Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พูดเล่าเรื่อง...ของเน่า เน่า นะจ้ะ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
รัฐนันท์ แสงพิทักษ์
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 08 มี.ค. 2008
ตอบ: 4
ที่อยู่ (จังหวัด): นครปฐม
ตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2008, 1:12 pm
พูดเล่าเรื่อง...ของเน่า เน่า นะจ้ะ
วันหนึ่งมีคณะญาติโยมทายกทายิกานั่งรถมากันมากมายเพื่อเดินทางมากราบนมัสการ พวกเขาได้นำดอกไม้ธูปเทียนและข้าวของเงินทองจำนวนมากมา เพื่อถวายทานพระธรรมงามเพราะความเลื่อมใสที่เห็นหลวงพ่อท่านปฎิบัติดีปฎิบัติธุดงค์เคร่งครัด และมุ่งบำเพ็ญสมณธรรมเพื่อความหลุดพ้นจริงๆ
หลังจากที่ทุกคนรับประทานข้าวห่อ อาหารเตรียมกันมาเองเสร็จแล้ว ทุกคนจึงเข้ามาร่วมกันที่ศาลาโรงธรรมภายในวัดบ่อน้ำร้อน ท่านพระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงามนั่งยิ้มต้อนรับพวกญาติโยมอยู่ด้วยความเบิกบานผ่องใส และได้ทักทายปราศรัยกับคณะที่มาเยี่ยมนั้นอย่างเป็นกันเอง ไม่มีการถือตัว ไม่มีการเล่นตัวด้วย
การให้คนพบยากๆ และไม่มีการแสดงบทบาทที่จะทำให้คนเห็นว่าท่านพระธรรมงามเป็นผู้สำรวมมากและเคร่งครัดมาก เพื่อเรียกศรัทธาจากมหาชน ท่านไม่ได้ทำเช่นนั้น ท่านกล่าวขึ้นว่า...
ท่านผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลาย! เราจะประพฤติพรหมจรรย์นี้ มิใช่เพื่อหลอกลวงคน
มิใช่เพื่อให้คนบ่นถึง
มิใช่เพื่อผลลาภสักการะ พร้อมชื่อเสียง
มิใช่เพื่อเป็นเจ้าลัทธิ
มิใช่เพื่อให้คนทั้งหลายรู้จักเราก็หามิได้ แต่ ที่จริงแล้ว เราประพฤติพรหมจรรย์นี้....
เพื่อความสำรวมระวัว
เพื่อละกิเลส
เพื่อคลายกิเลส และ เพื่อดับกิเลสเท่านั้น นั่นล่ะ "พระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงาม"
เวลาคณะญาติโยมทายกทายิกามาเยี่ยมกราบนมัสการ ท่านพระธรรมงามก็แสดงธรรมด้วยคำพูดสั้นๆ เสียงดังตามวิสัยของพระธุดงค์อยู่ป่าว่า "อย่าเหยียบมัน" แล้วท่านนั่งนิ่ง
หัวหน้าคณะญาติโยมทายกทายิกาที่มาเยี่ยมก็เตรียมพิธีการทางศาสนา ถวายผ้าป่าและจตุปัจจัยเป็นจำนวนหลายหมื่นหลายพันบาท จึงนำใส่พานและถาดเข้าไปถวายท่าน ทันใดนั้นท่านพระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงามก็ลุกขึ้นยืนและเดินหนีไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาหลวงป่ากรุงประมานห้าร้อยเมตร
หัวหน้าคณะผ้าป่าและกรรมการหมู่บ้านสองถึงสามคน จึงตามไปนิมนต์ให้กลับไปรับไทยทาน ระหว่างทางหยุดพัก มีต้นสับปะรดหลายต้น ท่านพระธรรมงามไม่พูดว่าอะไร แต่กลับหยิบผลสับปะรดเน่าให้พวกเขาคนละผล พวกเรารู้สึกงงไปตามๆกัน แต่ก็รับไว้และสงสัยว่า
"ท่านหมายความว่าอย่างไร"?
พอมาถึงที่ศาลาโรงธรรมอีกครั้ง ท่านจึงถามญาติโยมว่า "สับปะรด ล่ะ! " ท่านถามเสียงดุๆ แล้วจ้องหน้าพวกเขาอยู่นั้น เขม็งเลยทีเดียว "พวกกระผมทิ้งแล้วขอรับ" หัวหน้าคณะญาติโยมตอบเสียงอ่อยๆด้วยความเหนื่อยหน่าย อ่อนล้า "ทำไม พวกเธอจึงไม่กินสับปะรดที่ฉันให้" ท่านหลวงพ่อธรรมงามถาม "มันเน่าครับท่าน กินไม่ได้ !" กรรมการหมู่บ้านคนหนึ่งตอบท่านให้ทราบ
หลวงพ่อได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไร ขึ้นนั่งธรรมาสน์ พอได้เวลาอันสมควรหัวหน้าคณะญาติโยมนำพานถาดดอกไม้ธูปเทียนและจตุปัจจัย เข้ามาถวายท่าน โดยกล่าวคำถวายผ้าป่าเป็นที่เรียบร้อย แล้วน้อมนำเข้าไปถวายหลวงพ่อธรรมงาม ท่านจึงได้พูดขึ้นว่า " ฉันไม่เอาล่ะ"
"อ้าว ทำไมหลวงพ่อจึงไม่รับของเหล่านี้ของพวกกระผมที่มีศรัทธาเสียล่ะครับ?" ญาติโยมถามอีก หลวงพ่อธรรมงามจึงเทศนาให้พวกเขาฟังดังนี้ว่า
ลาภ สักการะ คือ ของเน่า ลาภสักการะนั้นเป็นเหมือนขี้อุจจาระ สมณะที่ยินดีและแสดงเล่ห์เพทุบายเพื่อให้คนเลื่อมใสตัวเองโดยหวังจะได้มาซึ่งลาภ สักการะและชื่อเสียง สมณะนั้นก็เปรียบเหมือนคนที่เดินลุยหรือวกวนอยู่ในทะเลบ่ออุจจาระนั่นเอง
ญาติโยมทั้งหลาย ผู้ใดหลุดพ้นย่อมไม่แสดงเลสนัยให้มหาชนรู้ว่าท่านหลุดพ้น ผู้หลุดพ้นย่อมไม่ทำตัวเป็นจุดเด่นเพื่อให้มหาชนเลื่อมใสศรัทธา มีแต่พระที่ยังไม่หลุดพ้นเท่านั้นที่ชอบแสดงให้คนทั้งหลายคิดว่าเป็นพระองค์ที่หลุดพ้นแล้วด้วยข้อวัตรปฎิบัติอันเคร่งครัด แต่เต็มไปด้วยความลุ่มหลงในตัวเอง
ญาติโยมทั้งหลาย ถ้าเธอทั้งหลายจะปฎิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เธอทั้งหลายก็อย่าประกาศให้ใครที่ไหนรู้ว่า เธอกำลังจะปฎิบัติหรือกำลังปฎิบัติอยู่ ถ้าเธอจะอดข้าวอดน้ำ เพื่อข่มกิเลสตัวเอง เธอก็อย่าโฆษณาว่าเธอกำลังจะทำเช่นนั้น เพราะการกระทำเช่นนั้นมันเป็นการกระทำของคนผู้หลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเอง รักตัวเองอย่างเมามัวและทำเช่นนั้นเพื่อให้ประชาชนมาเลื่อมใสเขา
ญาติโยมทั้งหลาย ธรรมะที่แท้จริงคือจิต จิดอยางเดียวเท่านั้น จิตที่ไม่มีตัวไม่มีความยึดมั่นถือมั่นห่วงในตัวเอง ไม่มีความสำคัญมั่นหมายว่า ฉันดี ฉันมีบุญบารมี ฉันเก่ง ฉันเป็นผู้วิเศษ ฉันดี ฉันร้าย ฉันได้ ฉันเสีย ฉันสุขหรือแม้กระทั่งฉันทุกข์
ญาติโยมทั้งหลาย หลวงพ่อธรรมงามองค์นี้ ไม่ใช่พระวิเศษอะไร ไม่ใช่พระผู้รู้ ไม่ใช่พระผู้สำเร็จ ไม่ใช่พระอรหันต์ที่ไหน ไม่ใช่พระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบอะไร และไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีมา
พวกเธอทั้งหลายจงฝึกจึ เพื่อให้จิตคลายความรู้สึกว่า ฉันเป็นนั้น ฉันเป็นนี่เสียให้หมดสิ้นไปจากสันดาน แล้วพวกเธอก็จะรู้ว่าสภาวะที่ไม่มีทุกข์ทางใจจริงๆนั้นอยู่ทีใด โดยไม่ต้องเสียเวลาไปวิ่งหาอาจารย์ผู้วิเศษที่ไหนอีกเลย เพราะอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้น ไม่มีใครเลยที่สามารถช่วยให้พวกเธอหมดทุกข์โศกโรคภัยได้ เพราะแม้จริงแล้วความทุกข์จะหมดไปจากใจของพวกเธอได้ ก็เพราะพวกเธอปฎิบัติธรรมเพื่อบรรลุธรรมด้วยสติปัญญาของตัวเองเท่านั้น ไม่มีบารมีของอาจารย์ผู้วิเศษที่ไหน จะช่วยพวกเธอได้ในแง่ธรรมนี้
ญาติโยมทั้งหลาย จิตที่ปราศจากความหลงตัวเองนั้นแหละคือ ธรรมะ ถ้าพวกเธอคิดว่าฉันทำไม่ได้ ฉันปฎิบัติไม่ได้ ฉันละกิเลสไม่ได้ พวกเธอก็จงอย่าปฎิบัติอะไรเลย จงอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องทำบาป อยู่เฉยๆโดยไม่ต้องสุขหรือทุกข์ ไม่ต้องอยากได้ อยากเป็นอะไร แม้แต่อยากเป็นพระอรหันต์ก็อย่าอยากเป็น
ถ้าพวกเธอหยุดความปรุงแต่งทุกอย่างดังที่ว่ามานั้นเสียแล้ว พวกเธอก็จะรู้เองว่า แท้จริงการปฎิบัติธรรมนี้ ไม่ต้องทำอะไรเลย ซึ่งเมื่อพวกเธอไม่ทำอะไรเลยเช่นนั้นได้ จิตของพวกเธอก็จะบรรลุความสำเร็จทุกประการ ฉันหวังว่าต่อไปนี้ พวกเธอคงจะเลิกหลงใหลในตัวบุคคลพระสงฆ์ผู้วิเศษกันเสียที....
รัฐนันท์ แสงพิทักษ์
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 08 มี.ค. 2008
ตอบ: 4
ที่อยู่ (จังหวัด): นครปฐม
ตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2008, 1:20 pm
ขอบคุณทุกคนนะคะที่เข้ามาอ่านบทความธรรมะดีๆกัน
โดยส่วนตัวได้เคยมีโอกาสกราบนมัสการหลวงพ่อธรรมงาม ซึ่งท่านจะลงมาเทศนาธรรมให้ฟังสามเดือนต่อหนึ่งครั้งค่ะ
จึงมีความปรารถนาที่จะเผยแพร่ธรรมะของท่านให้ท่านสาธุชนทั้งหลายได้ร่วมอ่านร่วมอิ่มบุญกันนะคะ
หากมีความผิดพลาดประการใดขออภัย ไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะคะ
หากใครมีคำถามหรือแสดงความคิดเห็นใด กรุณาเขียนมานะคะ อาจมีบางเรื่องที่พอรับฟังและตอบคำถามได้อยู่บ้างค่ะ
วัฒนา
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 08 ธ.ค. 2006
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
ตอบเมื่อ: 12 พ.ค.2008, 2:21 pm
สวัสดีครับ คุณรัฐนันท์
ได้อ่านแล้วรู้สึกว่าท่านเป็นพระที่หาได้ยากจริงๆ ครับ
ต้องขอขอบคุณนะครับสำหรับบทความดีๆ
วัฒนา สมุทรปราการ
_________________
รักตัวเองเป็นแล้ว ให้รักผู้อื่นด้วย
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th