isara.org/history/history_1.html

ผู้เยี่ยมชม

ผิดอันค่ะ....

...

http://www.dhamma-isara.org/book_dead.html

..แหะๆๆๆ

ผู้เยี่ยมชม

ในการอธิบายขณิกมรณะ ที่ยกมาข้างต้นนั้น ได้อธิบายว่าเป็นการสลายรือแตกไปของเซลนั้น ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

เพราะความหมายของขณิกมรณะนั้น ได้แก่สังขารธรรมอันดับอันทำลายทุกๆภวังค์มรณะ อธิบายว่า จิตและเจตสิกซึ่งบังเกิดขึ้นในอุปปาทตั้งอยู่ในฐิติขณะ แล้วดับไปในภวังค์ขณะนั้นเป็นมรณะ ได้แก่ขณิกมรณะ

การระลึกถึงความตายด้วยอาการ 8 ประการ ตามบาลี คือ

1 วธกปัจจุปัฏฐาน

2 สัมปัตติวิปัตติ

3 อุปสังหรณะ

4 กายพหุสาธารณะ

5 อายุทุพพละ

6 กายนิมิตตะ

7 อัทธานปริจเฉทะ

8 ขณะปริตตะ

ก็เป็นการอธิบายคลาดเคลื่อนแตกต่างไปจากท่าน พุทธโฆษาจารย์อธิบายไว้ จึงควรสอบทานกับคัมภีร์วิสุทธิมรรค ว่าส่วนใดตรงและส่วนใดไม่ตรงกัน เพราะอรรถะและพยัญชนะย่อมแตกต่างกัน

ผู้เยี่ยมชม

....

http://dharma-gateway.com/ubasok/boonmee/boonmee-01.htm

..แหะๆๆๆ

ผู้เยี่ยมชม

ในลิงค์ความเห็นที่สาม มีความเห็นในเรื่องขณิกมรณะ ต่างกับลิงค์ในความเห็นที่หนึ่ง เพราะในความเห็นที่สามกล่าวได้ชัดเจนว่าขณิกมรณะคือการดับของนามรูป เมื่อพูดถึงรูปที่มีการเกิดดับ ปัญหาจึงมีว่า"เซลล์"ที่ได้มีการกล่าวถึงนั้นจัดเข้าไปอยู่ในรูปชนิดใด ซึ่งต้องเป็นรูปที่มีการเกิดดับตามหลักการเกิดดับของนามรูปด้วย