สามัญลักษณะแห่งสรรพสิ่ง

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 7:49 pm

ได้อ่านธรรมะสอนใจจากหนังสือชื่อ หลักมนุษยศาสตร์ แต่งโดย ผศ.นภาจรี นำเบญจพล อาจารย์ของเรา เห็นว่ามีเนื้อหาที่สอนใจเยาวชน จึงขอเผยแพร่สู่เยาวชน ชอบบทธรรมะสอนใจบทนี้มากจึงอยากมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
"ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยง ไม่แน่นอน ไม่มีสิ่งใดคงอยู่เนานานนิรันดร ไม่มีผู้ใด หรือสัตว์โลกชนิดใด หลีกหนีความทุกข์ไปได้ ทั้งสัตว์โลก บนฟ้า บนดิน ใต้บาดาล ล้วนต้องสัมผัส ความทุกข์
แต่เมื่อใดที่ประจักษ์ว่า ทุกสิ่งล้วนไม่มีตัวตนที่แท้จริง ทุกสิ่งล้วนเป็นอนัตตา ตัวเราไม่ใช่ของเรา สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปในที่สุด
อันเป็นธรรมชาติแห่งชีวิต เมื่อนั้นความทุกข์ก็จะดับมอดลง จึงควรอยู่ในโลก แบบไม่ติดข้องกับโลก ดุจหยดย้ำที่สัมผัสใบบัวไม่ยึดติดกับใบบัวฉันนั้น"

คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับบทธรรมสอนใจบทนี้

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 7:57 pm

ก็เห็นด้วยนะ แต่มันก็ไม่ 100% หรอกนะ จิงไหม จขกท

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 8:05 pm

เห็นด้วยคับผม

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 8:10 pm

แก้ไขใหม่ จกขท
ได้อ่านธรรมะสอนใจจากหนังสือชื่อ หลักมนุษยศาสตร์ แต่งโดย ผศ.นภาจรี นำเบญจพล อาจารย์ของเรา เห็นว่ามีเนื้อหาที่สอนใจเยาวชน จึงขอเผยแพร่สู่เยาวชน ชอบบทธรรมะสอนใจบทนี้มากจึงอยากมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
"ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยง ไม่แน่นอน ไม่มีสิ่งใดคงอยู่เนานานนิรันดร ไม่มีผู้ใด หรือสัตว์โลกชนิดใด หลีกหนีความทุกข์ไปได้ ทั้งสัตว์โลก บนฟ้า บนดิน ใต้บาดาล ล้วนต้องสัมผัส ความทุกข์
แต่เมื่อใดที่ประจักษ์ว่า ทุกสิ่งล้วนไม่มีตัวตนที่แท้จริง ทุกสิ่งล้วนเป็นอนัตตา ตัวเราไม่ใช่ของเรา สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปในที่สุด
อันเป็นธรรมชาติแห่งชีวิต เมื่อนั้นความทุกข์ก็จะดับมอดลง จึงควรอยู่ในโลก แบบไม่ติดข้องกับโลก ดุจหยดน้ำที่สัมผัสใบบัวไม่ยึดติดกับใบบัวฉันนั้น"

คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับบทธรรมะสอนใจบทนี้

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 8:16 pm

ก็ถูกต้องตามกฏไตรลักษณะญาณนี่ครับ

คือไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 8:21 pm

ว่าไปแล้วก็เห็นด้วยนะครับ

เพราะว่า อะไรๆมันก็ไม่แน่นอนซักอย่าง

ในชีวิตเรา ในแต่ละวันไม่รู้จะเปนยังไง

เราหรือคนอื่นๆจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

มันไม่แน่นอน

สิ่งที่เราหวังไว้ และอยากให้เป็น ยังไม่เปนไปตามที่เราหวัง

ทั้งนี้เราควรจะยอมรับความจริงที่เป็นอยู่

และทำวันแต่ละวันในชีวิตของเราให้คุ้มค่า

ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็น มนุษย์

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 8:27 pm

ส่วนตัวเราชอบ บทนี้นะ สอนให้อยู่กับความเป็นจริง ไม่ต้องยึดติดกับวัตถุ เพราะตายไปแล้วไม่สามารถเอาอะไรไปได้มีแต่ความดีเท่านั้นที่จะติดตัวเราไป

ตอบเมื่อ: 24 มิ.ย.2008, 10:46 pm

อ้างอิงจาก:

ส่วนตัวเราชอบ บทนี้นะ สอนให้อยู่กับความเป็นจริง ไม่ต้องยึดติดกับวัตถุ เพราะตายไปแล้วไม่สามารถเอาอะไรไปได้มีแต่ความดีเท่านั้นที่จะติดตัวเราไป

สาธุครับ นี่เรียกได้ว่ามีปัญญาระดับ
สุตมยปัญญา คือจากการได้เรียนรู้มาแล้วครับ เม่ือนำมาใคร่ครวญก็ได้ปํัญญาจากการใคร่ครวญนั้นเกิดเป็นปัญญา
ระดับจินตามยปัญญา ต่อไปท่านสามารถเจริญปัญญาระดับ
สูงสุดจนสามารถประจักษ์ ภาวะไตรลักษณ์ท่ีแท้จริงด้วยตนเอง
เกิดปัญญาระดับภาวนามยปัญญาสามารถทำลาย ตัณหาอุปาทานและ
กิเลสท้ังหมดจนไม่มีปัจจัยนำมาซึ่งภพชาติต่อไป จึงพ้นจากทุกข์ท้ังมวล

บทความนี้เป็นบทความท่ีดีถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ

สาธุ

ตอบเมื่อ: 25 มิ.ย.2008, 6:31 am

ถ้ายังมีความชอบอยู่ก็ยังจะติดอยู่นะครับ

เอาแค่พิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริงก็น่าจะเพียงพอแล้ว สาธุ

ตอบเมื่อ: 25 มิ.ย.2008, 6:50 pm

ผู้เขียน ก็คงจะได้น้อมนำเอาคำสอนของพระพุทธองค์มาพิจารณา
และคงเพราะว่าได้พิจารณาแล้ว เห็นด้วย เห็นจริง ตามที่ทรงสอน
ก็เลยเขียนขึ้นมาอย่างนี้ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงกล่าวสอนไว้