Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ป่วยแต่ไม่ทุกข์ (ก็ยังได้) - (พระไพศาล วิสาโล)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2005, 12:44 pm
ป่วยแต่ไม่ทุกข์ (ก็ยังได้)
โดย พระไพศาล วิสาโล
"ใจ เป็นนาย กายเป็นบ่าว" ภาษิตบทนี้คนไทยแต่ก่อนคุ้นเคยกันดี แต่คนสมัยนี้ชักจะลืมแล้ว ยิ่งกว่านั้นบางคนถึงกับค้านว่า ถ้าถูกตีหัว แล้วทำใจไม่ให้เจ็บจะได้ไหม
ถ้าตอบลอยๆ ว่า "ได้" ก็ดูจะง่ายเกินไป คงไม่ค่อยมีใครเชื่อเท่าไร แต่ข่าวคราวเมื่อเร็วๆ นี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า ความเจ็บนั้นอยู่ที่ใจเป็นสำคัญ ถ้าใจไม่สนใจความเจ็บ แผลที่กายก็ทำอะไรไม่ได้หรือทำได้น้อยมาก
ข่าวคราวที่ว่าไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับการทิ่มแทงตัวเองในประเพณีกินเจที่ภูเก็ต แต่เป็นเรื่องการทดลองรักษาผู้บาดเจ็บเพราะไฟไหม้ในต่างประเทศ เป็นที่รู้กันดีว่า ความน่ากลัวประการหนึ่งของแผลไฟไหม้ก็คือ ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยมาก ทุกวันนี้ปัญหานี้ยังแก้ไม่ตก แม้จะผลิตยาระงับปวดมาหลายขนานแล้วก็ตาม ก็ไม่สามารถบรรเทาปวดได้อย่างชะงัด
แต่ไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งลองใช้วิธีใหม่ แทนที่จะคิดค้นตัวยาที่ควบคุมแทรกแซงระบบประสาท หรือการส่งข้อมูลความเจ็บปวดไปที่สมอง เขาหันมาทำงานกับจิตของผู้ป่วย โดยเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ป่วยไปยังภาพที่ทำให้รู้สึกเย็นสบายและเพลิดเพลิน วิธีการก็คือให้ผู้ป่วยใส่แว่นคอมพิวเตอร์ แว่นนี้จะทำให้ผู้ป่วยเห็นภาพเหมือนจริงจากจอคอมพิวเตอร์ราวกับอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ภาพเหมือนจริงที่ว่าก็คือภาพภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะ ใช่แต่เท่านั้น ภาพนั้นยังเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับการควบคุมคันบังคับในมือของผู้ป่วย แว่นนี้สามารถทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกราวกับกำลังเล่นสกีหิมะ อยู่ในบรรยากาศที่เย็นเฉียบ
ผลที่เกิดขึ้นก็คือความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้ลดลงไปมาก ยิ่งกว่านั้นแผลยังหายเร็วกว่าปกติ กรณีนี้น่าสนใจก็เพราะว่า สมองของผู้ป่วยยังรับรู้ความเจ็บปวดอยู่ เพราะระบบประสาทยังถ่ายทอดความเจ็บปวดเหมือนเดิม แต่ตัวผู้ป่วยกลับรู้สึกเจ็บปวดน้อยมาก นั่นเป็นเพราะใจของผู้ป่วยไปสนใจกับสิ่งที่น่าเพลิดเพลิน พูดง่าย ๆ คือ ใจไม่มีที่ว่างให้ความเจ็บปวดแทรกเข้ามาได้ จะเรียกว่าจิต "วาง" ความเจ็บปวดเอาไว้ชั่วคราวก็ได้
การระงับปวดด้วยการแก้ที่ใจ แทนที่จะไปจัดการกับระบบประสาท (หรือมิติทางกายภาพ) เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับการแพทย์แผนใหม่ แม้วิธีระงับปวดด้วยแว่นคอมพิวเตอร์จะแพงและไม่สามารถเอาไปใช้ให้แพร่หลายได้ แต่มันก็มีคุณค่าอย่างมากตรงที่ชี้ว่า สุขภาวะกับจิตใจนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจแยกจากกันได้ ความเกี่ยวโยงนั้นไม่ได้อยู่ตรงที่จิตใจอาจเป็นสาเหตุแห่งความเจ็บป่วยเท่านั้น แม้แต่ความทุกข์จากความเจ็บป่วยก็ยังขึ้นอยู่กับจิตใจด้วย นั่นหมายความว่าถึงจะป่วย (กาย) แต่ไม่ทุกข์ (ใจ) ก็ได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ป่วยมะเร็งเป็นอันมาก มีความสุขมากกว่าคนปกติเสียอีก
ทุกวันนี้มีความเจ็บป่วยมากมายหลายชนิดที่ยังรักษาให้หายไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแพทย์จะ "จนตรอก" ยังมีบางสิ่งที่แพทย์ทำได้บางสิ่งที่ว่านี้ ไม่ได้หมายถึงการยืดลมหายใจของผู้ป่วยท่ามกลางความทุกข์ทรมาน ที่สำคัญกว่านั้นก็คือช่วยให้เขาไม่ทุกข์ ด้วยการใส่ใจกับจิตใจของเขา หรือสนับสนุนให้เขาสามารถดูแลจิตใจตนเองได้ จนความเจ็บป่วยทางกายทำอะไรเขาไม่ได้.
.............................................................
คัดลอกมาจาก
"สมาคมคนน่ารัก"
http://www.khonnaruk.com/
_________________
"อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ"
มาดุ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 26 มี.ค.2005, 12:45 am
...สาธุค่ะ...
พิทรายา
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 12 ส.ค. 2007
ตอบ: 103
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี
ตอบเมื่อ: 14 ต.ค.2007, 11:02 am
_________________
ความยึดมั่นถือมั่นทำให้เป็นทุกข์
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th