Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวนักหนา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 23 เม.ย.2008, 9:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สวัสดีทุกท่าน

วันนี้ก็มีโอกาสได้มาระบายความรู้สึกในใจจริงของข้าพเจ้า
เผื่อว่า จะมีใครซักคนที่สามารถแนะทางสว่างให้กับข้าพเจ้าได้
สิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ผีวิญญาณ สัตว์ร้าย หรือโจร
หากแต่เป็นความตาย เพราะว่าข้าพยังอยู่ในช่วงของวัยรุ่น
ยังไม่ได้ทำสิ่งที่อยากจะทำ สิ่งที่ควรจะทำ เช่น การแทนคุณบิดามารดา
การช่วยเหลือสังคม โปรดสัตว์ทั้งหลาย ทั้งหมดคืออุดมการณ์ของข้าพเจ้า
และความตายเป็นสิ่งหนึ่งที่จะพรากมันไป ทุกวันนี้แม้ว่า ข้าพเจ้าจะรู้จัก
กฎไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยงของสังขาร และเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า
อย่าประมาทนะ อย่าประมาทนะ อย่า...

แต่...มันไม่ได้ทำให้ความกลัวตายของข้าพเจ้าลดลงเลย

ท่านเห็นว่าข้าพเจ้าควรจะคิดให้แตกต่างอย่างไร โปรดบอกข้าพเจ้ามาเถิด

ยิ้ม ขอให้ทุกท่าน อะเวรา อัพยาปัชชา อะนีฆา สุขขีอัตานัง สาธุ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 23 เม.ย.2008, 11:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การจะเข้าใจกฎพระไตรลักษณ์นั้นไม่ใช่ว่าสามารถเข้าใจได้ด้วยการคิดเองเออเองนะครับ
แต่การเห็นพระไตรลักษณ์นั้นต้องเห็นจากวิปัสสนาปัญญา เห็นด้วยอำนาจสมาธิ ภาวนา
เราจึงจะเห็นและเข้าใจอย่างถ่องแท้

ความตายเป็นของธรรมดาของทุกคน ถ้าเหตุและปัจจัยแห่งการตายมาถึง ใคร ๆ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้แต่พระผู้ทรงอภิญญา

ดังนั้นเราควรจะพิจารณาธรรมเฉพาะหน้า ที่เกิดขึ้น จะดีกว่า

โดยไม่สนใจสิ่งที่เป็นอดีต หรืออนาคต

สิ่งที่คุณกลัวอยู่นั้นเป็นสิ่งยังไม่ได้เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เป็นอนาคต พระพุทธองค์ไม่ได้ให้ทำ

พระพุทธองค์ทรงให้มีสติ ไม่ประมาท นั่นคือการมีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่จมอยู่กับอดีต ไม่เพ้อฝันอยู่กับอนาคต เพราะจะทำให้ฟุ้งซ่านได้

แล้วอยากถามว่าถ้าเหตุ และปัจจัยแห่งการตายของคุณมาถึง
คุณจะทำอะไรได้นอกจากจะต้องยอมรับแต่โดยดี

แล้วอย่างนี้ทำไมต้องเป็นทุกข์กับสิ่งเหล่านั้น

อันทำให้เกิดอารมณ์ฟุ้งซ่านด้วยหละจริงใหม

อย่าลืมสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2008, 5:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มรรคคา
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้รับ คำแนะนำดีๆจากคุณมรรคา
ข้าพเจ้าอวดดีมาตลอดหรือนี่ ที่ว่าตัวเองรู้กฎพระไตรลักษณ์อย่างแท้แล้ว
แท้จริงตัวข้าพเจ้าเป็นเพียงคนเขลา

ขอผลบุญทั้งชาตินี้และชาติที่แล้วมาจงมีผลดีต่อคุณมรรคาด้วยเทอญ
สาธุ

แต่มันอดไม่ได้จริงๆที่จะฟุ้งซ่านเรื่องกลัวตายก่อนวัย เศร้า
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2008, 8:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามรอย พิมพ์ว่า:
สวัสดีทุกท่าน

วันนี้ก็มีโอกาสได้มาระบายความรู้สึกในใจจริงของข้าพเจ้า
เผื่อว่า จะมีใครซักคนที่สามารถแนะทางสว่างให้กับข้าพเจ้าได้
สิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ผีวิญญาณ สัตว์ร้าย หรือโจร
หากแต่เป็นความตาย เพราะว่าข้าพยังอยู่ในช่วงของวัยรุ่น
ยังไม่ได้ทำสิ่งที่อยากจะทำ สิ่งที่ควรจะทำ เช่น การแทนคุณบิดามารดา
การช่วยเหลือสังคม โปรดสัตว์ทั้งหลาย ทั้งหมดคืออุดมการณ์ของข้าพเจ้า
และความตายเป็นสิ่งหนึ่งที่จะพรากมันไป ทุกวันนี้แม้ว่า ข้าพเจ้าจะรู้จัก
กฎไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยงของสังขาร และเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า
อย่าประมาทนะ อย่าประมาทนะ อย่า...

แต่...มันไม่ได้ทำให้ความกลัวตายของข้าพลดลงเลย

ท่านเห็นว่าข้าพเจ้าควรจะคิดให้แตกต่างอย่างไร โปรดบอกข้าพเจ้ามาเถิด

ยิ้ม ขอให้ทุกท่าน อะเวรา อัพยาปัชชา อะนีฆา สุขขีอัตานัง สาธุ


ตอบ ...
อ่านกระทู้ของคุณแล้ว ถ้าจะให้ตอบตามความเป็นจริงแล้ว คุณอาจจะมีอาการของโรคจิตประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งทางการจิตเวชเขาเรียกว่า "โรคจิตวิตก"
จริงอยู่ มนุษย์ทุกคนต้องตาย (หมายเอาเฉพาะมนุษย์)
แต่คุณทำไมไม่เหลียวมองดูคนที่อยู่รอบข้างที่ใกล้ชิดหรือบุคคลที่คุณได้ร่วมสังคมกับเขาเหล่านั้นว่า ทำไมเขาถึงอยู่ได้โดยที่พวกเขายังไม่ตาย
พ่อแม่ของคุณ ไม่ทราบว่าอายุเท่าไหร่แล้ว ทำไมท่านยังมีชีวิตอยู่มาได้
กฎของไตรลักษณ์ที่คุณกล่าวถึง เขาไม่ได้หมายถึงความตาย เพราะความตาย ไม่ใช่กฎของไตรลักษณ์
แต่ความตาย เป็น หลักความจริง หรืออริยสัจ คือ เมื่อมนุษย์ เกิดมา ก็ย่อมต้องมีการป่วยเจ็บ ก็ย่อมต้องมีการแก่ชรา และเสียชีวิตในที่สุด
กฎของไตรลักษณ์ นั้น เป็นการอธิบายถึง ลักษณะบางอย่าง ของความคิด ความรู้สึก หรืออารมณ์ ของบุคคลนับตั้งแต่ตัวเราเป็นต้นไป
ข้าพเจ้าขอแนะนำให้คุณ ไปพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาอาการ
ที่ข้าพเจ้าแนะนำนี้ ไม่ใช่ดูถูกหรือดูหมิ่นคุณนะขอรับ
แต่วิเคราะห์ตามอาการหรือความคิดที่คุณเล่ามาขอรับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2008, 8:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Buddha
สาธุ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณ คุณ Buddha เป็นอย่างสูง
ข้าพเจ้าเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่าอาจเป็นโรคจิตวิตกก็ได้
แต่ว่าที่ข้าพเจ้ากลัวความตายนั้นก็เป็นความรู้สึก..
แบบว่า เวลามีคนมาถามว่าคุณกลัวอะไรมากที่สุด
คำตอบของข้าพเจ้าคือ ความตาย...อะไรประมาณนี้
คงไม่ต้องขนาดไปพบจิตแพทย์หรอกครับ ยิ้มเห็นฟัน


ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

เจริญธรรมครับ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
put
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 เม.ย. 2008
ตอบ: 5
ที่อยู่ (จังหวัด): พช.

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2008, 9:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แค่ใช้ชีวิตอยู่อย่างคุ้มค่าทุกนาที
เวลาตายแล้วจะได้ไม่ต้องเสียดายที่ยังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งหลายอย่าง.....ไงคะ
ใช้ชีวิตเพื่อต่อบุญและเพิ่มบุญ หาเสบียงไว้เลี้ยงตัวยามเดินทางไปสู่ความตาย
 

_________________
สงบสยบความเคลื่อนไหว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
WRP
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 ธ.ค. 2007
ตอบ: 15

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2008, 10:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนเราเกิดมาตั้งหลายชาติแล้ว แล้วก็ต้องตายทุกชาติ ไม่รู้เหมือนกันค่ะไม่รู้จะพูดยังไงให้หายกลัว เพราะตัวฉันเองไม่ค่อยกลัวตายค่ะ เป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่กลัวพิการ กลัวอยู่แล้วก็กลัวเกิดอีกมากกว่าอีก สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
นวโยคี
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2007
ตอบ: 20
ที่อยู่ (จังหวัด): bkk

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 7:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สมัยหนึ่งพระอานนท์เถระตามเสด็จพระบรมศาสดาขึ้นบนเขาแห่งหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงหยุดอยู่บนเชิงผาแห่งเขาลูกนั้น เบื้องหน้ามองออกไปเป็นห้วงทะเล มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ พระพุทธองค์ทรงตรัสถามพระอานนท์ว่า

พ.ดูก่อนอานนท์ เธอเห็นห้วงมหาสมุทรนั่นไหม

อ.เห็น พระเจ้าข้า

พ.เธอว่าหยดน้ำในมหาสมุทรจักมีมากมายสักเท่าใด

อ.มีมากมายจนไม่อาจนับได้ พระเจ้าข้า

พ.อานนท์ เธอรู้ไหมว่า ทำให้เรานึกถึงอะไร

อ.หม่อมฉัน ไม่ทราบ พระเจ้าข้า

พ.ทำให้เรานึกถึงน้ำตาของสัตว์โลก

พ.ในห้วงวัฏสงสาร อันสัตว์โลกต้องเวียนเกิดเวียนตายกันไม่รู้จักจบสิ้นนี้ มวลมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมต้องประสบกับความทุกข์และความเศร้าโศกมากบ้างน้อยบ้าง น้ำตาของสัตว์โลกที่หลั่งไหลออกมาด้วยความคับแค้นใจบ้าง ด้วยความรันทดโศกเศร้าบ้าง ด้วยต้องทนทรมานด้วยโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายบ้าง ด้วยต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปบ้าง หยดน้ำตาของสัตว์โลกเหล่านั้นนำมารวมกันเข้าแล้ว มีปริมาณมากมายกว่าน้ำในมหาสมุทรที่เห็นนี้เสียอีก..........

ความตายน่ากลัวอย่างไรก็ไม่เท่า ความต้องเกิดใหม่อีก อันนี้สิผมว่าน่ากลัวกว่าครับ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 7:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ได้อ่านทุกความคิดแล้ว ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ ผมและเชื่อว่าอีกหลายคนกลัวในสิ่งที่คุณตามรอยตั้ง คือ ความตาย และอย่างที่คุณ Buddha ว่าไว้ ว่าเป็นจิตวิตก

ได้ศึกษามา ปฏิบัติ แต่ยังไม่เข้าใจถึงกฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ เรียกว่ารแค่รู้แบบหางอึ่ง หมั่นพิจารณาอยู่เนือง ๆ ได้อ่านแนวทางของคุณมรรคาแล้วเข้าใจมากขึ้นเป็นลำดับ

ขอทำความเข้าใจซึ่งอาจเป็นความคลาดเคลื่อนของผม อริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค หากแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นใช่หรือไม่ รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะ หากแต่อย่างไร ก็เป็นเพียงภาษาบัญญัติ ไม่มีตัวตน ตามหลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 9:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

put

ตอนนี้ข้าพเจ้าลองทบทวนดีๆแล้วข้าพเจ้าคิดว่าตัวข้าพเจ้า
คงจะทึกทักเอาเองถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ตอนนี้ก็ปลงเสียแล้ว
แต่ก็มีความรู้สึกนิดๆอยู่ ยิ้มเห็นฟัน

การตุนเสบียงในที่นี้หมายถึงทานใช่ไหมครับ คุณ put
ขอขอบพระคุณ ที่ชี้ทาง สาธุ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 9:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นวโยคี

ขอขอบคุณ คุณ นวโยคี มากครับ
ข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าคง เป็นจิตวิตกอย่างท่าน Buddha ท่านว่าไว้
คงเป็นเพราะ การที่ต้องเสียพี่สาวไปนี่แหละครับ ทำให้เกิดความรู้สึก
วิตก อย่างนี้
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 9:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชินภพ พิมพะกร

ขอขอบคุณ คุณ ชินภพ มากครับ
ข้าพเจ้าต้องสารภาพจริงๆว่า มีความรู้ในเรื่องกฎไตรลักษณ์
แค่หางอึ่ง จริงๆ บางทีอาจเป็นหางมดด้วยซ้ำไป คือ ไม่มีเลย
ไม่รู้ตัวว่าข้าพเจ้า เขียนข้อ ความอวดดีอย่างนั้นไปได้อย่างไร

เจริญธรรม สาธุ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 26 เม.ย.2008, 11:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอขอบคุณ คุณ ชินภพ มากครับ
ข้าพเจ้าต้องสารภาพจริงๆว่า มีความรู้ในเรื่องกฎไตรลักษณ์
แค่หางอึ่ง จริงๆ บางทีอาจเป็นหางมดด้วยซ้ำไป คือ ไม่มีเลย
ไม่รู้ตัวว่าข้าพเจ้า เขียนข้อ ความอวดดีอย่างนั้นไปได้อย่างไร

เจริญธรรม


เท่าที่อ่าน ไม่ได้มีความอวดดีแต่อย่างใดเลยครับ คุณตามรอย อีกทั้งยังเป็นการเตือนสติได้อย่างดียิ่ง

ผมเองก็ศึกษาและปฏิบัติโดยอาศัยความรู้ที่ได้จากการอ่านบ้าง พูดคุย สนทนากับกัลยาณมิตร หรือคุณครูอาจารย์บ้าง ผมเชื่อในวิริยะเจตสิก หมั่นทำ
กุศลกรรมอันดี ละอกุศลกรรมที่ทำให้จิตมัวหมอง หมั่นทำจิตให้ขาวรอบ แล้ว
ทุกอย่างจะดี ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีความกลัว หากแต่มุ่งมั่นจะปฏิบัติให้เข้าใจ
ในไตรลักษณ์

http://www.free-webboard.com/index.php?user=vipassanatipani
ลองเข้าไปที่เว็บนี้ครับ เป็นบอร์ดที่ผมได้รับความกรุณาจากกัลยาณมิตรท่านหนึ่งให้เกียรติสนทนากับผม ในนั้นมีหัวข้อเกี่ยวกับสิ่งที่บดบังกฏไตรลักษณ์ และแนวทางการปฏิบัติอยู่พอเป็นหนทางให้ดำเนินตาม และหากมีความคิดเห็นประการใด ยินดีสนทนาเป็นเพื่อนบนโลกไร้พรมแดนแห่ง
นี้ ครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2008, 8:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วันนี้ก็มีโอกาสได้มาระบายความรู้สึกในใจจริงของข้าพเจ้า
เผื่อว่า จะมีใครซักคนที่สามารถแนะทางสว่างให้กับข้าพเจ้าได้
สิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ผีวิญญาณ สัตว์ร้าย หรือโจร
หากแต่เป็นความตาย เพราะว่าข้าพยังอยู่ในช่วงของวัยรุ่น
ยังไม่ได้ทำสิ่งที่อยากจะทำ สิ่งที่ควรจะทำ เช่น การแทนคุณบิดามารดา
การช่วยเหลือสังคม โปรดสัตว์ทั้งหลาย ทั้งหมดคืออุดมการณ์ของข้าพเจ้า
และความตายเป็นสิ่งหนึ่งที่จะพรากมันไป ทุกวันนี้แม้ว่า ข้าพเจ้าจะรู้จัก
กฎไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยงของสังขาร และเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า
อย่าประมาทนะ อย่าประมาทนะ อย่า...

แต่...มันไม่ได้ทำให้ความกลัวตายของข้าพเจ้าลดลงเลย

ท่านเห็นว่าข้าพเจ้าควรจะคิดให้แตกต่างอย่างไร โปรดบอกข้าพเจ้ามาเถิด

ขออนุญาติร่วมแสดงความคิดเห็น
การที่มีสติ สัมปชัญญะ ระลึกถึงความตายอยู่เสมอ ย่อมเป็นผู้ที่ไม่ประมาท กลัวก็ให้รู้ว่ากลัว รู้ลงไปในความรู้สึกทุกครั้งที่เกิดขึ้น ดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

กฏของไตรลักษณ์นั้นแล้วแต่ว่าผู้ไหนจะมองเห็น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ท่านเจ้าของกระทู้รู้จักนำเรื่องที่เสียพี่สาวไปมาเป็นมรณนุสติ ทำให้เห็นความคิดที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกี่ยวกับความตายได้อยู่ตลอดเวลา ( รู้แต่ไม่รู้ หรือว่ารู้ แต่กลับบอกว่าตัวเองไม่รู้ จะได้ไม่ยึดติดในสิ่งที่รู้ ) ทำให้เห็นความไม่เที่ยงของสังขาร ทำให้ไม่ประมาท

ขออนุโมทนากับกุศลจิต ที่ระลึกถึงความตายอยู่ได้ตลอดเวลา สาธุ

ขอท่านเจริญในธรรม
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 04 พ.ค.2008, 10:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

walaiporn

ขอขอบพระคุณที่มาให้ข้อคิด ณ โอกาสนี้ครับ
อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ข้าพเจ้าก็บอกตัวเองอยู่เสมอว่า
อาจจะตายวันนี้พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้ พยายามเจริญธรรม
อานาปานสติ ตามที่ชาวธรรมจักรหลายๆคนแนะนำมา
ตอนนี้ก็เลยไม่ได้รู้สึกวิตกกับความไม่เที่ยงของสังขารแต่อย่างใด
เฉยๆกับทุกจังหวะชีวิต แค่ทำวันหนึ่งให้ดี
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีความกังวนอยู่เล็กน้อย
ขอบคุณครับ

เจริญธรรม
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง