เรามีพระพุทธเจ้ากี่พระองค์ ทราบกันมั้ย?

ตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 12:04 am

พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
1.พระพุทธเจ้ากุกกุสันทะ
2.พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ
3.พระพุทธเจ้ากัสสปะ
4.พระพุทธเจ้าโคตมะ
5.พระอริยเมตตรัย

รายละเอียดเพิ่มเติมครับ
http://www.dansangob.com/Buddha_five.shtml
http://www.dansangob.com/Buddha_five06.shtml

ตอบถูกกันบ้างมั้ยครับ?

ตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 12:41 pm

พระพุทธเจ้า ในภัททกัปนี้ มี 5 พระองค์ คือ
1.พระกกุสันธะ
2.พระโกนาคมนะ
3.พระกัสสปะ
4.พระโคตมะ
5.พระศรีอริยเมตไตย (อนาคต)
แต่ถ้าเริ่มนับตั้งแต่กัปป์ที่เริ่มพุทธพยากรณ์ ไปจนถึงพระศรีอริยเมตไตย ก็มี 29 พระองค์ คือ

สารมัณฑกัป มี 4 พระองค์
1.พระตัณหังกร
2.พระเมธังกร
3.พระสรณังกร
4.พระทีปังกร (เริ่มพุทธพยากรณ์)

สารกัป มี 1 พระองค์
5.พระโกณฑัญญะ

สารมัณฑกัป มี 4 พระองค์
6.พระมังคละ
7.พระสุมนะ
8.พระเรวตะ
9.พระโสภิตะ

วรกัป มี 3 พระองค์
10.พระอโนมทัสสี
11.พระปทุมะ
12.พระนารทะ

สารกัป มี 1 พระองค์
13.พระปทุมุตตระ

มัณฑกัป มี 2 พระองค์
14.พระสุเมธะ
15.พระสุชาตะ

วรกัป มี 3 พระองค์
16.พระปิยทัสสี
17.พระอัตถทัสสี
18.พระธรรมทัสสี

สารกัป มี 1 พระองค์
19.พระสิทธัตถะ

มัณฑกัป มี 2 พระองค์
20.พระติสสะ
21.พระผุสสะ (ปุสสะ)

สารกัป มี 1 พระองค์
22.พระวิปัสสี

มัณฑกัป มี 2 พระองค์
23.พระสิขี
24.พระเวสสภู

ภัททกัป มี 5 พระองค์
25.พระกกุสันธะ
26.พระโกนาคมนะ
27.พระกัสสปะ
28.พระโคตมะ
29.พระศรีอริยเมตไตย (อนาคต)

ข้อมูลนี้ได้มาจากหนังสือชื่อ "พระพุทธประวัติ" คุยกันวันพุธ เล่มที่ 28
แต่ถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ท้วงติงกันได้

ตอบเมื่อ: 01 ก.ค.2007, 4:19 pm

ที่ปรากฏพระนาม ๒๙ พระองค์ แต่ที่ไม่ปรากฏพระนามนั้นมีมากกว่าเม็ดทรายใน ๔ มหาสมุทรครับ

ตอบเมื่อ: 03 ก.ค.2007, 11:51 pm

เรามีพระพุทธองค์มาแล้วนับไม่ถ้วน แล้วจะมีอีกนับไม่ถ้วนเช่นกัน
แล้วเราจะนับไปทำไหม ? แล้วรู้ไปทำไหม ?
มันสามารถทำให้เราหลุดพ้นได้หรือ เพราะคนที่รู้ก็รู้จากตำราที่กล่าวอ้างมาทั้งนั้น
ไม่ทราบว่า เป็นจริงหรือเปล่า มันไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธองค์ปรารถนาให้ผู้ปฎิบัตินำมาเป็นแก่นสาระ
ผู้ที่เข้าถึงพระพุทธองค์ คือผู้เข้าถึงพระธรรม ต่างหาก
เอาเวลาที่อยกรู้เข้าไปปฎิบัติธรรม แล้วท่านจะได้รู้เองนั้นแหละ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ค.2007, 12:25 pm

พัฒน์ พิมพ์ว่า:

เรามีพระพุทธองค์มาแล้วนับไม่ถ้วน แล้วจะมีอีกนับไม่ถ้วนเช่นกัน
แล้วเราจะนับไปทำไหม ? แล้วรู้ไปทำไหม ?
มันสามารถทำให้เราหลุดพ้นได้หรือ เพราะคนที่รู้ก็รู้จากตำราที่กล่าวอ้างมาทั้งนั้น
ไม่ทราบว่า เป็นจริงหรือเปล่า มันไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธองค์ปรารถนาให้ผู้ปฎิบัตินำมาเป็นแก่นสาระ
ผู้ที่เข้าถึงพระพุทธองค์ คือผู้เข้าถึงพระธรรม ต่างหาก
เอาเวลาที่อยกรู้เข้าไปปฎิบัติธรรม แล้วท่านจะได้รู้เองนั้นแหละ

อาตมาคิดว่าคนถามก็คงถามเพื่อเป็นความรู้ คนที่รู้ท่านก็ตอบตามที่ท่านรู้มา แต่โยมนี่ซิ เป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วตัวโยมเองตอนนี้พ้นจากทุกข์ในวัฏฏะได้หรือยัง โยมรู้หรือเปล่าว่า ข้อมูลที่ได้มาก็เอามาจากพระไตรปิฎกนั่นแหละ แล้วพระไตรปิฎก ก็คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่แบ่งเป็น 3 หมวด ที่โยมว่า เอามาจากตำรที่กล่าวอ้าง ไม่ทราบว่าจะเป็นจริงหรือเปล่า โยมก็ว่าพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ไม่เป็นจริงนะซิ พระพุทธวจนะของพระองค์ ไม่ใช่สิ่งที่พุทธศาสนิกชนต้องการเรียนรู้หรือ โยมทำอะไรลงไปรู้หรือเปล่า บาปมหันต์ ก่อนที่จะกระทำอะไรลงไป ควรจะมีสติคิดพิจารณาเสียก่อน ว่าสิ่งที่เราจะทำลงไป มันเหมาะสมหรือไม่ ชาตินี้ภพนี้โยมคิดว่าตัวโยมเองจะเป็นพระอรหันต์ได้หรือเปล่า โยมคิดว่าตัวโยมเองเข้าถึงพระธรรมอย่างแท้จริงแล้วหรือ สติไม่มา ปัญญาก็ไม่เกิดหรอกนะ จำเอาไว้

ตอบเมื่อ: 05 ก.ค.2007, 5:12 pm

คำถามนี้ ถือเป็นคำถามพลิกชีวิตผมเลยครับ
มีน้องคนนึงไปบวชเณร ปฏิบัติกรรมฐานช่วงปิดเทอมฤดูร้อน สึกแล้วมาคุยกับผม
เขาถามผมว่า พี่รู้ไหม พระพุทธเจ้ามีกี่องค์ ผมก็ตอบไปด้วยภูมิความรู้ในตอนนั้นว่า 5 พระองค์
น้องเขาบอกว่าผิด เขาเฉลยว่า "มีมากกว่าเม็ดทรายใน ๔ มหาสมุทร"
ผมจึงเริ่มไปค้นคว้าหาคำตอบนี้ ในพระไตรปิฏก และ ฝึกปฏิบัติตามสมควร
ถ้าพิจารณาถึงคำถามนี้แล้ว การบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้นเป็นเวลา หลายอสงไขย แล้วการมีพระพุทธเจ้าในอดีตและในอนาคตมายมากจนนับไม่ได้นั้น ให้ลองพิจารณาเห็นภัยในวัฏฏะสงสาร เนิ่นนานจนหาที่มาและหาที่สุดไม่ได้
เมื่อเห็นภัยในวัฏฏะสงสาร แล้วยกตนให้พ้นจากวัฏฏะสงสาร ย่อมมีประโยชน์แน่ครับ
แต่ถ้าถามเล่นๆสนุกๆลองภูมิปัญญากันเล่นๆ นั้นก้อแล้วแต่บุคคลครับ

ตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2007, 7:49 pm

ผมเห็นว่าผู้ที่สงสัยก็มีความประสงค์ดี ต้องการแสวงหาความรู้ ผู้ตอบก็มีความปรารถนาดีอยากชี้ทางสว่างแก่ผู้ถาม จึงตอบตามที่ตนรู้ตนเข้าใจ ผมเห็นว่าเป็นการดีครับ ผมเองก็เจอบ่อยครับที่มักจะมาต่อท้ายว่า "ถามไปทำใม รู้ไปทำใม รู้แล้วไม่เห็นธรรม ไม่ใช่หนทางที่จะเห็นธรรม ไม่เป็นสาระ" แต่ผมเห็นว่าการสนองตอบแก่ผู้แสวงหาความรู้นั้นเป็นสิ่งที่พึงกระทำครับ แค่นั้นครับ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2007, 8:14 pm

มาขอรับความรู้ด้วยค่ะ ขอเป็นผู้รู้ กับเขาบ้าง สาธุ

ตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2007, 5:55 pm

O^_^O

อนุโทนาบุญ แก่ผู้ให้ความรู้ ค่ะ

ตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2007, 4:51 pm

พระพุทธเจ้าก็เกิดขึ้นตามกฏธรรมชาติเช่นเดียวกันนะ ลองเปลี่ยนคำถามใหม่ว่าทำไมพระพุทธเจ้าต้อง
เกิด คำตอบคือเพื่อให้เหล่าสัตว์รู้กฏธรรมชาติแล้วทำตามกฏธรรมชาติ เมื่อใดยังมีผู้ไม่รู้กฏเกิดขึ้นเมื่อนั้
นผู้รู้ย่อมเกิดขึ้นอีกตามกฏธรรมชาติเช่นเดียวกัน ผมว่าที่คุณพัฒน์แนะนำก็ดีครับ แต่ว่าเราน่าจะใช้ถ้อย
คำลักษณะเชิญชวนมากกว่าครับ ทุกอย่างอยู่ในกฏอิทัปปัจยตาหมดครับ

ตอบเมื่อ: 29 ธ.ค.2007, 5:32 pm

เห็นด้วยกับคุณ sittidet ครับ เกี่ยวกับข้อความของคุณพัฒน์

ผมเห็นว่าในคำแนะนำของคุณพัฒน์ก็ดีครับ แต่อยากขอเพิ่มเติมว่า หากเหลือแต่แก่นที่ว่านั้น ผมคงไม่ได้รับฟังนิทานชาดกเป็นแน่แท้ และหากเห็นว่านิทานชาดกก็ไม่ใช่แก่นอีก ไม่ควรพูดถึงอีก

ไม่แน่ว่าผม หรือใครๆ อีกหลายๆ คน คงไม่หันมาให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาครับ เพราะหากคุณไปพูดกับ เด็กๆ ถึงเรื่องสุญญตา หรือธรรมะชั้นสูงอื่นๆ คงได้เลิกพูดกัน ก่อนจะรู้เรื่องกันล่ะครับ

ตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 7:25 pm

อ้างอิงจาก:

เห็นด้วยกับคุณ sittidet ครับ เกี่ยวกับข้อความของคุณพัฒน์

ผมเห็นว่าในคำแนะนำของคุณพัฒน์ก็ดีครับ แต่อยากขอเพิ่มเติมว่า หากเหลือแต่แก่นที่ว่านั้น ผมคงไม่ได้รับฟังนิทานชาดกเป็นแน่แท้ และหากเห็นว่านิทานชาดกก็ไม่ใช่แก่นอีก ไม่ควรพูดถึงอีก

ไม่แน่ว่าผม หรือใครๆ อีกหลายๆ คน คงไม่หันมาให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาครับ เพราะหากคุณไปพูดกับ เด็กๆ ถึงเรื่องสุญญตา หรือธรรมะชั้นสูงอื่นๆ คงได้เลิกพูดกัน ก่อนจะรู้เรื่องกันล่ะครับ

กระพี้และแก่นครับ ฟังคำสอนของพระเกจิอาจารย์บ้างอย่างผิวเผิน บางเรื่องก็เฝือ เกินความเป็นจริง ในพระไตรปิฏกเองก็มีกำหนดไว้ว่าส่วนใดเป็นพระพุทธวจนะ ส่วนใดเพิ่มเติม คุณพัฒน์แสดงความคิดเห็นก็ตามที่เข้าใจ ลองศึกษาความเห็นท่านพุทธทาสสิครับ มีความเป็นเอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ บางส่วนแต่งเพิ่มแต่หนหลัง เน้นทางความสวยงามของวรรณกรรมครับ

ตอบเมื่อ: 26 ก.พ.2008, 8:32 pm

นับประมาณไม่ได้ครับ

ตอบเมื่อ: 07 พ.ค.2008, 8:08 pm

มีกี่พระองค์ไม่รู้นะครับ
ที่ผมเคารพศรัทธาก็ทั้งหมดแหละครับ

เจริญธรรม

ตอบเมื่อ: 08 พ.ค.2008, 7:52 am

อนันตนัย