Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ฟ้าสางทางความลับสุดยอด อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ชาญวิทย์
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2008
ตอบ: 152

ตอบตอบเมื่อ: 08 พ.ค.2008, 5:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฟ้าสางทางความลับสุดยอด
ชีวิตเป็นสิ่งที่พัฒนาได้ ตามประสงค์ โดยกฏอิทัปปัจจยตา
ดังนั้น ชีวิตจึงเป็นสิ่งที่เราเติมธรรมะลงไปได้ตามที่เราต้องการ
โดยการปฏิบัติธรรม. (๑)

ถ้ามีการศึกษาที่เห็นแจ้งจากภายใน (เป็นสันทิฏฐืโก) แล้ว
ก็ไม่มีทางที่จะเป็นทาสทางสติปัญญาของใคร แม้แต่ของพระพุทธเจ้า:
นี้เป็นหลักของพระพุทธศาสนา (ตามกาลามสูตรข้อสิบ) (๒)

ถ้าใช้หลักกาลามสูตรเป็นเครื่องตัดสินว่า
เป็นสิ่งที่ควรรับถือเป็นหลักปฏิบัติแล้ว
ก็ไม่ต้องคำนึงว่าเป็นคำสอนของใคร
เป็นของเดิมแท้หรือเป็นของใหม่ ฯลฯ
หรือว่ามีประวัติมาอย่างไร (๓)

การมีธรรมะแท้จริง ก็คือ
สามารถดำรงตนอยู่เหนือปัญหา
หรือความทุกข์ทั้งปวง;
ไม่เกี่ยวกับปริญญาบัตร ฯลฯ พิธีรีตอง
หรือ หลักปรัชญาชนิดฟิโลโซฟี่ใดๆ (๔)

เรามีวิธีทำให้ชีวิตเป็นของเย็น
ทุกอิริยาบถตามที่เราประสงค์จะมี
ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ :
เพื่อตนเอง - เพื่อสังคม - ตามธรรมชาติล้วนๆ (๕)

การศึกษา - ศาสนา - วัฒนธรรม - ประเพณี -
การเมือง - การปกครอง - การเศรษฐกิจ - ศิลปะ ฯลฯ -
วิทยาการใดๆ จะถือว่าถูกต้องได้
เฉพาะเมื่อพิสูจน์การดับทุกข์ได้ในตัวมันเอง (๖)

การเรียน - การรู้ - การมีความรู้ - การปฏิบัติ -
การใช้ความรู้ให้สำเร็จประโยชน์ เหล่านี้
มิใช่สิ่งเดียวกัน; ระวังการมี การใช้ ให้ถูกต้อง (๗)

ชีวิตเย็นเป็นนิพพาน ในปัจจุบัน คือ
ไม่มีกิเลส เกิดขึ้นแผดเผาให้เร่าร้อน ทุกเวลานาที ทุกอิริยาบถ,
ในความรู้สึกอย่างสันทิฏฐิโก (คือรู้สึกอยู่ภายในใจ) (๘)

มีชีวิตเย็นเป็นนิพพาน (นิพฺพุโต) ในปัจจุบันได้
โดยที่ทุกอย่างถูกต้องแล้ว พร้อมแล้ว ไม่ว่าสำหรับจะตายหรือจะอยู่;
เพราะไม่มีอะไรยึดถือไว้ว่า กู-ของกู (๙)

กิจกรรมทางเพศเป็นของร้อน และเป็นเรื่อง "บ้าวูบเดียว";
แต่คนและสัตว์ (แม้ต้นไม้?) ก็ตกเป็นทาสของมันยิ่งกว่าสิ่งใด (๑๐)

อวัยวะสืบพันธุ์ มีไว้สำหรับผู้ต้องการสืบพันธุ์
หรือผู้ต้องการรสอร่อยจากกามคุณ (กามอสฺสาท)
อันเป็นค่าจ้างให้สัตว์สืบพันธุ์ ด้วยความยากลำบากและน่าเกลียด;
แต่ไม่เป็นที่ต้องการของผู้จะอยู่อย่างสงบ (๑๑)

เรื่องเพศหรือเกี่ยวกับเพศ
ธรรมชาติสร้างมาสำหรับมนุษย์ - สัตว์ - พฤกษชาติ ไม่สูญพันธุ์ ;
ไม่ใช่ของขวัญที่ใครจะเรียกร้อง
ไม่ใช่ของควรบูชาในฐานะสิ่งสูงสุด ว่าเป็นกามเทพ เป็นต้น (๑๒)

กามารมณ์เป็นค่าจ้างทางเพศ เพื่อการสืบพันธ์
อันสกปรกเหน็ดเหนื่อยและน่าเกลียดจากธรรมชาติ,
มิใช่ของขวัญ หรือ หรรษทานจากเทพเจ้าแต่ประการใด
เลิกบูชากันเสียเถิด (๑๓)

กามกิจก็เป็นหน้าที่ที่เป็นธรรมะอย่างหนึ่งด้วยเหมือนกัน;
แต่ต้องประพฤติกันอย่างถูกต้องและพอดี สำหรับอริยชนที่ครองเรือน (๑๔)

การสมรสด้วยจิตหรือทางวิญญาณ (เช่น ทิฏฐิตรงกัน) นั้น
เป็น "พรหมสมรส" ยังบริสุทธิ์ สะอาดดี ไม่ก่อให้เกิดทุกข์หรือปัญหาใดๆ ;
ส่วนการสมรสทางกาย หรือเนื้อหนัง นั้น
สกปรก น่าเกลียด เหน็ดเหนื่อยเกินไป
จนไม่รู้ว่าอะไรเป็นการสมรส (๑๕)

กามที่เกี่ยวกับเพศ เป็นได้ทั้งเทพเจ้าและปีศาจ
ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ประกอบกิจนั้น มีธรรมะผิดถูกมากน้อยเพียงไร (๑๖)

พวกที่ถือพระเจ้า ถือว่าอะไรๆ ก็แล้วแต่พระเจ้าบันดาล
ส่วนชาวพุทธถือว่าแล้วแต่การกระทำผิดหรือถูก ต่อกฏอิทัปปัจจยตา;
ดังนั้นควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า "พระเจ้า" กันเสียใหม่ให้ถูกต้อง
คือมีทั้งที่มีความรู้สึกอย่างบุคคล และไม่มีความรู้สึกอย่างบุคคล
อย่างไหนจะเป็นที่พึ่งได้และยุติธรรม ไม่รับสินบน (๑๗)

พระเจ้าคือสิ่งสูงสุดนั้น ไม่ดี-ไม่ชั่ว แต่อยู่เหนือดีเหนือชั่ว
จึงสามารถให้เกิดความหมาย ว่าดี ว่าชั่ว
ให้แก่ความรู้สึกของมนุษย์ได้ทุกอย่าง จนงงไปเอง (๑๘)

พระเจ้า คือ กฏ สำหรับบังคับสิ่งที่เกิดจากกฏให้ต้องเป็นไปตามกฏ
โดยเด็ดขาด และเที่ยงธรรม;
ดังนั้น พระเจ้าจึงอยู่เหนือสิ่งทั้งปวงได้จริง (๑๙)

พระเจ้าเป็นที่รวมแห่งความจริง
มิใช่แห่งความดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังหละหลวม และเป็นมายาอยู่มาก
จนต้องเป็นคู่กันกับความชั่ว;
ถ้าพระเจ้าเป็นความดี ก็จะกลายเป็นคู่กันกับซาตานหรือมารร้ายไปเสียฯ (๒๐)

----------------------------------------------------------------------
คัดลอกจาก พุทธทาสดอทคอม สาธุ สาธุ ร้องไห้ ร้องไห้ ปรบมือ ปรบมือ
 

_________________
ธรรมะคือธรรมชาติ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง