Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ความอิจฉา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โชติกา สิริดิกิจ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 ก.ค. 2008
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 1:27 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รู้สึกว่าไม่ชอบความอิจฉาภายในจิตของตนเองเลย อยากจะกำจัดมันออกไป พยายามทำให้หายไป ช่วยหาวิธีกำจัดความไม่ดีสิ่งนี้ออกไปหน่อยได้มั้ยค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 2:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

(ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นะคับ ไม่ได้ตอบคำถาม
แต่มาขอบ่น ใช้พื้นที่นิดนึง สาธุ
แต่มาถูกที่แล้วคับ เด๋วมีคนแนะนำอะไรดีๆเพียบ)


เจอคำถาม จขกท
คำถามใกล้ตัว ง่ายๆ ผมก็อึ้งเหมือนกัน
ทำได้แต่ตอบไม่ถูก ไปไม่เป็นเลย

เราหนอเรา เรื่องใกล้ รู้ง่ายๆ นี่โง่นัก
เรื่องไกลนี่อยากรู้จังเลย
ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เบญ_ปัฐน์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 12 ต.ค. 2006
ตอบ: 19

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 6:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดอกไม้ คนที่อิจฉาผู้อื่น มักเป็นคนไม่ค่อยยินดีในสิ่งที่คนอื่นได้รับ
ลองแก้ไขตนเองใหม่ นะครับ โดยการ ยินดีแสดงความยินดีแรกๆอาจฝืนใจ แต่เราก็ต้องทำเพื่อสร้างอุปนิสัยใหม่ในจิตตน ลองทำดูนะครับ ขอบคุณที่ให้โอกาศ
 

_________________
เรียนธรรมะเพื่อชนะผู้อื่น รู้ธรรมะเพื่อชนะตนเอง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
guest
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 8:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศึกษาความหมายของมุทิตา ในพรหมวิหาร ๔ ให้เข้าใจ แล้วบริกรรม(ท่องในใจ) "มุทิตา มุทิตา ........"ตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ทุกอริยาบถ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ไม่ให้เผลอ ถ้าเผลอแล้วนึกขึ้นได้เมื่อไหร่ ให้บริกรรมอีก อย่าให้เผลอ ถ้าเผลอก็ให้บริกรรมใหม่ แก้อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ

คุณเห็นอาการของจิตได้เร็วขึ้น แต่ยังจับอาการไม่ได้ครับ แสดงว่าสติดีขึ้นมากครับ

ตรงนี้จะส่งเสริม สมาธิ และ ปัญญา ต่อไปครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 9:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความอิจฉานี้เกิด จากการที่เราไปสนใจเรื่องของคนอื่น ไปสนใจในการกระทำของคนอื่นแล้วมาเปรียบเทียบกับตนเอง ก็จะเกิดความรุ้สึกว่า ด้อยกว่า เพราะว่าไปเปรียบเทียบ

ทีนี้เหตุที่จะต้องละ คือ ต้องรู้จักลดมานะทิฎฐิลง คือ ฝึกระลึกว่า เรายังไม่ดีพอ เราต้องปรับปรุง เพราะถ้าเมื่อใดที่เราคิดว่า เราดีแล้ว พอแล้ว ทั้งที่เรายังไม่ดี มันก็คือ มานะ พอใครได้ดีกว่าเรา เราก็ไปอิจฉา

ก็ต้องรู้จักคำว่า พอใจในสิ่งที่ตนมี และอย่าไปเปรียบเทียบ ให้รุ้จักว่า คนที่มีดีกว่าเรา มีทั้งโลก เรายังไม่ดีพอ เราก็พัฒนาตัวเรา อย่าไปเปรียบเทียบกับคนรอบข้าง ไม่เช่นนั้นแล้ว เราจะต้องอิจฉาคนเกือบทั้งโลกที่เขามีดีกว่าเรา ในหลายๆ ด้าน
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
thammathai
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 35
ที่อยู่ (จังหวัด): สังขตธาตุ

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 9:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความรู้สึก คือ กรรมปัจจุบัน
ความคิดย้ำๆกันหลายครั้ง ในอดีต หล่อหลอมให้คุณมีความรู้สึกเช่นนี้

การแก้กรรมปัจจุบัน....
คือเปลี่ยนความคิด ณ บัดนี้
เมื่อคุณคิดดีหลายๆครั้งในปัจจุบัน....
อนาคตคุณจะมีความรู้สึกที่ดี....

เมื่อคุณรู้สึกลบกับคนๆนั้น....
จิตของคุณจะบันทึกว่า...ไม่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับคุณ
เช่นเห็นเพื่อนได้ 2 ขั้น..คุณรู้สึกอิจฉา
การได้เลื่อน 2 ขั้นจะไม่เกิดขึ้นกับคุณเลย...


ตรงกันข้าม เมื่อเห็นคนอื่นได้ดี มีความสุข...
คุณควรร่วมดึงดูดความรู้สึกนั้นมาไว้ที่คุณ...
ด้วยการอนุโมทนากับตนนั้น...
แล้วสักวันสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นกับคุณด้วย...

ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
เราคือใจที่บริสุทธิ์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
โปเต้
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 10 พ.ค. 2008
ตอบ: 76
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 9:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อย่าไปเกลียด ไปโกรธมันเลยค่ะ ทำความเข้าใจกับมัน แล้วก็ให้อภัยกับเจ้าความรู้สึกนี้
เพราะไอ้เจ้าความรู้สึกนี้มันเป็นแค่เงา ที่ส่องให้เห็นถึงความรู้สึกด้อยในตัวเราเอง
ทำความรู้จักกับตัวเองใหม่ มองหาสิ่งทีดีๆในตัวเองที่จะทำให้เราเคารพ นับถือตัวเองได้ ภูมิใจกับตัวเองได้ โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งภายนอก
แล้วเจ้าตัวนี้ก็จะหายไปเองค่ะ (ไม่แน่อาจมีตัวใหม่ คือ ความเชื่อมั่นถึงขั้นหลงตัวเองมาแทน ยิ้มเห็นฟัน ..อันนี้กำลังแก้ไขตัวเองอยู่ค่ะ.. อายหน้าแดง )
 

_________________
สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 3:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อิจฉามันเป็นกิเลสตัวร้ายเลยครับพี่ ละยากมาก
เอาใจช่วยอะครับพี่...
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 8:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศึกษาธรรมะ แล้วก็ฝึกสมาธิสิ ท่านโชติกา พอมีอะไรทำแล้วความอิจฉามันก็หนีหายไปเอง แหละ
คิดอย่างคนโง่ ๆ คนหนึ่ง สาธุ สาธุ สาธุ พุทโธ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
kokorado
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 9:17 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จริงครับความอิจฉาละยากมาก ผมใช้เวลา 8 ปี ถึงหายเป็นปลิดทิ้ง เป็นตั้งแต่ อายุ14 ถึง22 ปัจจุบันรู้สึกดีมาก รู้สึกเป็นตัวของตัวเองจริงๆ ไม่มีอะไรมาคาใจ พยามทำกุศลครับเช่น ทาน เมตตาเป็นต้น พอช่วยคลายได้ เอาใจช่วยด้วยผมเคยเป็นอย่างโคม่าเลยครับยังหายได้ อะไรมันก็อนิจจังทั้งนั้น
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 2:03 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

kokorado พิมพ์ว่า:
จริงครับความอิจฉาละยากมาก ผมใช้เวลา 8 ปี ถึงหายเป็นปลิดทิ้ง เป็นตั้งแต่ อายุ14 ถึง22 ปัจจุบันรู้สึกดีมาก รู้สึกเป็นตัวของตัวเองจริงๆ ไม่มีอะไรมาคาใจ พยามทำกุศลครับเช่น ทาน เมตตาเป็นต้น พอช่วยคลายได้ เอาใจช่วยด้วยผมเคยเป็นอย่างโคม่าเลยครับยังหายได้ อะไรมันก็อนิจจังทั้งนั้น


อนุโมทนา ด้วยค่ะ คุณ kokorado ที่พิชิตความอิจฉาได้ เจริญในธรรมจ้า ยิ้มเห็นฟัน สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง